แม่นยังกับตาเห็น! “ไชยันต์ ไชยพร” วิเคราะห์ล่วงหน้า “ทุกขลาภร้อน” สำหรับ “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” “ดร.พิชิต” ป้อง “ทะลุแก๊ซ” ท้า แน่จริง “รัฐประหาร-เลื่อนเลือกตั้ง” “เถกิง” สะกิด “โบว์” บอก “3 นิ้ว” อย่าทำตัวเป็นเจ้าของ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (14 มิ.ย. 65) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความต่อเนื่องในเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่กลับมาชุมนุมอีกครั้ง ในยุค นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม. โดยมีรายละเอียดดังนี้
“ทุกขลาภร้อนๆ อันแรก ของ ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ”
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2565 อาจารย์ชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ “ยืนยันว่า เสรีภาพการชุมนุมป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ซึ่งต้องมีการอำนวยความสะดวกเต็มที่ ต้องมีการเก็บขยะ น้ำดื่ม ห้องน้ำสาธารณะ ความปลอดภัย แพทย์ฉุกเฉิน กล้องวงจรปิดเพื่อให้เกิดความปลอดภัย จำเป็นต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
…. ทั้งนี้ กทม.ต้องเตรียมพื้นที่สาธารณะให้มีการชุมนุมได้ ตามมาตรา 9 ของ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ หน่วยงานราชการสามารถกำหนดพื้นที่สาธารณะเพื่อการชุมนุมได้ โดยผู้ชุมนุมไม่ต้องขออนุญาตตำรวจตามหมวด 2 เช่น ลานคนเมือง สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น หรือสวนสาธารณะในทุกๆ เขตได้”
อาจารย์ครับ ตอนนี้ อาจารย์เป็นผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ช่วยเตรียมพื้นที่ให้ประชาชนที่กำลังชุมนุมแถวดินแดง ตามมาตรา 9 ที่ว่าหน่อยเถิดครับ
พี่น้องประชาชนเหล่านั้น จะได้ไม่ต้องเจอตำรวจเวลาชุมนุมครับ!!”
---
“ยกที่หนึ่ง ! ทุกขลาภร้อน สำหรับ ผู้ว่าฯ กทม.”
การชุมนุมต่อเนื่องที่กลับมาใหม่ และสัญญาของท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ตอนหาเสียงว่า “จะเตรียมพื้นที่สาธารณะให้มีการชุมนุมได้ ตามมาตรา 9 ของ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ หน่วยงานราชการสามารถกำหนดพื้นที่สาธารณะเพื่อการชุมนุมได้ โดยผู้ชุมนุมไม่ต้องขออนุญาตตำรวจ”
“การชุมนุมขณะนี้ จะเป็น การลองของกับ หรือ เล่นของของผู้ว่าฯ ชัชชาติ โปรดติดตาม!”
--
ทั้งนี้ ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ศ.ดร.ไชยันต์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “เท่าที่ประเมินจากสถานการณ์ คาดว่า ใครได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ถือว่าเป็นทุกขลาภ ขนาดหนัก เพราะอะไร โปรดติดตาม” (จากไทยโพสต์)
ทั้งนี้ ที่ห้องประชุมและวางแผน ชั้น 35 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) (กทม.) นายชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 8/2556 ว่า เรื่องของการชุมนุมที่ปัจจุบันมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น กทม. เองก็ต้องดูแลทุกคน แต่ประกาศจุดยืนว่า กทม. ไม่สนับสนุนความรุนแรง แต่เราต้องเตรียมพร้อม ทั้งเรื่องการแพทย์ฉุกเฉินต่างๆ
นายชัชชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กทม. เตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ต่างๆ รอบนี้มี 2 มิติที่สำคัญ เรื่องแรกเป็นคนในพื้นที่ดินแดงที่มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ สิ่งที่เราทำได้ คือ สำนักพัฒนาสังคม กับสำนักงานเขต ต้องลงชุมชนมากขึ้น ไปดูคนที่ได้รับความเดือดร้อน คนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ และดูว่าจะช่วยผ่อนบรรเทาเขายังไง รวมถึงไปดูที่ต้นเหตุว่ามีกลุ่มไหนที่เปราะบางไม่ได้รับการดูแล
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนอีกเรื่องคือการเตรียมพื้นที่ที่เราเคยเสนอนโยบายจัดจุดพื้นที่ให้ประชาชนชุมนุมได้ตามมาตรา 9 โดยไม่ได้บังคับให้ชุมนุมที่นี่ แต่จัดให้เป็นทางเลือก หากจัดในพื้นที่นี้แล้วจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกและไม่ไปกีดขวางทางจราจร และมีความปลอดภัยมากขึ้น จะประสานให้ นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. เตรียมการหาพื้นที่ แต่เบื้องต้นคงเป็นพื้นที่ของ กทม.ดีกว่า เพื่อการควบคุมจะง่ายขึ้น แต่ต้องเรียนว่าเป็นทางเลือกเฉยๆ
“ผมว่า มันเป็นสิ่งที่สวยงามที่มีคนออกมาแสดงความคิดเห็น กทม.คงไปดูที่เนื้อหาของการชุมนุมไม่ได้หรอก เพราะเราไม่รู้ว่าจะด้วยเหตุอะไร แต่หน้าที่เราคือการดูแลความสงบเรียบร้อยของเมือง ในแง่จราจร ขยะ เราเน้นในหน้าที่ของเรา” นายชัชชาติ กล่าว
ขณะเดียวกัน รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ระบุว่า
“ด่าการชุมนุมของเยาวชนในช่วงนี้ ว่า ทำให้เกิดรัฐประหาร ทำให้ไม่ได้เลือกตั้ง จงใจมาป่วนผู้ว่าสุดเลิฟคนใหม่ ฯลฯ
คือ กลัวรัฐประหารมาก? กลัวไม่ได้เลือกตั้งที่มั่นใจว่า “แลนด์สไลด์ชัวร์”? กลัวผู้ว่าฯคนใหม่ทำงานไม่ได้?
ก็อยากเห็นเหมือนกันว่า จะกล้ารัฐประหารหรือกล้าเลื่อนเลือกตั้งไปเรื่อยๆ ยันชาติหน้าจริงมั้ย?
#ราษฎรปลดแอก #กลุ่มทะลุแก๊ซ”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ข้อความระบุว่า
“ถ้าเราพยายามบอกว่า ชัชชาติ ไม่ได้เป็นฝ่ายไหน
มันจะเป็นการหมิ่นประมาทท่านมากกว่านะ 😂”
พร้อมโพสต์รูปภาพ “ชัชชาติ” ชู “3 นิ้ว” ร่วมกับฝ่ายที่นิยม 3 นิ้ว
ก่อนหน้านั้น The METTAD โพสต์ภาพ “โบว์” ที่มีข้อความติง เตือน “สลิ่ม” ไม่ควรผลัก “ชัชชาติ” ไปอยู่กับอีกฝ่าย เพราะได้รับเลือกตั้งมาจากทุกฝ่าย
พร้อมระบุว่า “ท่านประกาศตัวเป็นกีบขนาดนั้น เราจะแปรเจตนาท่านผิดๆ ได้อย่างไร”
รวมทั้งแชร์ความเห็นของ “เถกิง สมทรัพย์” ระบุว่า
“กลับมาจากทริปสุโขทัย…วันนี้มาติดตามข่าวการเมืองเจอเรื่องนี้น่าสนใจ..
คือผมเห็นด้วยกับคุณโบว์หลายเรื่อง แม้ว่าเรื่องนี้จะมองต่างนิดหน่อย แต่ยังเห็นด้วยว่า ไม่ควรมีฝ่ายไหนผลักชัชชาติไปอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง
แต่ถ้าผมจำไม่ผิด…พอชนะเลือกตั้ง คุณชัชชาติ ควงแขน คุณวิโรจน์ ลงพื้นที่คลองลาดพร้าว
รองผู้ว่าฯ ท่านหนึ่ง พอได้รับแต่งตั้งก็เอ่ยเรื่อง “คนรุ่นใหม่อยากย้ายประเทศ”
…อันนี้ชัชชาติต่างหากที่ดึงตัวเองไปพัวพันกับฝ่ายนั้นแบบชัดเจน…หลังชนะเลือกตั้ง..
คุณโบว์ต้องเขียนอีก 2 โพสต์ คือ นอกจากจะบอก “สลิ่ม” แล้ว ต้องบอก “อีกฝ่ายด้วย” ว่า อย่าทำตัวเป็นเจ้าของชัชชาติ และต้องบอกชัชชาติว่า คุณต้องดูแลคนกรุงเทพทุกคนและควรทำตาบอดสีไปเลยจะได้สบายใจ
เลือกตั้งคราวนี้ ชัชชาติใช้สีเขียว
ในสลิ่มมีสีเขียว ยังไงๆ ก็อยู่ในถ้วยสลิ่มเดียวกัน…ผมไม่ผลักไสไล่ส่งอยู่แล้ว
ย้ำอีกที …คุณโบว์ต้องคอยสะกิดชัชชาติว่าต้องวางตัวเป็นกลางทุกขณะจิตที่เป็นผู้ว่าฯ กทม. แล้วงานทุกอย่างจะมีคนพร้อมร่วมมือเต็มที่”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ “ทุกขลาภ” ของ “ชัชชาติ” ความจริงมีอย่างน้อย 2 เรื่อง และอาจกล่าวได้ว่า เป็นคนละเรื่องเดียวกันก็ว่าได้
นั่นคือ การวางตัวอยู่ “หว่างเขาควาย” จะทำได้ดีแค่ไหน หรือ จะเอาตัวรอดได้อย่างไร กรณีฝ่ายหนึ่งเชื่อว่า “ชัชชาติ” เอียงข้าง “3 นิ้ว” ขณะที่ฝ่าย “3 นิ้ว” รวบหัวรวบหางเป็นเจ้าของเสียเลย ในขณะที่ “ชัชชาติ” ได้รับเลือกมาจากทุกฝ่าย ที่ได้คะแนนเสียงถล่มทลาย
ประเด็นก็คือ จะจัดการตัวเอง บนความขัดแย้งแตกแยกของ “สองขั้ว” นี้อย่างไร ซึ่งขณะนี้ ถือว่าดึงเอา “ชัชชาติ” เข้าไปอยู่ในเกมการเมืองเรียบร้อย
ส่วนเรื่อง การจัดการกับม็อบ การจัดสถานที่ให้ชุมนุม เป็นอีกเรื่องที่ “ชัชชาติ” จะต้องมีปัญหาแน่นอน
โดยขอยกเอาความเห็นของ “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า มาชี้ให้เห็น อย่างน้อยเชื่อว่า ม็อบทะลุแก๊ซ หรือ ม็อบการเมืองส่วนใหญ่คิดไม่ต่างกัน
กล่าวคือ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 65 น.ส.พรรณิการ์ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ คัดค้านนโยบายของนายชัชชาติ ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.(ขณะนั้น) กรณีเตรียมเสนอเปิดพื้นที่บางส่วนใน กทม.เพื่อไว้ตั้งเวทีชุมนุม เพื่อไม่ให้เดือดร้อนคนอื่น ว่า
“ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ของนายชัชชาติ การชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ต้องเกิดได้ทุกที่ ผู้ว่าฯ กทม. มีหน้าที่อำนวยความสะดวกผู้ชุมนุมและดูแลให้คนยังสัญจรไปมาได้ ไม่ใช่เปิดให้ชุมนุมได้แค่บางที่ การให้ชุมนุมได้เฉพาะในที่ที่รัฐกำหนด เผด็จการเขาใช้กันเพื่ออ้างว่า ฉันเป็นประชาธิปไตย
“เหตุที่การชุมนุมต้องเกิดได้ทุกที่ เพราะหากเราชุมนุมได้เฉพาะบริเวณที่รัฐกำหนด เท่ากับให้ผู้มีอำนาจควบคุมการชุมนุมได้ การชุมนุมส่วนใหญ่เป็นการต่อต้านผู้มีอำนาจทั้งนั้น หากรัฐไม่อนุญาตเราก็ไม่ได้ชุมนุม เท่ากับประชาชนถูกพรากเอาอาวุธหนึ่งเดียวที่ตัวเองมีไป”....
นี่คือ สิ่งที่ “ชัชชาติ” จะต้องเผชิญหน้า อย่างไม่ทางหลีกพ้น เว้นเสียแต่ “3 นิ้ว” เปลี่ยนไป และทำตัวน่ารัก สมกับที่ได้ “ชัชชาติ” เป็นผู้ว่าฯของตัวเอง จนบอกได้ใช้ฟัง???
เพราะต้องไม่ลืม “ม็อบ” มี “อีแอบ” อยู่เบื้องหลัง มีการต่อสู้ทางการเมือง หวังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจ ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ นี่คือ “ยุทธศาสตร์” ของพวกเขา
ดังนั้น “ชัชชาติ” เป็นแค่บันไดทางผ่านเท่านั้น คงไม่จบลงที่ยินยอมทำตามผู้ว่าฯ กทม.แต่โดยง่าย และถ้าไม่ทำตาม ไม่ยอมรับกติกาของผู้ว่าฯ กทม. อย่างที่ไม่ฟังเสียงใครอยู่ในเวลานี้ จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างยิ่ง