“นิโรธ” เผย “บิ๊กป้อม” เตรียมเชิญสื่อถกยกเครื่องงานพีอาร์พรรคพลังประชารัฐใหม่ เปิดมิติใหม่ทางการเมืองหลังเจอ “ชัชชาติ” ฟีเวอร์ มั่นใจมันสำหรับเลือกตั้งครั้งหน้า ปรับเชิงรุกขึ้น รับที่ผ่านมาทำแต่งานไม่ค่อยได้นำเสนอ
วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงความคืบหน้าจากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชน ภายหลังจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 65 และปรากฏผลว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ว่า พรรคพลังประชารัฐต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างพรรคใหม่ เนื่องจากสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกตั้งมาเพียง 2 คน เท่านั้น ซึ่งท่านหัวหน้าพรรคยอมรับว่าตรงนี้เป็นการส่งสัญญาณ เตือนที่สำคัญมาถึงพรรคการเมืองทุกพรรค ว่า “โลกเปลี่ยน ความคิดของคนเปลี่ยน” ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐเราจะนิ่งอยู่กับที่โดยไม่คิดที่จะทำอะไรคงจะไม่ได้ ดังนั้นท่านหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จึงมีดำริว่า ควรที่จะเชิญสื่อมวลชนที่ปกติก็ทำหน้าที่วิจารณ์เหตุบ้านการเมืองอยู่ภายนอกพรรคด้วยความหวังดีต่อประเทศชาติ เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของพรรค เพื่อให้สมาชิกและผู้บริหารของพรรคได้รับฟัง เพื่อนำเอาไปประกอบการบริหารราชการแผ่นดินน่าจะเป็นผลดี ซึ่งเรื่องนี้
“ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับแนวคิดและแนวทางใหม่ๆ ของท่านหัวหน้าพรรคและจะรีบนำไปเร่งปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วงอย่างเร็วที่สุด ส่วนจะติดต่อเชิญสื่ออาวุโสท่านใดนั้น จะขอเรียนให้ทราบในเร็วๆนี้ต่อไป โดยจะมีรัฐมนตรี ผู้บริหาร และ ส.ส.ของพรรคมาร่วมรับฟังด้วย ซึ่งมั่นใจว่าทันพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า” นายนิโรธ กล่าว
นายนิโรธ ยังกล่าวถึงกรณีได้รับมอบหมายทำหน้าที่โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า จะเข้ามาช่วยชี้แจงในบางประเด็น เพื่อให้สื่อมวลชนและประชาชนได้ทราบรายละเอียดที่ตกหล่น พร้อมย้ำว่า จากนี้จะได้เห็นการประชาสัมพันธ์ของพรรคที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ทำงานอย่างเดียว ไม่ค่อยได้นำเสนอประชาชน ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ก็ทำเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศหลายหมื่นโครงการ ตามสโลแกน “มีเรา ไม่มีแล้ง”