ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เป็นได้แค่มโน "มิ่งขวัญ" ตั้งพรรคเอง ส่อแห้ว "ธีระชัย" ใครๆ ก็ชิ่ง“ธรรมนัส”
วันก่อน พรรคเศรษฐกิจไทย เพิ่งจะประโคมข่าว พรรคจะจัดประชุมใหญ่วิสามัญในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ โดยจะเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายหลังจากที่ “พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” คนสนิท "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลาออกจากหัวหน้าพรรคไป โดย "ผู้กองมนัส" ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะเป็นหัวหน้าพรรคเอง แล้วให้ "ไผ่ ลิกค์" เป็นเลขาธิการพรรค
เรียกว่า คู่ "ธรรมนัส-ไผ่" ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์ คอการเมือง แต่ไหนๆขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเอง “ร.อ.ธรรมนัส” ก็กะจะเล่นใหญ่ โชว์บารมีเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ เรียกขานเป็น"ดรีมทีม" ของพรรคให้สมกับชื่อพรรค"เศรษฐกิจไทย" ต่อหน้าธารกำนัลให้ฮือฮากัน โดยปล่อยชื่อ "ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" อดีต รมว.คลัง และ "ลุงมิ่ง" มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ ว่าพร้อมจะมาร่วมลงเรือเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรค
ใครที่รู้ข่าวหะแรกก็ต้องบอกว่า อื้อหือ “ร.อ.ธรรมนัส” เขานี่ไม่ธรรมดา เพราะทั้ง “ธีระชัย และ มิ่งขวัญ” ไม่ใช่โนเนม โดยเฉพาะ “ธีระชัย” เป็นตัวจริงเสียงจริง เป็นที่ยอมรับของแวดวงตลาดเงินตลาดทุน ขณะที่ “ลุงมิ่ง” ก็ถือว่ามีแสงพอตัว พอจะเรียกแขกเก่าๆได้บ้าง
ว่ากันว่า พรรคของธรรมนัส ก็ติดต่อทาบทามทั้งสองคนมาระยะหนึ่งแล้ว ก่อนจะให้ข่าวเตรียมเปิดตัว แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่า ทั้งธีระชัย และ มิ่งขวัญ คิดยังไง จะเข้าร่วมพรรคหรือไม่
ที่ผ่านมา “กลุ่มธรรมนัส” ก็ให้ข่าวข้างเดียว และแล้วเมื่อวานนี้ "ลุงมิ่ง" ก็ให้คำตอบว่าจะตั้งพรรคเอง ชื่อว่า “โอกาสไทย” ซึ่งหมายถึงโอกาสของคนไทยทุกคน
งานนี้ “ลุงมิ่ง” ถือจังหวะที่เป็นข่าวกับก๊วนผู้กองธรรมนัส เปิดตัวพรรคซะเลย ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับได้พูดคุยกันไปบ้าง แต่ได้บอกว่า จะทำพรรคการเมืองเอง ตอนนี้ยังไม่รู้จะได้ส.ส.เท่าไหร่ แต่เตรียมตัวเต็มที่ มีคนสนใจเข้าร่วมกับพรรคระดับหนึ่ง ขอยังไม่บอกว่าเป็นใครบ้าง แต่เห็นว่า “ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง” อดีตโฆษกกรุงเทพฯ ลูกชาย “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” อดีตผู้ว่าฯกทม. เข้าร่วมรับฟังการแถลงของมิ่งขวัญด้วย
เอาเป็นว่า ชั่วโมงนี้ “ลุงมิ่ง” มีที่ไปของตัวเองเรียบร้อย แถมจะเป็นหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯเองอีกต่างหาก
แน่นอนว่า พอถูก “ลุงมิ่ง” ชิ่งหนีไปแบบนี้ พรรคเศรษฐกิจไทย "วิชิต ปลั่งศรีสกุล" รองหัวหน้าพรรค และประธานยุทธศาสตร์พรรค ก็รีบออกมาให้สัมภาษณ์ถึงข่าวก่อนหน้านี้ว่า มิ่งขวัญ อาจจะมาอยู่ในทีมเศรษฐกิจของพรรคเศรษฐกิจไทยว่า ไม่ทราบ ไม่เคยคุย ไม่เคยชวนมิ่งขวัญ มาอยู่กับพรรคเศรษฐกิจไทยเลย เพราะเชื่อมั่นแนวความคิด และฝีมือของ “ธีระชัย” มากกว่า ว่า จะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจของบ้านเมืองได้
โดย “ธีระชัย” มีแนวคิดตรงกัน และกับพรรคที่ต้องการทำงานเป็นทีม มือเศรษฐกิจต้องมีทีมที่เก่ง มีความรู้ ความสามารถ ซึ่งเชื่อว่า ธีระชัย ตอบโจทย์รวมทั้งหลังจากได้มีการพูดคุยกันก็เชื่อมั่นว่าธีระชัย จะตัดสินใจมาร่วมกับพรรคเศรษฐกิจไทย
แต่ก็อีกนั่นล่ะ คำถามคือ มีคนรู้คำตอบของ “ธีระชัย” แล้วหรือยังว่าจะตอบรับ“พรรคธรรมนัส” มั้ย?
ฟังว่างานนี้พรรคธรรมนัส ก็อาจจะกินแห้ว เพราะรู้มาว่าถึงนาทีนี้ “ธีระชัย” ก็ยังไม่ตัดสินใจ ซึ่งมีหลายพรรคที่ติดต่อทาบทามมา ขอรอดูสถานการณ์ก่อน
เรื่องนี้มีกูรูการเมือง มองว่าโอกาสที่ “ธีระชัย” จะเข้าร่วมกับพรรคธรรมนัสเป็นไปได้น้อยมาก หรือแทบเป็นศูนย์ เพราะดูๆ แล้วไม่คุ้มที่จะเอาชื่อเสียงไปทิ้ง
คำตอบนี้อยู่ที่ตัวหัวหน้าพรรคที่ชื่อ “ธรรมนัส” และ ถ้าเลขาฯเป็น “ไผ่ ลิกค์” อีกนั่นเอง ภาพลักษณ์ของตัวคนเป็นอย่างไร พรรคก็เป็นอย่างนั้น ซึ่งนี่ก็ต้องบอกว่าเพราะ "ภาพจำ" ในอดีต ตีตราแบรนด์แปะไว้ที่หน้าผาก ยากที่จะลบออก แม้จะโป๊ะ "แป้ง" หนาๆ ยังไงๆ คนดูหน้าก็มองเห็นและจำได้อยู่ดี
สรุปว่า ดรีมทีมเศรษฐกิจพรรคธรรมนัสวันนี้ ใครๆก็ชิ่ง และชั่งใจไม่กล้าเข้าร่วม เอาแค่มโนขาย"ดรีมทีมทิพย์ "ไปพลางๆ ก่อนนะจ๊ะ
**“นารี ตัณฑเสถียร” ว่าที่อัยการสูงสุดหญิงคนแรกของประเทศไทย
วันที่ 30 กันยายนนี้ “สิงห์ชัย ทนินซ้อน” อัยการสูงสุดคนปัจจุบัน จะพ้นวาระบริหาร ขึ้นหิ้งไปเป็นอัยการอาวุโส ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ เนื่องจากมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์
“พชร ยุติธรรมดำรง” ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ. ) จึงนัดประชุม ก.อ.โดยมีวาระสำคัญ คือการเสนอชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำเเหน่งอัยการสูงสุดคนต่อไป โดยที่ประชุมก.อ. มีมติเอกฉันท์ เห็นชอบให้ “น.ส.นารี ตัณฑเสถียร” อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย ขึ้นดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดคนใหม่
ขั้นตอนต่อไป สำนักงานอัยการสูงสุด จะมีหนังสือกราบเรียนประธานวุฒิสภา เพื่อให้นำเข้าที่ประชุมวุฒิสภา พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว ก็จะนำความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ต่อไป
สำหรับ“นารี ตัณฑเสถียร” ว่าที่อัยการสูงสุด คนที่ 17 สําเร็จการศึกษา นิติศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเนติบัณฑิตไทย ปริญญาโทด้านกฎหมายเปรียบเทียบ Howard University, Wash, DC USA ปริญญาโทด้านกฎหมายระหว่างประเทศ The American University Wash, DC USA และ ปริญญาโทด้านกฎหมายการให้ความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ Vrije University of Brussel, Belgium (ทุนรัฐบาลเบลเยียม)
“นารี ตัณฑเสถียร” เริ่มทำงานเมื่อปี 2528 ที่สำนักงานคดีอาญาธนบุรี สำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษากฎหมายแก่หน่วยงานภาครัฐ และเจรจา ตรวจร่างสัญญาภาครัฐ
กระทั่งพ.ศ. 2553 ก็รับงานวิชาการ ไปเป็นอาจารย์ (พิเศษ) คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2554 ดำรงตำแหน่ง เลขานุการรองอัยการสูงสุด (นายตระกูล วินิจนัยภาค), เลขานุการอัยการสูงสุด และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย
“นารี ตัณฑเสถียร” นับว่าเป็นลูกหม้อคนหนึ่งของสำนักงานอัยการสูงสุด
ตลอดระยะเวลาของการทำงานที่ผ่านมา มีผลงานโดดเด่น อาทิ สั่งฟ้องคดีจำนำข้าว คดีไร่ส้ม คดีเพชรซาอุฯ คดีฆ่าเจ้าหน้าที่การทูตซาอุฯ สัญญาเกี่ยวกับพลังงาน สัญญาเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ สัญญาร่วมลงทุน สัญญาการจัดหาวัคซีนและยารักษาโรคระบาดโควิด-19 และได้รับเลือกเป็น คณะกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประเภทข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป) ถึง 2 สมัย
หลังจากนี้ เมื่อ“นารี ตัณฑเสถียร” ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา เเละได้รับการโปรดเกล้าฯเเล้ว ก็จะเป็นอัยการสูงสุดผู้หญิงคนเเรกของประเทศไทย