ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “ลุงตู่” เตรียมนั่งหัวหน้าพรรค ยก “ลุงป้อม” ขึ้นหิ้งเป็นประธานที่ปรึกษา เดินหน้าสู้แลนด์สไลด์!!
ช่วงที่ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ทั้ง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แทบไม่อยากเจอนักข่าว
เพราะคำถามที่ไม่อยากตอบ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น หมายถึงว่า คนกรุงไม่เอารัฐบาลแล้วใช่หรือไม่ ...กระแสนี้จะส่งผลไปถึงการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่!!
ต่อเนื่องมาถึงการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 66 วาระแรก ที่ กลุ่ม 16 พรรคเล็ก รวมทั้ง “ก๊วนผู้กอง” ขู่โหวตคว่ำ ตามกระแสตีเหล็กกำลังร้อน จน “ลุงตู่” ต้องลงไปลุยแก้สถานการณ์เอง ทั้งการชี้แจงตอบโต้ในสภา และเจรจากลุ่มก๊วนดังกล่าว ให้มายกมือหนุน จนร่าง พ.ร.บ.งบฯ ผ่านฉลุยด้วยคะแนน 278 ต่อ 194 เสียง
ถือว่าคะแนนห่างแบบท่วมท้น ส.ส.กลุ่มที่ตกลงกันไว้ไม่มีใครเบี้ยว แถมยังมี “ส.ส.ฝากเลี้ยง” ก็พร้อมใจกันมาตามนัด ทำให้ “สองลุง” รู้สึกคึกคัก กระปรี้กระเปร่า ที่จะเดินหน้าสู้ศึกซักฟอก และลงสนามเลือกตั้งครั้งต่อไป
ข่าวว่าเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “สองลุง” ได้ไปหารือกันที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ แล้วมีบทสรุปว่า จะมีการปรับโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐกันใหม่ โดย “ลุงตู่” จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ รอขึ้นนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค นำทัพลงสู้ศึกเลือกตั้ง ส่วน “ลุงป้อม” ขึ้นหิ้งไปเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค...
สูตรนี้จึงจะสกัดกั้น ทำลายแผน “แลนด์สไลด์” ของครอบครัวทักษิณได้... แต่ระหว่างนี้ต้องรอให้พ้นเดือน ส.ค.ที่จะมีความชัดเจนในประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีไปก่อน
ตอนนี้คนของ “ลุงตู่” อย่าง “แรมโบ้” เสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ไปตั้งพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” ไว้รองรับ “ลุงตู่” สุดท้ายก็กลับหลังหัน มาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐตามเดิมแล้ว ...นอกจากนี้ ยังมี “สกลธี ภัททิยกุล” อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สาย กปปส. หรือสาย “ลุงกำนัน” ที่เคยเป็นสมาชิก และกรรมการบริหารพรรค ก็เตรียมกลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้ง ส่วน “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” นั้นอยู่กับลุงตู่อยู่แล้ว
มีคำถามว่า แล้ว “ก๊วนผู้กอง” ที่ออกไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย และเพิ่งโหวตหนุน งบฯ 66 จะโอกาสกลับมาพลังประชารัฐหรือไม่ คำตอบชัดเจนคือ “ไม่”
อย่างไรก็ตาม หากมองถึงกลุ่มต่างๆ ภายในพรรคพลังประชารัฐขณะนี้ ส่วนใหญ่พร้อมที่จะสนับสนุน “ลุงตู่” อยู่แล้ว... ไม่ว่าจะเป็น “กลุ่มสามมิตร” ที่มี “สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-อนุชา นาคาศัย” เป็นแกนนำ หรือกลุ่ม “สันติ พร้อมพัฒน์” ที่รั้งตำแหน่งเลขาฯพรรคอยู่ หรือกลุ่มภาคกลางและภาคตะวันออกของ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น ที่เป็นเหมือนองครักษ์พิทักษ์ลุงตู่อยู่แล้ว
เมื่อผลการหารือกันที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ลงตัว... วันวาน “ลุงตู่” ก็ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อเปิดการสัมมนากําหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว อย่างสบายอก สบายใจ
“ลุงตู่” ยังกล่าวทิ้งท้ายกับคนภูเก็ตแบบมีนัยสำคัญว่า ...มาวันนี้ก็ให้หัวใจคนภูเก็ตไปหมดแล้ว ผมไม่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน แต่อาจจะเป็นนานหน่อย แต่มันก็ทำให้งานมันเดิน เพราะเรามียุทธศาสตร์ แต่ผมไม่ได้อยู่จนตายคารังเสียเมื่อไหร่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนอยู่แล้ว แต่ในขณะที่อยู่ ก็ขอให้ช่วยกัน ผมพร้อมที่จะยิ้มให้กับทุกคน ความจริงผมเป็นคนใจดีนะ ผมมีความตั้งใจ มีความพยายามสูง แต่จะสำเร็จหรือไม่ ก็อยู่ที่เราช่วยกัน...
เป็นการส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ไปไหน พร้อมสู้เต็มที่ ไม่มียอมตายคารังเด็ดขาด !!
**เมื่อนักร้องโดนร้อง “พี่ศรี” VS “ทนายอนันตชัย” แลกหมัด ใครดีใครอยู่
ว่ากันว่า ชั่วโมงนี้ “พี่ศรี” ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยืนหนึ่งด้านการเป็น “นักร้อง” ของเมืองไทย สถิติการยื่นร้องเรียนของ “พี่ศรี” เฉลี่ยแทบจะวันเว้นวัน ร้องได้ทุกเรื่อง ร้องได้กับทุกคน จนมาถึงกรณี “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ชื่อเสียงของพี่ศรี ก็ยิ่งโด่งดัง จากที่เคยโหยหิวหาแสงเปลี่ยนเป็นคนมีแสงในตัว ชาวโซเชียลฯ พากันพูดถึงเป็นกระแส ทั้งส่งเสียงเชียร์ว่า สังคมต้องมีคนอย่าง “พี่ศรี”
แต่ก็มีอีกด้านที่ไม่เห็นด้วยกับ “พี่ศรี” ที่ร้องไปเรื่อย ร้องได้ร้องดี อย่าง “ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช” เป็นต้น
ฟังว่า ที่ กรมการปกครอง (ปค.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เมื่อวาน (6 มิ.ย.) “ทนายอนันต์ชัย” หัวหมู่ทะลวงฟันคนชังพี่ศรี หอบเอกสาร 7 แฟ้ม ยื่นถึง “ธนาคม จงจิระ” อธิบดีกรมการปกครอง ให้เพิกถอนสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ของศรีสุวรรณ จรรยา
“อนันต์ชัย” บอกชัดๆ ว่า สมาคมนี้ร้องเรียนอยู่เรื่อย อย่างกรณีของ “ชัชชาติ” ก็ถูกร้องเรียนตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าไปทำงาน และยังดูหมิ่นประชาชนที่เลือกตั้งเข้ามา 1.38 ล้านคน ว่า เป็นไส้เดือนกิ้งกือ มองแล้วทุเรศ จึงใช้เวลารวบรวมข้อมูล 8 เดือน หอบเอกสารการร้องเรียนของ “ศรีสุวรรณ” ตั้งแต่ปี 62 จนถึงปัจจุบัน จำนวน 7 แฟ้ม 352 เรื่อง แต่ตัดเรื่องที่เกี่ยวกับคดีมาตรา 112 ออก ย้ำว่า อย่าระรานรังแกข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมืองและประชาชน เพราะคนที่ถูกร้อง เขาเสียหาย โดยเฉพาะข้าราชการที่ไม่มีทางสู้ ดังนั้น การจะไปร้องใครต้องตรวจสอบให้ดีก่อน
...การกระทำของ “ศรีสุวรรณ” ในสายตาของ “ทนายอนันตชัย” ผิดประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 101 คือ การแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าความ และการร้องเรียนผิดวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ ที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ จากนี้จะไปยื่นไปถึงกรมสรรพากร ให้ตรวจสอบสมาคมฯ ว่า มีการจัดทำบัญชีงบดุลหรือไม่ อย่างไร?
“ทนายอนันตชัย” ระบุว่า ตัวเอง ของจริง ไม่ซี้ซั้ว ไม่หิวแสง และไม่ใช่อาศัยจังหวะโหนกระแสชัชชาติ มาร้องเรียน และฝากศรีสุวรรณ ถ้าจะร้องเรียนใครต้องศึกษาข้อมูลให้ดี เพราะเขาเดือดร้อน ชื่อเสียง ข้าราชการน่าสงสาร ทำอะไรต้องทำบนศาล ไม่ใช่บนโซเชียลฯ
ข้างฝ่ายนักร้องดัง ฟาดกลับมาผ่านโซเชียลฯ ของตัวเอง ว่า ไม่พูดมาก…เจ็บคอ…เอา รธน. 2560 มาตรา 41(2)(3) มาตรา 42 มาตรา 51 มาตรา 78 ประกอบ มาตรา 5 วรรคแรก ไปอ่านกันเอาเองครับ
โดยรวมๆ ก็แย้ง “ทนายอนันตชัย” นั่นละว่า ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒๕๖๐ มาตรา ๔๑ บุคคล และชุมชนย่อมมีสิทธิ เสนอเรื่องราวร้องทุกข์ต่อหน่วยงานของรัฐ และได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว ฟ้องหน่วยงานของรัฐให้รับผิดเนื่องจากการกระทํา หรือการละเว้นการกระทําของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ
มาตรา ๔๒ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม สหกรณ์ สหภาพ องค์กร ชุมชน หรือหมู่คณะอื่น ...ประมาณนี้
นี่เป็นการแลกหมัดสวนกันดุเดือดท่ามกลางกองเชียร์โซเชียลฯ ของทั้งสองฝ่าย ส่งเสียงเชียร์ พี่ศรีสู้ๆ... ทนายสู้ๆ
งานนี้บอกได้คำเดียวใครดี ใครอยู่!