xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ” เจอดี “ปารีณา” ซัด หลอน! จากโควิด “วันชัย” ท้า ส.ส.เลือกนายกฯเอง “พนิต” ยก “ชัชชาติ” ผู้นำ ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “ทักษิณ” เจอดี “ปารีณา” ซัด หลอน! จากติดเชื้อโควิด จากแฟ้ม
เอาล่ะสิ! “ปารีณา” ฟันฉับ “ทักษิณ” หลอน ระแวงจะมีคนมาทำร้าย คาดผลจากติดโควิด “วันชัย” ออกลูกท้าทาย ส.ส. เลือกนายกฯเองได้ ถ้าไม่เห็นแก่อำนาจ “พนิต” หวัง ส.ว.เลิกฉุดรั้ง ปชต. ยก ‘ชัชชาติ’ ผู้นำ ปชช.แท้จริง

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (28 พ.ค. 65) นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐฒนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศว่า “หลอน”

ถึงวันนี้ ยังไม่พบการพิสูจน์ว่า คนที่เคยติดโควิดแล้วหาย จะมีอาการหลอน หวาดระแวง คิดว่ามีคนจะมาทำร้าย

อาการหลอนของทักษิณวันนี้ ไม่รู้มีอาการหูแว่วด้วยหรือไม่ ดังนั้น การเล่านิทานหลอกเด็ก ใส่ร้ายผู้อื่นของทักษิณ ปารีณาจะให้อภัย 100% เพราะเชื่อว่าอาจเกิดจากการติดโควิดแล้วหาย

ฝากประชาชนระมัดระวังในการรับฟังคำพูดของทักษิณด้วย เพราะเค้าคือคนปลิ้นปล้อน พูดทีหนึ่งไม่รู้อันไหนจริงอันไหนเท็จ บ้าบอคอแตกขึ้นทุกวัน ดูหนังมากและมาละเมอ เพ้อเจ้อ คล้ายคนมีปม คนไม่ปกติ เรื่องทั้งหมดที่เล่ามา เด็กอนุบาลยังไม่เชื่อเลย

ทั้งนี้ โพสต์ของ เอ๋ ปารีณา สืบเนื่องจากนายทักษิณ อ้างว่า ตัวเองเคยถูกลอบสังหารหลายครั้ง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (จากไทยโพสต์)

ภาพ นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“จะตั้งรัฐบาลไม่ใช้เสียง ส.ว.250 ได้หรือไม่...

ถ้ามีการยุบสภาหรือนายกฯลาออก หรือครบวาระแล้วเลือกตั้งใหม่ หาก ส.ส.จะตั้งรัฐบาลเองโดยไม่ใช้เสียงของ ส.ว.เลยจะทำได้ไหม... ตอบว่าทำได้แน่นอน ด้วยวิธีดังนี้

1. ส.ส.ในสภามี 500 คน รวมตัวกันให้ได้ 376-400 เสียง แค่นี้ก็โหวตให้ใครเป็นนายกได้แล้ว สามารถตั้งรัฐบาลได้ด้วยมือของส.ส.เองทั้งหมด

2. อาจจะเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา เคยเป็นศัตรูคู่อริทางการเมืองกันมายาวนาน ไม่สามารถจะร่วมรัฐบาลกันได้ ต้องลด ละ เลิกในการเป็นศัตรูคู่อริกันชั่วคราว เห็นแก่เสียงของประชาชนเป็นสำคัญ ก็ร่วมกันโหวตให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งที่มีเสียงข้างมากเป็นนายกฯจัดตั้งรัฐบาลไปก่อน จากนั้นจะไม่ขอร่วมรัฐบาล โดดมาเป็นฝ่ายค้านก็ทำได้

3. หรือจะรวมหัวรวมตัวกันเร่งแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. ให้ได้ก่อนเลือกตั้ง ถ้าสำเร็จก็ไม่ต้องใช้เสียง ส.ว.ในการโหวตนายกอีกต่อไป

ทั้ง 3 แนวทางนี้อยู่ที่ ส.ส.ทั้งนั้น ถ้าเอาจริงเอาจัง ไม่โกหกตัวเอง ไม่โกหกประชาชน เห็นแก่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่อิงกับอำนาจหวังที่จะเป็นรัฐบาล รัฐมนตรี เชื่อว่า ส.ส.ทำได้ แก้ได้ แต่ที่ทำไม่ได้ แก้ไม่ได้ แล้วอ้างว่าเป็นเพราะ ส.ว.ไม่ยอมนั้นเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นเอง คนพวกนี้อำนาจอยู่ที่ไหนก็ไหลไปที่นั้น เป็นเช่นนี้มาทุกยุคทุกสมัย แม้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ยังวิ่งไปหาผู้มีอำนาจกันร่ำไป ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” (จากสยามรัฐออนไลน์)

ภาพ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Panich Vikitsreth - พนิต วิกิตเศรษฐ์ เรื่อง ผลเลือกตั้งสนาม กทม. แสงสว่างประชาธิปไตย ส.ว.ต้องฟังเสียงประชาชน ว่า

“ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก.เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะคะแนนที่คนกรุงเทให้กับ คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ 1.3 ล้าน ซึ่งมากที่สุดเท่าที่ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในอดีตเคยได้รับ ผมถือว่า เป็นแสงแห่งความหวังในการกอบกู้ซากประชาธิปไตยที่ถูกทำลายมาตลอดระยะเวลา 8 ปี

จะเห็นว่า หลังทราบผลเลือกตั้ง ประชาชนให้การยอมรับและสนับสนุนการทำงานของคุณชัชชาติอย่างเต็มที่ นั่นเพราะคุณชัชชาติ คือ คนที่เข้ามาโดยถูกต้องตามครรลองระบอบประชาธิปไตย

คุณชัชชาติ ไม่มีอำนาจรัฐหรือกติกาใดมาเอื้อประโยชน์ให้ คะแนนที่ท่วมท้นเกิดจากความต้องการของประชาชนใน กทม. อย่างแท้จริง

ผมหวังจะเห็นว่า การแสดงพลังผ่านระบอบประชาธิปไตยแบบนี้อีกครั้งในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า เพื่อให้ประชาชนได้เลือกคนที่เขาต้องการและไว้วางใจมาบริหารประเทศจริงๆ โดยปราศจากกลไกและกติกาใดๆ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมาขัดขวาง

เพราะผมเชื่อว่า ไม่ว่าใครได้เข้ามาบริหารประเทศ หากเป็นความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ในกติกาที่เป็นธรรม จะได้รับการยอมรับและสนับสนุนการทำงานเหมือนที่คุณชัชชาติได้รับ

แต่ผมไม่แน่ใจว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าคนที่ได้รับฉันทามติจากประชาชนแบบเดียวกับคุณชัชชาติ จะได้เข้ามาบริหารประเทศหรือไม่ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังมีกติกาหลายอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อระบอบประชาธิปไตยอยู่ไม่น้อย

โดยเฉพาะอำนาจของ ส.ว. ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ที่ยังสามารถร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ตรงนี้น่ากังวลว่า หากมีใครพยายามจะรักษาอำนาจตัวเองใช้กลไกนี้สกัดกั้น เราอาจไม่ได้ผู้นำที่มาจากความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงอีก

ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาที่มีทั้งหมด 750 เสียง (ส.ส.500 คน ส.ว.250 คน) โดยต้องได้ 376 เสียง หากการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถรวบรวมเสียง ส.ส.ได้ถึง 376 เสียง นั่นหมายความว่า เสียง ส.ว.จะเป็นตัวชี้ขาดทันที

มันน่าสนใจมากว่าหาก ส.ว.ลงมติแตกต่างกับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนในการเลือกตั้ง กระบวนการฟื้นฟูประชาธิปไตยที่เราคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นหลังเห็นแสงสว่างแห่งความหวังในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ที่ผ่านมาจะสะดุดหยุดลงอีกครั้ง

ผมขอยืนยันตรงนี้ว่า ไม่ได้มีอคติกับการมี ส.ว. และสนับสนุนให้มี ส.ว.ในกระบวนการนิติบัญญัติเพื่อถ่วงอำนาจตามครรลองที่ควรจะเป็น แต่การให้อำนาจ ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นสิ่งที่ผมไม่เห็นด้วยมาตลอด

แต่ในเมื่อบทเฉพาะกาลกำหนดเอาไว้แบบนั้น และที่ผ่านมา ไม่ได้มีการแก้ไขอำนาจ ส.ว.ตรงนี้ เพราะ ส.ว. และผู้มีอำนาจไม่ยินยอม ผมจึงได้แต่หวังว่า เมื่อถึงการเลือกตั้งใหญ่อีกไม่ถึง 10 เดือนข้างหน้า ส.ว.จะเคารพเสียงของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง ไม่ทำอะไรที่เป็นตัวฉุดรั้งกระบวนการฟื้นฟูประชาธิปไตยของประเทศ เช่นฝ่ายไหนชนะและได้เสียงข้างหน้า ก็ควรยอมรับมติดังกล่าวนั้น

เพราะเราเห็นแล้วว่า กระบวนการใดๆ ที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม หรือเป็นการยัดเยียดให้กับประชาชน สุดท้ายจะไม่ได้รับการยอมรับ และนำพาประเทศไปสู่วิกฤตการณ์ต่างๆ อย่างที่เราเห็นกันมาตลอดหลายปีมานี้

คุณอาจรักษาอำนาจได้ แต่คุณจะไม่มีวันได้ใจประชาชน และที่สุดคุณจะไม่อาจต้านทานพลังความต้องการของประชาชนได้ เหมือนกับที่เราเห็นในสนาม กทม. #ส.ว.ต้องฟังเสียงชาวบ้าน# หนุนแก้มาตรา 272 (จากสยามรัฐออนไลน์)

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ โพสต์ของ ส.ว.วันชัย ที่แสดงทัศนะเอาไว้ค่อนข้างตรงประเด็น และตรงใจ แม้เรื่องอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯได้ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ถ้ามีการแก้ไข ก็จะทำให้หมดปัญหาเรื่องข้อกล่าวหาทั้งปวง

แต่ประเด็นสำคัญ ที่ส.ส.จะต้องหันกลับมาดูตัวเองให้ถ้วนถี่ และไม่เอาแต่โทษคนอื่น อ้างโน่น นี่ โกหกประชาชน ก็คือต้องทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ต่อบ้านเมืองอย่างจริงจัง ไม่หวังแต่อำนาจ เพื่อถอนทุนคืนจากที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลในการเลือกตั้ง และคิดแต่จะแสวงหาผลประโยชน์หลังได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เรื่องเหล่านี้คนไทยรู้ดี และไม่ต้องตอกย้ำอะไรมาก เพียงแต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า ไม่เลือกเข้ามา แต่ถึงไม่เลือกคนอื่นก็เลือก เพราะเรื่องเงินซื้อสิทธิขายเสียง ก็รู้กันทั้งประเทศอยู่แล้ว

ดังนั้น ส.ส.น่าจะลองทำตามข้อเสนอของ ส.ว.วันชัย ก็ดีเหมือนกัน นั่นคือ ส.ส.ทั้งหมด ตัดสินใจเลือกใครก็ได้เป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องให้ทำได้ แล้วจากนั้น ค่อยมาแบ่งหน้าที่กันทำงาน ตามที่ประชาชนไว้วางใจเข้ามา เช่น พรรคที่ได้ส.ส.มากที่สุด ก็เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนจะจับขั้วกับพรรคไหนบ้าง ก็ตามสะดวก ที่เหลือเป็นฝ่ายค้าน ลองดูมั้ย ประชาชนน่าจะชอบ และเชียร์อย่างเต็มที่

จากนั้น นายกฯ และรัฐบาล ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานตอบสนองประชาชน เพื่อประเทศชาติ โดยไม่มีข้อกล่าวหา หรือ หลักฐานแม้แต่น้อยว่า ทุจริตคอร์รัปชัน

ด้านฝ่ายค้าน ก็ค้านอย่างมีเหตุผล สร้างสรรค์ มีหลักฐานมัดแน่นในการกล่าวหา ไม่เล่นเกมการเมืองใส่ร้ายป้ายสีกัน ไม่เอาแต่ข่าวตามสื่อมวลชนมาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

อย่างนี้แล้ว ไม่ต้องไปแหกปากร้องหาประชาธิปไตยที่ไหน และไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดรัฐประหาร ยึดอำนาจ เพราะคนไทยจะออกมาปกป้องเอง ถ้าส.ส.แสดงให้เห็นขนาดนี้

แต่ที่ผ่านมา คนไทยทุกคนรู้ว่า ส.ส.ของพวกเขาเป็นอย่างไร ไม่เชื่อลองไปถามประชาชนดู ถ้าเขาพูดความจริง!?


กำลังโหลดความคิดเห็น