xs
xsm
sm
md
lg

หมกมุ่น? “ธนาธร” เล่าประสบการณ์เยือนนอร์เวย์ ไม่วายโยง “สถาบันกษัตริย์” “ตะวัน” หวัง “คุกคือที่ของพวกคุณ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พบคนไทยในนอร์เวย์ ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัว Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
พะยี่ห้อ “ธนาธร” เล่าประสบการณ์เยือนนอร์เวย์ ไม่วายโยง “สถาบันกษัตริย์” “ทานตะวัน” หวังสักวันได้เอาคืน “ถ้าอำนาจเป็นของประชาชน คุกคือที่ของพวกคุณ ไม่ใช่ของพวกเรา” หลังศาลให้ประกัน “พิธา” ดูแล
 
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (27 พ.ค. 65) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ระบุว่า

“พบคนไทยผู้รักประชาธิปไตยที่นอร์เวย์ อบอุ่น และเติมแรงใจให้กัน

หลังเสร็จจากงานสัมมนาเมื่อวานนี้ ผมได้นัดพบกับกลุ่มคนไทยที่อาศัยอยู่ในนอร์เวย์ประมาณ 40 คน

เรามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และให้กำลังใจกัน

การพบปะกับกลุ่มคนไทยในนอร์เวย์ครั้งนี้ จัดโดยกลุ่ม Oslo Frihet (หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า อิสรภาพ - Freedom) และกลุ่มเฟซบุ๊ก “สะใภ้และเขยนอร์เวย์ norsk svigerfamille” ซึ่งมีผู้ประสานการจัดงานครั้งนี้คือ พี่ปัก กับ พี่ฟาง

ทั้งสองท่านน่ารักมาก พี่ฟางเป็นผู้จัดการร้านอาหารและร้านกาแฟ 6 ร้าน ที่อยู่ในสถานีรถไฟกลางของกรุงออสโล เธอชงกาแฟอร่อย และยังทำแซนด์วิชให้ผมทานเป็นข้าวเย็นในวันนั้นอีกด้วย ขอบคุณที่ดูแลกันอย่างอบอุ่นครับ

ภาพ บรรยากาศการพูดคุย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พบคนไทยในนอร์เวย์ ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัว Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ส่วนพี่ปักนั้น จบปริญญาตรี วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากธรรมศาสตร์ และมาเรียนต่อปริญญาเอกด้านพลังงานที่ประเทศนอร์เวย์ เขาแต่งงานกับชาวนอร์เวย์ และย้ายตามภรรยาไปอยู่เมือง Bergen และบริหารร้านอาหารร่วมกับภรรยา พี่ปักสนใจการเมืองและต้องการเห็นประชาธิปไตยในประเทศไทย จึงร่วมสร้างกลุ่ม Oslo Frihet ขึ้นมาเพื่อรวมกลุ่มคนไทยที่มีใจรักประชาธิปไตยในนอร์เวย์เข้าด้วยกัน

พวกเรานั่งคุยกันถึงหลายเรื่องในช่วงสองชั่วโมงนั้น ตั้งแต่เรื่องสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย การประเมินการเลือกตั้งใหญ่ในปี 2566 หลายคนถามอย่างกระตือรือร้นว่า พวกเขาที่ทำงาน/อาศัยอยู่ต่างประเทศจะช่วยการผลักดันประชาธิปไตยในประเทศไทยได้อย่างไรบ้าง

เราแลกเปลี่ยนกันถึงสวัสดิการและความมั่นคงในชีวิต ระหว่างคนไทยกับคนนอร์เวย์

ผมพบคนไทยคนหนึ่งที่เป็นครูในโรงเรียนของเทศบาลแห่งหนึ่งในนอร์เวย์ เธอเล่าว่า ช่วงที่ผ่านมา เธอได้รับบทบาทให้ไปช่วยดูแลผู้ลี้ภัยสงครามจากยูเครนด้วย เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐที่จะโอบอุ้มช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ผมตื่นเต้นมาก และสัญญาว่าจะติดต่อกลับไปหาเธอเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม

เราแลกเปลี่ยนกันถึงบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในนอร์เวย์ มีน้องคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า สมาชิกในราชวงศ์ของนอร์เวย์ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย วันหนึ่งเขาเดินไปร้านสะดวกซื้อ แล้วก็เจอกับมกุฎราชกุมาร กำลังซื้อปลั๊กสามตาอยู่ข้างๆ สมาชิกในราชวงศ์ของนอร์เวย์มีข่าวบ่อยๆ ว่า ใช้รถไฟสาธารณะและขึ้นเครื่องบินพาณิชย์เหมือนกับประชาชนทั่วไป

หลังจบงาน มีพี่ผู้ชายคนหนึ่งเห็นผมสนใจเรื่องรัฐสวัสดิการในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย แกจึงซื้อหนังสือมอบให้ผมหนึ่งเล่ม เป็นเรื่องเกี่ยวกับปรัชญา โครงสร้าง และการทำงานของรัฐในนอร์เวย์ ขอบคุณมากจริงๆ ครับ มีประโยชน์มาก ผมจะใช้มันเพื่ออ้างอิงในการทำนโยบายพัฒนาประเทศไทยต่อไป

ส่วนพี่ผู้หญิงอีกคนนำกระเป๋าสะพายหลังมาฝากผมหนึ่งใบ เธอบอกว่าเป็นกระเป๋าของสหภาพแรงงานที่เธอทำงานอยู่ ขอบคุณมากเช่นกันครับ

ผมประทับใจในการต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งๆ ที่พี่ปักและพี่ฟางตกลงกับผมว่าจะจัดงานและแจ้งกลุ่มล่วงหน้าเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ทุกท่านมอบให้

ก้าวเดินต่อไปร่วมกันเพื่อสร้างประชาธิปไตยในประเทศไทยครับ”

ภาพ “ตะวัน” น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ขอบคุณภาพจากสยามรัฐออนไลน์
ขณะเดียวกัน “ตะวัน” น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมอิสระ วัย 20 ปี หลังศาลปล่อยตัวชั่วคราว โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Tawan Tantawan ว่า

“โพสต์นี้อยากเริ่มต้นด้วยการขอบคุณทุกๆ คน

ขอขอบคุณกำลังใจจากพ่อแม่พี่น้องเพื่อนๆ ข้างนอกมากๆ จริงๆ กำลังใจจากทุกคนคือสิ่งที่เยียวยาจิตใจพวกเราได้ดีมากๆ ตอนอยู่ในคุก ทุกๆ ครั้งที่ทนายมาพบและมาบอกกล่าวเล่าถึงกำลังใจและการต่อสู้ของคนข้างนอกให้ฟัง ทำให้พวกเรารู้สึกมีกำลังใจขึ้นมากๆ

เช่นเดียวกัน ขอขอบคุณทนายทุกๆ คนที่ทำงานหนักมากๆ เพื่อพวกเรา ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ และขอขอบคุณ คุณทิม พิธา มากๆ ค่ะ ที่มาเป็นนายประกันให้ ขอบคุณพรรคก้าวไกล ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ

ขอบคุณทุกคนมากๆ มากๆ จริงๆ ไม่รู้จะตอบแทนกำลังใจ การต่อสู้และการช่วยเหลือจากทุกคนยังไงได้บ้าง ขอบคุณมากๆจริงๆ ค่ะ ขอขอบคุณจากใจจริงๆ

ภาพ โพสต์ของ “ตะวัน” ขอบคุณภาพจากสยามรัฐออนไลน์
และอีกอย่างที่สำคัญ คือ “ตอนนี้ยังมีเพื่อนของเราอยู่ในเรือนจำอีก 10 คน”

⁃ เวหา 77 วัน

⁃ คงเพชร 46 วัน

⁃ คทาธร 46 วัน

⁃ ปฏิมา 46 วัน

⁃ พรพจน์ 45 วัน

- เอกชัย 38 วัน

⁃ สมบัติ 29 วัน

⁃ เก็ท โสภณ 25 วัน (อดอาหารมาแล้ว 21 วัน)

⁃ ใบปอ 24 วัน

⁃ บุ้ง 24 วัน

อยากบอกผู้มีอำนาจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับกุมคุมขังประชาชนที่ออกมาพูดความจริงทั้งหลายว่า

“คุกไม่ใช่ที่ของพวกเราค่ะ และวันนึงที่พวกเราชนะ วันนึงที่อำนาจเป็นของประชาชน คุกคือที่ของพวกคุณ” (จากสยามรัฐออนไลน์)

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 พฤษภาคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ อายุ 20 ปี นักเคลื่อนไหวอิสระ อดีตกลุ่มทะลุวัง จำเลยคดีดูหมิ่นสถาบันฯ ตาม ป.อาญา มาตรา 112 ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ม.368 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในคดีโพสต์เฟซบุ๊กไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จฯ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 65

โดยได้เบิกตัว นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความ และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ร้องขอปล่อยชั่วคราว

โดยภายหลังไต่สวนศาลพิจารณาเเล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลย มีกำหนด 1 เดือน นับแต่วันนี้โดยกำหนดเงื่อนไข ให้จำเลยติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องติดตามตัว (กำไล EM) ห้ามจำเลยออกนอกเคหสถาน ตลอดระยะเวลาที่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เว้นแต่เป็นกรณีเจ็บป่วยหรือได้รับอนุญาตจากศาล หากเป็นกรณีเจ็บป่วย ให้แสดงหลักฐานทางการแพทย์ต่อศาลภายใน 3 วัน ห้ามจำเลยกระทำการในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหาหรือเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ อันอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และห้ามจำเลยกระทำการใดๆ ในอันที่จะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือเกิดความกระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ จะได้รับอนุญาตจากศาล

โดยตั้ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ร้องขอปล่อยชั่วคราว เป็นผู้กำกับดูแลความประพฤติของจำเลย มีอำนาจในการว่ากล่าวตักเตือนและควบคุมมิให้จำเลยกระทำผิดเงื่อนไขของศาลอย่างเคร่งครัด หากมีการกระทำผิดเงื่อนไขถือว่าผู้ร้องขอปล่อยชั่วคราวผิดสัญญาประกัน...

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ จุดประเด็นความขัดแย้ง และความเห็นต่างในคนไทย จนอาจนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงในอนาคต โดยเฉพาะเกี่ยวกับสถาบันฯ ซึ่งมีความพยายามจากบางฝ่ายที่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นกระแสหลักในสังคมไทย ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ ยังมีความจงรักภักดี และพร้อมปกป้องสถาบันฯ

ดังนั้น การปลุกกระแสเรื่องนี้ นอกจากอาจทำให้เกิดการปะทะกันด้วยความรุนแรง หรือ แตกแยกแบ่งข้างกันหนักขึ้นของคนไทย ยังดูเหมือนบางคน บางกลุ่ม หวังผลจากความขัดแย้งแตกแยกนี้ด้วย จริงหรือไม่ คนที่ทำก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจดี หรือว่าไม่จริง!?


กำลังโหลดความคิดเห็น