“สมศักดิ์ เจียม” ขยี้ “ทักษิณ” หลอกใช้ “เสื้อแดง” สมใจแล้วเท! อดีตเสื้อแดงแฉเดือด “พิธา” จ่อประกัน “ตะวัน”

กัดไม่ปล่อย! “สมศักดิ์ เจียม” ตามบดขยี้ “ทักษิณ” เลือกตั้งทีจึงเรียกหา “เสื้อแดง” สมใจแล้วทิ้ง อดีตเสื้อแดงอีสาน-เหนือ ต่อต้านเพื่อไทย สู้แทบตายมีค่าเพียงหมาตัวหนึ่ง เผย “พิธา” เตรียมใช้ตำแหน่ง ส.ส.ยื่นประกัน “ตะวัน”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันที่ 15 พ.ค. 65 เฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul ของ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งหลบหนีคดีการกระทำความผิดตามมาตรา 112 ไปอยู่ประเทศฝรั่งเศส โพสต์เมื่อเวลา 15:12 น. ระบุว่า เสียงเรียกหา “เสื้อแดง” ให้กลับบ้าน (พรรคเพื่อไทย) ทำให้ชวนนึกถึงว่า ถึงคราวเลือกตั้ง ก็เรียกหากันที พอเลือกตั้งได้ ก็เปลี่ยนท่าทีเหมือนคราวเลือกตั้งชนะปี 2554 ทักษิณ ก็บอกให้เสื้อแดงว่า ส่งแค่นี้พอแล้ว “พี่น้องนี่ทำมาเยอะแล้ว แต่เมื่อทำมาถึงจุดหนึ่ง ก็หมายความว่า เหมือนกับผมจะว่ายน้ำ ผมจะข้ามฝั่ง พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่งมา ถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว ผมต้องเดินทางต่อขึ้นภูเขา พี่น้องจะแบกเรือมาขึ้นภูเขาทำไม ถึงเวลาที่ผมจะขอนั่งรถขึ้นเขา”

ขณะเดียวกัน นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน เปิดเผยว่า วันนี้ตนและสมาชิกได้ออกมาต่อต้านพรรคเพื่อไทยอย่างหนัก หลังพรรคเพื่อไทยจะดึงคนเสื้อแดงมาร่วมเป็นครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งอยากจะให้คิดทบทวนความหลังด้วยว่า ที่พวกเราคนเสื้อแดง และอดีตคนเสื้อแดง เคยออกมาต่อสู้เพื่อพรรคเพื่อไทย จนทำให้หลายคนติดคุก หลายคนเสียชีวิต สุดท้ายมีนักการเมืองคนไหนมาช่วยเหลือพวกเราบ้าง

มิหนำซ้ำ ในปี พ.ศ.2554 ทางพรรคเพื่อไทย คัดสรรผู้สมัครเป็น ส.ส.แต่ละจังหวัดก็เป็นกลุ่มคนที่ไม่เคยเห็นหัวประชาชนคนเสื้อแดงที่เคยออกมาต่อสู้ด้วยกัน คนสู้กลับถูกปล่อยทิ้ง คนมีเงินกลับได้เป็นผู้สมัคร ส.ส. สุดท้ายแกนนำบางคนกลับได้รับตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีก็ไม่เคยสนใจจะมาช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ได้รับความเดือดร้อน บางคนต้องติดคุก หรือ หนีตายออกนอกประเทศ

แต่วันนี้ คุณกลับจะมาถามหาคนเสื้อแดง เพื่อจะมาเป็นครอบครัวเพื่อไทย คุณเคยคิดบ้างไหมว่า พวกเขาเหล่านั้นต้องพบเจออะไรมาบ้าง คุณยังจะมาล้อเล่นกับความรู้สึก พอเสียทีเถอะค่ะ กับวาทกรรมสวยหรู แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม ที่ทำเพื่อตัวเองและครอบครัว อย่าเอาประชาชน หรือคนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยในอดีต มาเป็นเครื่องมืออีกต่อไปเลย ถ้าคุณรักประเทศไทยจริงๆ ต้องหันมาร่วมมือกันสลายสีเสื้อให้เป็นสีเดียวกัน นั่นคือ สีแห่งความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนได้ส่งสัญญาณไปยังสมาชิกคนเสื้อแดง และอดีตสมาชิกหมู่บ้านเสื้อแดง ให้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค แล้วมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะพวกเราถูกวิทยากรและแกนนำหลอกมานานแล้ว ให้ชังชาติ ชังแผ่นดิน จาบจ้วงหวังล้มล้างพระมหากษัตริย์

ขณะที่ นายสมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับประธานจังหวัดตาก และ จังหวัดอุตรดิตถ์ ว่า ต่อไปพวกเราจะไม่ยอมถูกหลอกอีกต่อไปแล้ว จะขอทำงานเพื่อลบล้างความผิดที่เคยถูกหลอกให้ดำเนินการมา แม้ว่าจะไม่ได้กระทำเอง แต่พวกเราก็เป็นเจ้าบ้านที่มีวิทยากรมาปราศรัยหวังล้มล้างสถาบัน วันนี้จึงขอเดินหน้าเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน ให้ครบทั้งภาคเหนือ และได้ประสานงานไปตามคนเสื้อแดง และ อดีตสมาชิกหมู่บ้านเสื้อแดง ให้ลาออกจากสมาชิกพรรคการเมืองนั้น พวกเราจะไม่ยอมเป็นทาสหรือขี้ข้าให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ทำทุกวิถีทางที่จะเอาผลประโยชน์เพื่อตนเองและครอบครัว โดยไม่เห็นหัวคนเสื้อแดง ที่เคยสู้ถวายชีวิตเพื่อพวกเขา แต่สุดท้ายพวกเราก็ถูกทิ้ง ถูกดำเนินคดีมาอย่างต่อเนื่องและไม่มีใครยื่นมือช่วยเหลือ

“พอกันทีกับคำหลอกลวง ที่พวกเราเคยหลงเชื่อ เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย เราไม่อยากเป็นควายหรือเป็นหมาอยู่ในคอกของใครอีกต่อไปแล้ว เราสู้แทบตายเพื่อคุณแต่สุดท้ายเรากลับถูกมองว่าเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งที่ไม่เคยมีคุณค่าในสายตาของพวกคุณ” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ กล่าว


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 65 ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล สำโรง สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการจัดงาน “ครอบครัวเพื่อไทย สมุทรปราการ” นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรค พท. ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และ นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ.ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นางสาวแพทองธาร กล่าวเปิดงานว่า กว่า 10 ปีที่ผ่านมา การเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ของประเทศไทย ได้ทำลายครอบครัวไปมากมาย พี่น้องประชาชนหลายสิบล้านคนต้องสูญเสียชีวิต สูญเสียกำลังใจ เจ็บปวด แต่ตนเชื่อมั่นว่า ทุกคนยังมีความหวัง เพราะพรรคเพื่อไทยยังมีพี่น้องคนเสื้อแดง พี่น้องคนเสื้อแดง มีพรรคเพื่อไทย เป็นครอบครัวคนเสื้อแดง ครอบครัวเพื่อไทย

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า อุดมการณ์ของพรรคไม่เคยเปลี่ยนแปลง จากพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน สู่เพื่อไทย คือ ต้องการให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องกลับไปมีศักดิ์ศรีอีกครั้ง ในวันนี้แม้ทุกอย่างจะดูเหมือนไม่มีทางออก แต่เชื่อมั่นว่า ทางออกเดียว คือ พรรคเพื่อไทยกลับมาชนะการเลือกตั้ง ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ประเทศชาติจะกลับมาเจริญอีกครั้ง

“ขอเชิญชวนให้พี่น้องเสื้อแดง กลับบ้าน มาร่วมกันกับพรรคเพื่อไทยในการเปลี่ยนแปลงประเทศ ด้วยการทวงคืนอำนาจรัฐ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย เราไม่เคยทิ้งกันไปไหน ขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงที่เป็นความเข้มแข็ง เราผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย และพรรคเพื่อไทยคงไม่มาถึงทุกวันนี้ หากไม่ได้รับพลังจากพี่น้องเสื้อแดงทุกคน ขอบคุณนะคะที่ไม่เคยทิ้งกันไปไหน กลับบ้านเรากันค่ะ” นางสาวแพทองธาร กล่าว


ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก การเมืองไทย ในกะลา โพสต์ประเด็น “พิธา” เตรียมใช้ตำแหน่ง ส.ส.ยื่นประกันตัว “ตะวัน”

เนื้อหาระบุว่า วันนี้เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค. 65) ที่ศาลอาญา จะครบกำหนดฝากขัง “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมวัย 20 ปี ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเธอถูกกล่าวหาจากการไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จฯ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 65 ทีมทนายความได้ยื่นคัดค้านการฝากขังต่อในผัดที่ 7 และ “ทิม” พิธา เตรียมใช้ตำแหน่ง ส.ส. ขอประกันตัวตะวัน

ก่อนหน้านี้ (5 พ.ค. 65) พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้ยื่นขอฝากขังตะวันต่อผัดที่ 6 โดยอ้างว่า ต้องสอบสวนพยานเพิ่มอีก 2 ปาก แม้จะยอมรับว่าผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่สามารถไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งก็ตาม ก่อนที่ศาลอาญาจะอนุญาตให้ฝากขังต่ออีก 12 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 17 พ.ค. นี้

ก่อนครบกำหนดฝากขัง ทีมทนายความได้ยื่นคัดค้านการฝากขังต่อของพนักงานสอบสวน ศาลจึงกำหนดให้มีการไต่สวนการฝากขังในวันพรุ่งนี้ โดยยังไม่ได้กำหนดเวลาไต่สวน ทนายความยังขอให้เบิกตัวทานตะวันมาร่วมฟังการไต่สวนที่ศาลด้วย แต่ศาลให้ร่วมผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากทัณฑสถานหญิงกลาง

ขณะเดียวกัน นอกจากการคัดค้านการฝากขังต่อ ทีมทนายความเตรียมจะยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวทานตะวันอีกครั้ง โดยมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะใช้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของตนเป็นหลักประกัน โดยการขอประกันตัวในครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 2 หลังจากศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวเป็นต้นมา

ทั้งนี้ ทานตะวัน ถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. 65 โดยเธอเริ่มอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิในการประกันตัวมาตั้งแต่วันดังกล่าว จนถึงวันที่ 16 พ.ค. 65 เป็นระยะเวลารวม 27 วันแล้ว
https://www.facebook.com/668420999874424/posts/5046966822019798/

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 65 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว คดีดำฝากขัง ฝ. 252/2565 ที่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ยื่นคำร้อง ขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวอิสระ อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ตาม ป.อาญา มาตรา 112

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามคำร้องและเอกสารท้ายคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ปรากฏภาพของผู้ต้องหาโพสต์หมายกำหนดการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชทานน้ำหลวงสรงศพเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต ซึ่งเป็นหมายกำหนดการของวันที่ 17 มี.ค. 65 แสดงว่า ผู้ต้องหาทราบหมายกำหนดการเสด็จฯแล้ว แต่ผู้ต้องหายังคงเดินทางไปบริเวณที่มีการเสด็จฯ ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. และอยู่ในบริเวณดังกล่าวจนถึงเวลาประมาณ 19.00 น. ตลอดระยะเวลาที่ผู้ต้องหาอยู่ในบริเวณดังกล่าว ผู้ต้องหาโพสต์ข้อความบรรยายถึงพื้นที่โดยรอบ โดยมิได้มุ่งหมายเข้าร่วมรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างแท้จริง แม้ผู้ต้องหาจะระบุข้อความว่า “จะไปกินแมค ก็ไม่ยอมให้ไป เพราะขบวนเสด็จฯ พ่อหลวงจะผ่านตรงนั้น ทรงพระเจริญ” ตามเอกสารท้ายคำร้อง แต่หากผู้ต้องหาต้องการไปรับประทานอาหารจริง ผู้ต้องหาสามารถระบุสถานที่รับประทานอาหารได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. และหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวได้ แต่ไม่ได้ทำเช่นนั้น ผู้ต้องหามุ่งที่จะเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

อีกทั้งการที่ผู้ต้องหาโพสต์ภาพตามเอกสารท้ายคำร้องพร้อมบรรยายข้อความว่า “ขบวนเสด็จฯเดือดร้อน?” แม้จะเป็นภาพที่ผู้ต้องหาเคยโพสต์มาก่อน แต่ผู้ต้องหาก็เลือกที่จะโพสต์ภาพดังกล่าวได้อีกหรือไม่ก็ได้ การที่ผู้ต้องหา
เลือกโพสต์ข้อความดังกล่าวอีกครั้ง ถือว่าผู้ต้องหากระทำการในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ อีกทั้งผู้ต้องหารับข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 65 และ วันที่ 15 เม.ย. 65 ผู้ต้องหาได้เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการรับเสด็จฯตามเอกสารที่ศาลให้ตรวจดู ถือว่าเป็นการเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จึงให้เพิกถอนคำสั่งคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา....

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ ความชัดเจนในการต่อสู้ทางการเมือง ที่สะท้อนผ่านความคิดเห็นของหลายคน และเรื่องราวที่เกิดขึ้น

โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดงก่อนหน้านี้ ว่า มีใครอยู่เบื้องหลัง ทำเพื่อใคร

รวมทั้งการเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ เยาวชน นักเรียนนักศึกษา ที่นำไปสู่การทำผิด ม.112 และทำผิดซ้ำจนถูกถอนประกัน มีใครบ้างที่ถือหาง สนับสนุนการกระทำเหล่านั้น ที่สำคัญ จากการทำผิดต่อสถาบันฯ และมี ส.ส.ของพรรคการเมืองบางพรรคใช้ตำแหน่งประกันตัวออกมา แม้ว่าในทางกฎหมายอาจใช้ความเป็น “ศรีธนญชัย” เอาตัวรอดให้พ้นผิดได้ก็ตาม แต่ข้อเท็จจริง คนไทยต่างรับรู้ดีว่า ใครทำอะไรอยู่ เพียงแต่อาจยังไม่ถึงเวลาที่คนไทยส่วนใหญ่จะพิพากษาก็เป็นได้

และที่สำคัญ หลายคนได้สะท้อนให้เห็นความไม่จริงใจของนักการเมือง โดยเฉพาะที่มีต่อกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่อดีตคนเสื้อแดง เจอมากับตัวเอง

จึงน่าจับตามองเช่นกันว่า กลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ ก็อาจถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองไม่ต่างกัน หรือไม่ ก็ต้องติดตามต่อไป