ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. แจงรถไฟฟ้าสายสีเขียว อย่าโยนให้ผู้ว่าฯ กทม.ชี้ขาดปมสัมปทานคนเดียว ชี้ 25-28 บาท เป็นราคา 8 สถานี ไม่ใช่ตลอดสาย โดยเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ทีมงานศึกษา ส่วนการเปิดสัญญาให้สาธารณะ เชื่อว่า ทำได้เพราะ ปชช.จ่ายค่าบริการ
วันนี้ (27 พ.ค.) เวลา 14.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ติดตามปัญหาที่ชุมชนเคหะบางบัว เขตหลักสี่ โดยได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับราคาที่เหมาะสมของรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว และการเปิดเผยสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องต่อสาธารณะ จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ระบุว่า ให้อำนาจผู้ว่าฯ กทม. เป็นผู้พิจารณาการต่อสัมปทาน (แต่เดิมอำนาจการต่อสัมปทาน อยู่ที่ ก.มหาดไทย และ ผู้ว่าฯ กทม.) นั้น นายชัชชาติ ระบุว่า ต้องดูอดีตด้วย อย่าโยนความเห็นมาให้ตนเองชี้ขาดทั้งหมด เรื่องนี้ต้องรอให้ได้รายละเอียดเพิ่มเติมแล้วค่อยคุยกัน ขณะนี้หากคุยเรื่องนี้กันมากอาจจะกระทบเอกชนด้วย จึงต้องตรวจสอบดีๆ เบื้องต้นมี 3 ประเด็น คือ ต้องดูเรื่องหนี้เป็นอย่างไร, สัญญาเดินรถเป็นอย่างไร และการต่อสัญญาสัมปทาน ต้องฟังเหตุผล ไม่ใช่การใช้ความรู้สึก
เมื่อถามว่า ขณะนี้ราคาในใจที่เห็นว่า เหมาะสมอยู่ที่ 35 บาท หรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่า เรามีทีมทำต้นทุน อย่าลืมว่าคำว่า “ราคา” เราพูดต่างกัน ถามว่า 65 บาท คือ ราคาตลอดสายใช่หรือไม่ แต่ราคาตลอดสายนั้นไม่มีใครนั่งหรอก ที่สนใจ คือ ราคาเฉลี่ย 8 สถานี แต่ส่วนตัวเห็นว่าปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 25 บาท หรือ 28 บาท สำหรับ 8 สถานี ประเด็นนี้สำคัญกว่า
“ผมว่าราคาถ้าเอาราคาสูงสุด ไม่เกิน 65 บาท แต่ราคาเฉลี่ย 50 บาทอย่างนี้ก็ตายถูกไหม ถ้า 8 สถานี มันต้องดูว่าราคาเฉลี่ยเท่าไร เยอะที่สุด ราคาเฉลี่ยต้นทุนที่เห็นอยู่ประมาณ 25 บาท / 30 บาท ยังพอจ่ายหนี้ได้ แต่อย่างที่บอกเราไม่มีข้อมูลที่ละเอียด เบื้องต้นคือข้อมูลที่เรามี จึงไม่อยากยืนยันตรงนี้มาก เพราะต้องรอดูรายละเอียดอีกทีว่าค่าจ้างเดินรถเป็นเท่าไร”
ส่วนประเด็นที่ว่า หากได้รับการรับรองแล้วจะเปิดสัญญาเดินรถไฟฟ้า ตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องทันทีหรือไม่นั้น นายชัชชาติ ยืนยันว่าต้องมี แต่ต้องดูขั้นตอน เพราะหน้าแรกของสัญญาก็เขียนไว้ว่าห้ามเปิดเผยสัญญากับคนนอก ยังงงเหมือนกัน เพราะส่วนตัวเคยเห็นสัญญา แต่ต้องดูที่มาที่ไปว่าเป็นอย่างไร แต่ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจะเปิดสัญญาไม่ได้ เพราะเป็นสัญญาที่ประชาชนเป็นผู้จ่ายค่าบริการ ไม่ใช่ กทม. ฉะนั้น ประชาชนมีสิทธิจะทราบ
