คนมันทันกัน! “สมศักดิ์ เจียม” โพสต์บทสนทนาของตะวันหลังกำแพงเรือนจำ หวังดิสเครดิตศาล? “เดอะเมตตาดี” โพสต์มีเยาวชนอีกมาก ที่อิสรเสรีและไม่ทำผิดกฎหมาย “ดร.อานนท์” เหน็บ “ชัชชาติ” เผาบ้านเมืองก็ได้
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (14 พ.ค. 65) เฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul ของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ลี้ภัย ม.112 ในฝรั่งเศส และปรมาจารย์ “สามนิ้ว” โพสต์ข้อความระบุว่า
บทสนทนาของตะวันหลังกำแพงเรือนจำ
เมื่อคืนนี้หนูฝัน ฝันเหมือนจริงมากๆๆๆ คือ ฝันว่าได้ออกไปข้างนอกแล้ว แม่เอาอาหารมาให้ กินข้าวกับพ่อแม่ มีความสุขมาก แล้วคือมันเหมือนจริงมากๆ พี่ แต่พอหนูตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองยังอยู่ในคุกอะพี่ อารมณ์มันก็ดิ่ง (เสียงสั่นมากๆ) คือ มันดาวน์ไปหมด แล้วหนูก็คิดไปถึงวันที่ 20 เมษา ก่อนหนูออกจากบ้านไปฟังผลที่ศาล หนูบอกกับแม่ไว้ว่า “เดี๋ยวกลับมาหา” จนถึงตอนนี้ 22 วันแล้วที่หนูยังอยู่ในคุก 22 วันที่ยังไม่ได้กลับไปหาแม่อย่างที่รับปากไว้ “คิดถึงแม่กับพ่อมากๆ คิดถึงบ้านมากๆ พี่
(น้ำเสียงของตะวันสั่นมากๆ และน้ำตาคลอตลอด)”
ตะวันยังเล่าอีกว่า
อาการหน้ามืดกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับหนูแล้วพี่ ตอนนี้คือหนูหน้ามืดวันละ 2 ครั้งเป็นเรื่องปกติเลย
ตอนนี้เลยต้องพกยาดมละ เพื่อนบอกว่าให้พกไว้ กลัวเป็นลม
จาก “มิตรสหายท่านหนึ่ง”
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก The METTAD แชร์โพสต์ของ สมศักดิ์ เจียมฯ พร้อมข้อความระบุว่า
“มีเยาวชนอีกมาก
ที่ใช้ชีวิตวันหยุดอย่างมีความสุข ด้วยการนัดเพื่อนกินปิ้งย่าง เที่ยวทะเล แช่น้ำตก นอนดูหมอกที่อัยเยอร์เวง ฯลฯ โดยไม่มีใครมาบังคับกดหัว
และเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เฟซบุ๊ก ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ แชร์ข่าวจาก “ข่าวสดออนไลน์” กรณี ชัชชาติ หาเสียง ถ้าเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะปล่อยให้ชุมนุมเต็มที่ พร้อมระบุว่า
“อ้าวเฮ้ย จะชุมนุม เผาบ้านเผาเมืองก็จะสนับสนุนหรือครับ ถุงแกง”
ขณะที่ The METTAD ระบุว่า
“ได้เวลาสนุกแล้วสิ”
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7048112
ด้าน ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ “ท่านใหม่” โพสต์รูปภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นางสาวพรรณิการ์ วานิช ขณะสังสรรค์กับคณะ พร้อมข้อความระบุว่า
“บุคคลในภาพ ทั้งชาย และหญิง เป็นประชาชนคนไทยใช่ไหมครับ ???? ไม่เห็นมีใครกินแกลบกันเลย หรืออาจกำลังกินกันอยู่”
ท้ังนี้ โพสต์ของ ม.จ.จุลเจิม สืบเนื่องจากกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความว่า
“พระยาแรกนาหยิบผ้า 4 คืบ พระโคกินน้ำ หญ้า ถั่ว เหล้า ประชาชน...กินแกลบ” (จากไทยโพสต์)
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ ความอำมหิตของคนส่วนหนึ่ง (อาจมีหลายคน หลายกลุ่ม) ที่ต้องการล้มล้างสถาบันฯ แต่ไม่กล้าออกหน้าเอง ได้แต่ปลุกปั่นยุยงเยาวชน และนักเรียนนักศึกษา ออกมาเคลื่อนไหว ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่า เท่ากับยุยงเด็กเยาวชนให้ทำผิดกฎหมาย เพราะมี ป.อาญา ม.112 เกี่ยวกับหมิ่นสถาบันฯบังคับใช้อยู่แล้ว และต้องถูกจับกุมโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง รวมทั้งกรณีไม่ได้ประกันตัว ก็จะต้องถูกคุมขังในเรือนจำ
เท่านั้นไม่พอ หลังเด็ก นักเรียนนักศึกษา เยาวชน ถูกจับ คนพวกนี้ยังปลุกปั่นยุยงต่อ ให้ทำผิดซ้ำ ให้อริยะขัดขืน ไม่ยอมรับกฎหมาย และให้เคลื่อนไหวต่อสู้จนกว่าจะชนะ เบื้องต้นเป้าหมายคือ ยกเลิก 112 และปฏิรูปสถาบันฯให้ได้ในที่สุด ก็ยิ่งเป็นการผิดเงื่อนไขประกัน และไม่ได้ประกันหลายคน ทำให้คนพวกนี้ใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองโจมตีผู้มีอำนาจได้อีก
คำถามคือ ในระหว่างที่เด็ก เยาวชน ต้องทนทุกข์ติดคุกติดตะราง ใครเป็นคนรับเคราะห์กรรม ใครเศร้า ใครทุกข์ทรมาน คนที่ปลุกปั่นยุยงอยู่นอกคุก กินหรูอยู่สบาย ดื่มไวน์ นอนห้องแอร์ อย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อน แล้วยังมีหน้าออกมาปลุกปั่นยุยงไม่เลิก ไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่เกิดขึ้น แถมป้ายความผิดให้กับคนอื่น
เรื่องเหล่านี้ คนเข้าใจก็เข้าใจ คนไม่เข้าใจทำอย่างไรก็ไม่ยอมเข้าใจ ก็คงแล้วแต่เวรแต่กรรมของใครมันเท่านั้นเอง