xs
xsm
sm
md
lg

หมดโปรด่าฟรี หลังสรุปคดีแตงโมฟ้องกันนัว “ทนายเดชา” ลุย “พี่ศรี-แต๊งค์” ตำรวจ โซ้ย “ทนายตั้ม” **“สมรักษ์ ศิษย์ลุงป้อม” ลงสนามการเมือง โดนโซเชียลฯน็อก ตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นเวที

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**หมดโปรด่าฟรี หลังสรุปคดีแตงโมฟ้องกันนัว “ทนายเดชา” ลุย “พี่ศรี-แต๊งค์” ตำรวจ โซ้ย “ทนายตั้ม”

ร้อนกว่าอากาศตอนนี้เห็นทีจะเป็น “ควันหลง” จากการแถลงสรุปคดี “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวตกจากสปีดโบ๊ตเสียชีวิต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา

ว่ากันว่า ตอนนี้นอกจาก “แม๊” แม่แตงโม “ภนิดา ศิระยุทธโยธิน” ที่ประกาศชัดเจนว่า จะฟ้องชาวเน็ตหลายคนที่ด่าทอ “แม๊” อย่างหยาบคาย เสียๆ หายๆ เมื่อวาน “เดชา กิตติวิทยานันท์” หรือ ทนายเดชา ทนายความของแม่แตงโม ก็เดินขึ้นโรงพัก สภ.รัตนาธิเบศร์ แจ้งความต่อตำรวจ ให้ดำเนินคดี “พี่ศรี” ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย “นักร้อง” ชื่อดังกับ “แต๊งค์” พงศกร มหาเปารยะ นักแสดงหนุ่ม จากที่ทั้งคู่โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลฯ กล่าวหาว่า ชอบต่อว่าคนอื่นหิวแสง และติดแฮชแท็กว่า # ทนายขยะ

ภนิดา ศิระยุทธโยธิน
ฟังว่า “ทนายเดชา” หัวร้อนปุดๆ มากล่าวหากันอย่างนี้ได้อย่างไร ว่า เป็น “ทนายขยะ” แย่งคดีคนอื่น อวดว่าเก่งกว่าคนอื่น ตัวเขาเป็นบุคคลมีชื่อเสียง ถึงแม้ไม่เอ่ยชื่อคนฟังก็รู้ว่าเป็นเขา เช่น “ทนายจุ๊กกรู้” ใครก็รู้ว่าเป็นตัวเอง มันเสียหาย ด่าเราเป็นขยะเปียก ขยะแห้ง หรือขยะรีไซเคิล ก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าขยะเปียกก็ไม่มีประโยชน์สิ

พูดแล้วทนายชื่อดัง ยังฝากถึงอีกหลายคนว่า มีปากก็ไม่จำเป็นต้องพูดทุกครั้ง พูดแล้วต้องผ่านสมอง สิ่งที่พูดเป็นความจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นความเท็จ ก็เป็นการใส่ร้ายผู้อื่น คนอื่นเขาเสียหายก็ต้องถูกดำเนินคดี แล้วไม่ต้องมา “ร้องขอชีวิต” ล่ะ นโยบายตัวเองคือ ติดคุกอย่างเดียว หลักฐานที่นำมาวันนี้เป็นภาพจากอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก ส่วนคนอื่นที่ด่ามีอีกหลายคน บางคนเป็นทะแนะ เรียนไม่จบ อีก 1-2 วัน อาจจะมาใหม่ แจ้งไปเรื่อยๆ ว่างเมื่อไหร่ก็แจ้งไปเรื่อยๆ พวกด่าตำรวจ ด่าแม่แตงโม เขาจะได้รู้ว่า เขาจะต้องรับผิดชอบอย่างไร

งานนี้ไม่มีไหว้สวย รวยกระเช้า มีแต่ติดคุกอย่างเดียว... “ทนายเดชา” ย้ำพร้อมจะเอาเรื่องถึงที่สุด ก่อนหน้านี้ เขาเคยบอกว่า ถ้าจะด่าแม่แตงโม ให้มาด่าตัวเองแทน ด่าได้ แต่ด่าจนเพลิน หมดโปรด่าฟรีก็ต้องติดคุกอย่างเดียว!!

เดชา กิตติวิทยานันท์

อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์
ส่วนที่ “ลุงอัจ” อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ยืนอยู่ฝ่ายค้านตำรวจทำคดี และ “ทนายเดชา” ไปออกรายการต่างจับพิรุธตำรวจ และคดีต่อ ทนายคนดังระบุว่า “ไม่ให้ราคาเปลืองเน็ต” ขณะที่ “อัจฉริยะ” ก็ท้าทาย “ทนายเดชา” ให้เอาชนะตัวเขาให้ได้ก่อน จะฟ้องเมื่อไหร่ก็พร้อม ไม่มีกลัว ไม่มีเกียร์ถอย หรือกระเช้าขอขมาแน่ เกรงว่า จะมีแต่ฝ่ายของทนายเดชา จะมาขอโทษยกกระเช้ามากกว่า

ส่วน “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดังอีกคน ก็เปิดใจผ่านวิดีโอคลิปที่ส่งถึงสื่อ ระหว่างเดินทางโดยเครื่องบินไปยังฝรั่งเศส ว่า ทราบข่าวว่า “ผู้กำกับการ” สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ได้แจ้งความดำเนินคดีกับตนเอง ซึ่งไม่มีความกังวลอะไรเลย เพราะผ่านคดีมาเยอะ ทำคดีหวย 30 ล้าน ก็ถูกฟ้องไปสิบคดี คดีลุงพล ก็โดน คดีผู้กำกับโจ้ ก็โดน คดีนี้จึงไม่ใช่คดีแรก เป็นไปตามข้อเท็จจริง เดี๋ยวพอกลับถึงไทยจะไปรับทราบข้อหา โดยจะอ้างตำรวจที่อยู่ในห้องทุกๆ คนเป็นพยาน และให้สอบถามทุกคน ให้ทุกคนยืนยันว่า วันนั้นไม่มีการพูดกับตัวเขาอย่างนั้นจริง เดี๋ยวให้ยืนยันมาก่อน แล้วค่อยดูอะไรดีๆ ต่อ “ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น” ทนายตั้มว่า

ษิทรา เบี้ยบังเกิด
สรุปว่างานนี้ ฟ้องกันนัว นอกจากจะถูกแม่แตงโม และตัวทนายเดชา ฟ้องคนด่า ซึ่งไม่น่าจบแค่นี้ เพราะทนายเดชา ส่งสารบอกว่า ได้ข่าวทางลับมา คนบนเรือทั้งหมดก็จะดำเนินคดีกับพวกอยากดังทั้งหลาย...ในทางกลับกัน บรรดาคนที่ทนายเดชา พาดพิงฟ้องถึง ก็จะฟ้องโต้กลับด้วยเช่นกัน เรียกว่า ฟ้องมาก็ฟ้องไป ส่วนจะมีใครบ้างก็ต้องติดตามกันต่อไป



** “สมรักษ์ ศิษย์ลุงป้อม” ลงสนามการเมือง โดนโซเชียลฯน็อก ตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นเวที

ใกล้เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรคเก่า พรรคใหม่ พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างเคลื่อไหวกันคึกคัก ทั้งการประชุมใหญ่ ตั้งกรรมการบริหารพรรค ทะยอยเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในภาคต่างๆ
ล่าสุด “สันติ พร้อมพัฒน์” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่เคยประกาศเสียงดังฟังชัดต่อหน้า “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคว่าเลือกตั้งครั้งนี้ “พลังประชารัฐ” ต้องได้ ส.ส.เกิน 150 ที่นั่ง ก็ได้แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค พื้นที่ภาคอีสาน 22 คน ใน 11 จังหวัด อาทิ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู มหาสารคาม และ ร้อยเอ็ด

สมรักษ์ คำสิงห์
แต่ที่เป็นไฮไลต์ และเป็นที่ฮือฮา ก็คือ ในจำนวน 22 คนนี้ มี “สมรักษ์ คำสิงห์” วีรบุรุษเหรียญทองมวยสากลสมัครเล่นโอลิมปิก เจ้าของฉายา “ไม่ได้โม้” ลงสมัคร ส.ส. เขต 10 จ.ขอนแก่น ด้วย

ก่อนแถลงข่าวเปิดตัว ทางแกนนำพรรคได้พาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 22 คน เข้าพบ “ลุงป้อม” ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อรับโอวาท ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีอดีตนักมวยชื่อดังหลายคน อย่างเช่น ทวี อัมพรมหา หรือ “ขาวผ่อง สิทธิชูชัย” นักชกเหรียญเงินโอลิมปิกคนแรกของไทย, เจริญ ชูมณี หรือ “เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง” แชมป์มวยไทย เข็มขัดหลายเส้น ก็มาให้กำลังใจ “สมรักษ์” ด้วย

“สมรักษ์” บอกว่า ที่ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.ครั้งนี้ เพราะ “ลุงป้อม” ได้ขอให้มาช่วยกันทำงาน ขอให้นำนโยบายของพรรคไปบอกกล่าวให้ประชาชนรับรู้ว่า รัฐบาลกำลังทำอะไร เช่น เรื่องน้ำบาดาล ไฟฟ้าส่องสว่าง โครงสร้างพื้นฐาน และมั่นใจว่า ครั้งนี้ ตนเองสามารถสู้กับผู้สมัครของพรรคอื่นได้ ชาวบ้านรู้แล้วว่าจะเลือกใคร และที่ผ่านมาตนเองก็ลงพื้นที่ในเขตเลือกตั้งที่ 10 จ.ขอนแก่น มาตลอด บอกได้เลยว่ามี สมรักษ์ ไม่มีแล้ง!!

...ผมมีความสนใจในการทำงานการเมือง ที่จะเป็นตัวแทนของอีกวงการหนึ่ง คือ กีฬามวย ที่เป็นเรื่องสำคัญของการสร้างคนและสร้างชาติด้วยการกีฬา ที่สำคัญกีฬามวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมวยไทยนั้น ถือเป็น Soft Power ที่สร้างอัตลักษณ์ ชื่อเสียง และรายได้ให้กับประเทศไทย

... ผมผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน และน่าตื่นเต้น ทั้งการกีฬาและชีวิตจริง หากจะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้าไปเป็นปากเสียง และสร้างนโยบายที่สำคัญในการสร้างชาติที่เข้มแข็ง ผมพร้อมจะร่วมอุดมการณ์การเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นพรรคขวัญใจคนรากหญ้า มีผลงานโดดเด่น ชัดเจนเป็นรูปธรรม ในการสร้างสวัสดิการแห่งรัฐให้กับประชาชน จึงตัดสินอาสามารับใช้เพื่อเป็นตัวแทนพี่น้องชาวไทยอีกครั้งหนึ่ง ผมเอาจริง ไม่ได้โม้...

สันติ พร้อมพัฒน์ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.
...เท่าที่ลงพื้นที่ กระแสของ “พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์” ในพื้นที่ดีมาก คนเฒ่าคนแก่ชื่นชม ที่นำความเจริญมาให้ ยืนยันว่า พลังประชารัฐยังขายได้ แม้ในโซเชียลฯ จะเป็นอีกแบบ แต่ในความจริงคนชื่นชอบ กระแสในภาคอีสานของพลังประชารัฐ ไม่ได้ตกเลย
ดูเหมือน “สมรักษ์” จะรู้ดีว่ากระแสในโซเชียลฯ เกี่ยวกับลุงๆ พรรคพลังประชารัฐ และตัวสมรักษ์เองนั้นเป็นอย่างไร ... เพราะทันทีที่มีการแถลงข่าว และโพสต์ในโซเชียลฯ บรรดาทัวร์จากทั่วสารทิศก็ลงกระหน่ำ... ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่วีรบุรุษโอลิมปิกจะลงเล่นการเมือง ส่วนความหนัก เบา ที่ระบายออกมา แล้วแต่อารมณ์ของแต่ละคนในขณะนั้น ...

อย่างเช่น...เป็นนักกีฬาก็ดีอยู่แล้ว อย่าเล่นการเมืองเลย... ลงก็เสียมวยสิครับ... แค่คิดก็สอบตกแล้ว...หลังจากนี้จะโม้ออกไหม ...อย่าหาทำเลยน่า...จุดเริ่มต้นของจุดจบ... บริหารชีวิตตัวเองยังไม่ได้เลย นึกยังไงมาเสนอตัวบริหารประเทศ... อยู่ดีไม่ว่าดี สิ่งที่จะเจอต่อไปนี้คือตามด่าทุกช่องทาง ทำใจไว้ได้เลยสมรักษ์... เบิ้ดคำสิเว่า... ครบวงจรเลยคราวนี้ หัวหน้าไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้ ลูกพรรคไม่โม้ ไม่โม้ ไม่โม้ ... ที่เคยสร้างความภูมิใจให้คนไทย ก็หมดกัน... ตอนนี้ยังเป็นสมรัก สักพักจะเป็นสมเกลียด... เป็นกำลังใจให้นะคะ เตรียมรับมือทัวร์ไทยได้เลยค่ะ...หวังว่า คนไทยคนแยกแยะได้ ระหว่างฮีโร่ กับนักการเมือง ... เห็นข่าวแล้วจุกนิดหน่อย เอาที่สบายใจเลยครับ...คนขอนแก่นจะให้บทเรียน... ตายอย่างเขียด...!!

ว่ากันว่า...คนที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเมืองท้องถิ่น หรือการเมืองระดับชาติ ก็เหมือนคนกำลังหลับฝัน...ฝันเห็นความสำเร็จ ฝันว่าได้เป็นส.ส. เวลาออกหาเสียงพบปะประชาชน ก็จะคิดว่าการไหว้ประชาชน 1 ครั้ง นั้นหมายถึง 1 คะแนน ยิ่งขยันออกไปไหว้ ก็ยิ่งมีคะแนน ใครพูดจาว่าร้ายจะไม่ได้ยิน จะเลือกฟังแต่คำสรรเสริญ ป้อยอ ...กว่าจะตื่นจากความฝันมาพบกับความเป็นจริง ก็ช่วงนับคะแนนเลือกตั้งเสร็จแล้ว ประกาศผลแล้ว ว่าสอบได้ หรือสอบตก
“สมรักษ์” ก็เป็นอีกคนที่กำลังฝันถึงการเป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ โดยไม่สนใจเสียงในโซเชียลฯที่พยายามปลุกให้ตื่นในตอนนี้ !!




กำลังโหลดความคิดเห็น