xs
xsm
sm
md
lg

เลขาฯ สมช.ยันรอ ศบค.เคาะผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศพรุ่งนี้ “ลดวันกักตัว-ปรับระบบ Test&Go มาไทย” ปรับพื้นที่โซนสีทุกจังหวัด ลุ้นมีผล 1 พ.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยันรอ ศบค. เคาะปรับมาตรการเข้าประเทศพรุ่งนี้ “ลดวันกักตัว-ปรับระบบ Test&Go มาไทย” แย้มใช้ “Thailand Pass” เท่าที่จำเป็น ปรับพื้นที่โซนสีให้ดีขึ้นทุกจังหวัด ลุ้น มีผล 1 พ.ค.นี้ เมิน  “ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.” ชูนโยบายถอดหน้ากาก ยันยังจำเป็น

วันนี้ (21 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กล่าวถึงการพิจารณามาตรการผ่อนคลาย ที่จะมีการหารือในที่ประชุม ศบค.ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ ว่า จะมีการปรับแผน Test&Go ของผู้เดินทางเข้าประเทศที่ได้รับวัคซีน เป็นเรื่องที่ทั่วโลกมีการผ่อนคลายและพิจารณาเรื่องนี้มาโดยตลอด และเตรียมมาตรการที่จะเสนอไว้แล้ว เพื่อให้มีความสะดวกมากขึ้น แต่ในส่วนของผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ก็จะปรับมาตรการให้สะดวกและรัดกุมมากขึ้น ตามที่สาธารณสุขประเมินให้อยู่ในระดับที่รับได้ ก็จะมีการพูดคุยกัน ก่อนที่จะนำเสนอในวันที่ 22 เม.ย. ซึ่งมีอยู่หลายแนวทาง คือ เดิมไม่ให้ตรวจจากต่างประเทศอยู่แล้ว แต่อีกมิติหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน หรือประเทศในโลก ส่วนใหญ่จะให้มีการตรวจจากประเทศต้นทาง เมื่อเข้าประเทศมาก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก แต่ที่เราทำเพราะการตรวจจากประเทศต้นทางมีความน่ากังวลอยู่หลายส่วน เราจึงต้องการสร้างความมั่นใจ เมื่อเข้าประเทศมาแล้วเราต้องเป็นผู้ที่ปลอดเชื้อแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมา จึงมีการตรวจภายในประเทศ แต่จากสถานการณ์ การประเมิน พบว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศมีจำนวนน้อยมาก มีเปอร์เซ็นต์​ที่น้อยมาก อาจจะมีการปรับ ซึ่งนายกฯ ก็ให้แนวทางมาพิจารณาให้รอบคอบ

พล.อ.สุพจน์ กล่าวต่อว่า ส่วนการตรวจ ATK จะเป็นลักษณะใดจะตรวจ ATK หรือ ไม่ตรวจจะมีการพิจารณาสรุปกันในวันเดียวกันนี้ ส่วนคนที่ไม่ได้รับวัคซีนและเดินทางเข้ามาก็จะพิจารณาในเรื่องของการกักตัว ถ้ามีมาตรการการตรวจที่รัดกุม เชื่อถือได้ การกักตัวอาจจะลดลง ยืนยันว่า การประเมินจะดูจากตัวเลขและปัจจัยหลายๆ ปัจจัย รวมถึงความต้องการให้เกิดความสะดวกทั้งคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ นักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มเศรษฐกิจหลักของไทย เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาในทุกมิติ

เมื่อถามว่า ภาคเอกชนอยากให้ยกเลิก Thailand Pass และ Test&Go ไปเลย พล.อ.สุพจน์ กล่าวยืนยันว่า ได้รับฟังมาโดยตลอด แต่อยากให้เข้าใจว่า ไทยแลนด์พาสไม่ใช่ระบบที่ไม่ดี ถ้าย้อนกลับไปปีที่ผ่านมา ถ้าไม่มีระบบนี้ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนระบบก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตาม และใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งหากที่ประชุมใหญ่ ศบค. เห็นชอบก็จะเริ่มได้ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ตามแผน ทั้งทางอากาศ และทางบก

เมื่อถามต่อถึงการปรับมาตรการรับเปิดเทอม พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จะมีการพูดคุยเงื่อนไขบางประการที่กำหนดไว้ในมาตรการป้องกัน ที่ทำให้สถานศึกษามีข้อจำกัดในการให้นักเรียน เรียนออนไซต์​เต็มจำนวน ก็จะพูดคุยว่าจะปรับมาตรการอย่างไรให้โรงเรียนปลอดภัยรับนักเรียนออนไซต์​ได้เต็มจำนวน ส่วนการปรับโซนสี ยืนยันว่า มีเงื่อนไขการพิจารณาอย่างชัดเจน เท่าที่ดูตัวเลข ก็มีแนวโน้มว่าจะมีการปรับไปในทางที่ดีขึ้นทุกจังหวัด และมาตรการป้องกันที่ผ่านมา ทั้งประชาชน สถานประกอบการ เริ่มปรับตัวอยู่กับโควิด-19 ได้ดีมาก ดังนั้นแนวโน้มในการปรับโซนสี ก็จะเป็นไปตามเงื่อนไข

เลขาฯ สมช. กล่าวกำชับ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค VUCA มุ่งเน้นการดำเนินงาน 4 ส่วน ได้แก่ V-Vaccine เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ทุกคนบนแผ่นดินไทยให้ได้ 100 ล้านโดส U-Universal Prevention ให้ประชาชนใช้มาตรการป้องกันตนเองสูงสุด C-COVID Free Setting ร้านค้า สถานประกอบการใช้มาตรการพื้นที่ปลอดโควิด-19 และ A-ATK ใช้ชุดตรวจคัดกรองเมื่อมีความเสี่ยง

เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หาเสียง ชูนำร่องให้ กรุงเทพฯ ถอดหน้ากากอนามัย ใช้ชีวิตปกติ ใน 90 วันนั้น พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า การนำไปสู่ชีวิตปกติ แบบโรคประจำถิ่น กระทรวงสาธารณสุข ​มีมาตรการไว้แล้ว และมีการปรับแผนอย่างต่อเนื่อง และต้องเข้าใจว่า โควิด-19 ยังต้องอยู่กับเราอีกเป็นปี เพราะฉะนั้นเราจะใช้ชีวิตได้อย่างปกติแล้ว ประชาชน​ติดเชื้อ หรือว่าเป็นโควิด-19 ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และสามารถประกอบอาชีพได้ เพราะฉะนั้น หน้ากากอนามัย ยังเป็นอาวุธสำคัญที่ใช้ในการป้องกันตัวเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น