xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่" ถกทูตอิสราเอล ย้ำสัมพันธ์ทวิภาคีรอบด้านครอบคลุม หวังต้อนรับนายกฯไทยคนแรกไปเยือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ประยุทธ์” เปิดทำเนียบ หารือเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ ย้ำความสัมพันธ์ทวิภาคีที่รอบด้านและครอบคลุมระหว่างกัน หวังมีโอกาสได้ต้อนรับนายกฯไทยคนแรก เยือนอิสราเอล

วันนี้ (20 เม.ย.) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางออร์นา ซากิฟ (H.E. Ms. Orna Sagiv) เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ภายหลังการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีต้อนรับเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ในประเทศไทย พร้อมกล่าวแสดงความยินดีที่ไทยและอิสราเอลมีความสัมพันธ์ราบรื่น และมีพัฒนาการความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในด้านการค้า การพัฒนา และแรงงาน นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิด และความร่วมมือให้ครอบคลุมทุกมิติ

นายกรัฐมนตรี และ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ ต่างเห็นพ้องว่า ไทยและอิสราเอลยังมีสาขาความร่วมมือที่มีศักยภาพอีกมาก โดยเฉพาะในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมความเชี่ยวชาญและโดดเด่นของอิสราเอลในด้านการเกษตรและการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเป็นประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความร่วมมือมากขึ้น รวมไปถึงนวัตกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการพัฒนาวัคซีน ด้านเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ กล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีในการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระจายวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง พร้อมยินดีสนับสนุนความร่วมมือด้านการวิจัย การพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยี ระหว่างกันมากยิ่งขึ้นในการจัดการกับวิกฤตโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต

ความร่วมมือด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรี ทราบว่า เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ ได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานวานนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในด้านนี้มากยิ่งขึ้น พร้อมได้กล่าวขอบคุณที่รัฐบาลอิสราเอลให้การดูแลแรงงานไทยในอิสราเอลเป็นอย่างดี ด้านเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ กล่าวว่า แรงงานงานไทยถือเป็นกลุ่มแรงงานที่สำคัญ (high priority) ในอิสราเอล ปัจจุบันมีแรงงานไทยประมาณ 25,000 คน ส่วนใหญ่ทำงานในภาคเกษตรกรรม โดยรัฐบาลทั้งสองประเทศมีข้อตกลงร่วมกัน พร้อมกล่าวยืนยันดูแลความปลอดภัยของประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลเป็นอย่างดี

ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การสานต่อความความร่วมมือในการเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกันเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ภาคเอกชนของไทยมีความสนใจจะเข้าไปลงทุนในอิสราเอล และเห็นว่าไทยและอิสราเอลสามารถร่วมมือกันในเรื่องโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเป็นประเด็นที่ไทยผลักดัน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ การเกษตร อาหาร สุขภาพ การแพทย์ และการท่องเที่ยว บริการ โดยอาศัยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม

ความร่วมมือด้านการพัฒนา นายกรัฐมนตรียินดีที่ไทยกับอิสราเอลมีความร่วมมือด้านวิชาการและการพัฒนาอย่างใกล้ชิด โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณอิสราเอล สำหรับการบริจาคโรงเรือนสำหรับปลูกพืช พร้อมระบบน้ำ (Hydroponic Greenhouses) ที่โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง ในขณะที่เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ กล่าวยินดีที่ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในด้านนี้ และพร้อมสานต่อความร่วมมือให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่นักท่องเที่ยวอิสราเอลนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และเห็นว่า การส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมและภาคประชาชนเป็นรากฐานที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ นายกรัฐมนตรี หวังว่า ชาวอิสราเอลจะกลับมาท่องเที่ยวไทยอีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง โดยเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ กล่าวว่า ชาวอิสราเอลนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย เชื่อมั่นว่า ชาวอิสราเอลจะกลับมาท่องเที่ยวไทยอีกครั้งหลังสถานการณ์คลี่คลายลงอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลฯ ยังได้อ่านข้อความจากนายกรัฐมนตรีอิสราเอลถึงนายกรัฐมนตรี ชื่นชมความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศ พร้อมหวังว่า จะมีโอกาสได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนอิสราเอลในโอกาสแรกที่เหมาะสม ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีตอบรับคำเชิญ นายกรัฐมนตรีจะเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรกที่เดินทางเยือนอิสราเอล และจะเป็นโอกาสอันดีที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกันอย่างรอบด้านต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น