นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามความคืบหน้าและพอใจต่อแผนงาน "Air Travel Bubble" ระหว่างไทย-อินเดีย ที่หน่วยงานภาครัฐได้พัฒนาความร่วมมือร่วมกับภาคเอกชนส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางจากสาธารณรัฐอินเดียมายังประเทศไทย เสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่นักท่องเที่ยว และมุ่งขยายตลาดอินเดียในประเทศไทยให้กว้างขึ้น หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยให้ฟื้นตัว หลังการผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ สถิติจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางเข้าประเทศไทยในปี พ.ศ. 2562 สูงถึง 1,995,516 คน สร้างรายได้กว่า 86,372.01 ล้านบาท แสดงถึงศักยภาพการบริโภคสินค้าและบริการที่เติบโตสูงของตลาดอินเดียจึงกลายเป็นโอกาสของไทยในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวผ่านการฟื้นคืนตลาดอินเดียให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง
ซึ่งภายหลังการบรรลุข้อตกลงเรื่อง Air Travel BubbleArrangement ระหว่างสองประเทศ รัฐบาลไทยได้ร่วมมือกับภาคเอกชนยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้พัฒนายิ่งขึ้นผ่านการประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายการมอบสิทธิประโยชน์ในการเดินทาง การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในไทยและอินเดีย เพื่อแสดงถึงความพร้อมของไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ
พร้อมกันนี้ รัฐบาลไทยยังมีการลงนามแสดงเจตจำนง (Letter of Intent : LoI) ว่าด้วยความร่วมมือส่งเสริมการเดินทางของตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียมายังประเทศไทยร่วมกับบริษัทสายการบิน เพื่อวางกลยุทธ์และดำเนินงานรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมในทุกมิติ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมยินดีต่อความสำเร็จในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและอินเดีย หลังจากที่มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจรูปแบบออนไลน์ ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ รัฐเตลังคานา ของอินเดีย หรือ Mini FTA ไทย-เตลังคานา เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 นับเป็นการลงนามครั้งประวัติศาสตร์และถือเป็นการลงนามในระดับรัฐเป็นครั้งแรก ซึ่งความร่วมมือจะครอบคลุมการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างกัน การให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนและการอำนวยความสะดวกในด้านการลงทุนของทั้งสองฝ่าย การแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้าน Start-up การส่งเสริมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายระหว่างกัน และการเชื่อมโยงระหว่างแพลตฟอร์มสำคัญของสองฝ่าย โดยไทยจะใช้ Thaitrade.com เชื่อมกับ Telangana State GlobalLinker ของรัฐเตลังคานา
นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการไทยจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการสร้างตลาดธุรกิจในรัฐเตลังคานาของอินเดีย สามารถดำเนินการด้วยความสะดวก ได้รับการสนับสนุนของรัฐบาลท้องถิ่นและสามารถเติบโตในตลาดอินเดียได้ในอนาคต ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงความคืบหน้าจาก Air Travel Bubble ครั้งนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันผู้ประกอบการและการท่องเที่ยวไทยให้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้บูรณาการความร่วมมือโอกาส ช่องทาง ช่วยเหลือพี่น้องชาวไทย ทำให้ระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง