“นิพนธ์” ย้ำคดี “ปริญญ์” เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล ไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์เปลี่ยน กก.บห. ขอคน ปชป.ใช้เวลาที่เหลือทำงานร่วมมือสู้ศึกเลือกตั้ง คาดโทษคนนำข้อมูลในพรรคมาแฉถึงขั้นไม่ให้ตำแหน่งทางการเมือง
วันนี้ (18 เม.ย.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกพรรคพรรคเรียกร้องให้กรรมการบริหารพรรค รับผิดชอบกรณีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ที่มีพฤติกรรมเสื่อมเสีย ด้วยการลาออกทั้งคณะ ว่า ความจริงในพรรคประชาธิปัตย์ความเห็นต่าง คือ เป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็น สิ่งที่ทำได้คือการขอความร่วมมือ ว่า การจะแสดงความเห็นอะไรอยากให้คำนึงถึงพรรค ต้องแยกระหว่างเรื่องส่วนตัว กับปัญหาพรรค และเห็นว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรใช้มาเป็นเกณฑ์ในการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค และเห็นว่า ระยะเวลาหลังจากนี้ ทุกฝ่ายในพรรคควรร่วมมือกันทำงานสำหรับการเลือกตั้งสมัยหน้า และหากได้ ส.ส.น้อยกว่าเดิม ทางกรรมการบริหารพรรคก็พร้อมที่จะรับผิดชอบอยู่แล้ว
“เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เราคิดว่า เราผ่านสถานการณ์อย่างนี้มาหลายรอบหลายครั้ง ความเห็นที่ต่างกันเป็นเรื่องปกติในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในความเห็นของผมคิดว่าเวลาที่เหลืออยู่ ในสมัยการเลือกตั้งรอบนี้หรืออายุของรัฐบาล ไม่เกิน 10 ถึง 11 เดือนแล้ว ดังนั้น ควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการเตรียมภารกิจของพรรคให้ลุล่วง แล้วหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ผลออกมาอย่างไร เลขาธิการพรรค ก็พูดชัดแล้วว่า ถ้าน้อยกว่าเดิมคือน้อยกว่า 51 เสียง ท่านรับผิดชอบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นทุกคนก็พร้อมที่จะรับผิดชอบอยู่แล้ว กรรมการบริหารพรรคก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ แต่อยากให้ใช้ผลการเลือกตั้งเป็นเครื่องตัดสิน ไม่ใช่ว่ามีเรื่องรายวัน กรรมการบริหารพรรคต้องออกเป็นรายวัน ซึ่งไม่ใช่วิสัยอย่างนั้น เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก็ว่ากันไปใครผิดก็ต้องรับผิดชอบ ว่ากันไปตามผิด พรรคไม่ได้เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของใคร ถือว่าเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้หลักการนี้ใช้เกณฑ์นี้มาโดยตลอด ถ้าคนทำผิดแล้วเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคถ้าใช้เกณฑ์นี้คงต้องเปลี่ยนกันทุก 3-4 เดือน ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย” นายนิพนธ์ กล่าว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีภาพความขัดแย้งออกไปเกิดจากกรณีที่คนในพรรคประชาธิปัตย์นำเรื่องภายในที่มีความเห็นต่างออกมาเผยแพร่ ทั้งที่เป็นเรื่องภายใน ดังนั้น คนที่นำเรื่องออกมาเผยแพร่ก็ถือว่ามีความผิด และควรถูกตำหนิ รวมถึงเวลาที่มีการพิจารณาตำแหน่งทางการเมือง ก็ต้องถือว่าบุคคลนี้ไม่มีวุฒิภาวะ และไม่ควรให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ก็พอทราบว่าเป็นใคร
สำหรับกรณีที่มีการเสนอให้ตั้งกรรมการสอบ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ นั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า นายปริญญ์ ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ก็ถือว่าจบจากพรรคไปแล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมือง ถึงไม่จำเป็นต้องตั้งกรรมการสอบอีกแล้ว ได้ย้ำว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ใครทำผิดก็ต้องมีความผิด
ส่วนการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดราชบุรี นั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ อดีตผู้สมัครเดิม ที่เคยลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ มีความประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่กรรมการบริหารพรรค ยังไม่ได้คุยกัน ซึ่งจะต้องพิจารณาในหลายส่วนทั้งความพร้อมของผู้สมัคร และหลักเกณฑ์ ในการตัดสินใจรวมทั้งข้อบังคับพรรค ซึ่งต้องดูทั้งหมด คาดว่า จะได้ข้อสรุปภายใน 3-4 วันนี้