“เทพไท” เผย กมธ.พิจารณาสถานบันเทิงครบวงจร เตรียมสรุปผลศึกษาเสนอสภา รับรองก่อนส่งไม้ต่อ รบ. เผยบิ๊ก รบ. ไฟเขียวก่อสร้างพร้อมพ่วงสนามม้า แฉนายหน้าค้าที่วิ่งล็อบบี้ลงเพชรบุรี เข้าทางกลุ่มทุนใหญ่ที่ครอบครองพื้นที่นับพันไร่
วันนี้ (13 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงษ์ หนึ่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ( Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายและมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก เพราะตามไทม์ไลน์ต้องสรุปผลการศึกษาและรายงานต่อที่ประชุมสภา เมื่อมีการเปิดสมัยประชุมในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการได้ตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาศึกษาใน แต่ละด้านที่เกี่ยวข้อง อาทิ อนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษากฎหมาย การจัดเก็บรายได้และภาษี ก็พิจารณาว่าจะแก้กฎหมายฉบับใดบ้างให้สอดรับกับการมีกาสิโนถูกกฎหมาย เช่น ต้องแก้ พ.ร.บ.การพนัน พรบ.จัดเก็บภาษี อนุ กมธ.ศึกษารูปแบบการเปิดสถานบันเทิง แบบครบวงจร และอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาธุรกิจ Gaming อนุ กมธ.ศึกษาการป้องกัน แก้ไขปัญหาผลกระทบและศึกษาพื้นที่ความเป็นไปได้และหลักเกณฑ์เงื่อนไขก็มีการวางเงื่อนไขหลักเกณณ์ต่าง เช่น อายุเท่าไหร่ถึงจะเข้ากาสิโนได้ ต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ ไม่ใช่ใครก็สามารถเดินเข้าไปเล่นพนันได้เหมือนที่บางฝ่ายกังวล
นายเทพไท กล่าวว่า ประเด็นที่สังคมจับตามอง คือ พื้นที่ที่จะก่อสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ว่า จะเป็นที่ใด ซึ่งอนุกรรมาธิการจัดหาพื้นที่ฯ ที่มีตนอยู่ร่วมด้วย มีการวางกรอบการพิจารณาไว้หลายประเด็น เช่น ต้องเป็นพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะมีการวิเคราะห์ทางด้านเศรษฐศาสตร์ว่าหากต้องการสร้างรายได้ตามจุดประสงค์หลัก ก็ควรเอาพื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อเอาเงินจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเล่นการพนัน และต้องเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ไม่ต่ำกว่า 1 พันไร่ เพราะต้องรวมทั้งแหล่งชอปปิ้ง ที่เล่นการพนันประเภทต่างๆ แหล่งบันเทิง ที่ครบวงจร และไม่ห่างจากเมืองหลวงมากนัก เพื่อสะดวกในการเดินทาง ซึ่งจากที่นักลงทุนที่ให้ความสนใจเสนอต่อที่ประชุมอนุกรรมาธิการ ก็มีอยู่ 3ตัวเลือก คือ ภูเก็ต พัทยา และ เพชรบุรี
“ทางอนุกรรมาธิการยังไม่ได้ข้อสรุป แต่อาจจะไม่ชี้ว่าควรสร้างที่ไหน แต่จะเสนอทั้งหมด พร้อมจุดดีจุดด้อยในแต่ละพื้นที่ให้รัฐบาลไปพิจารณาเอง อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เราจะมีสถานบันเทิงแบบครบวงจร ค่อนข้างจะชัดเจน เพราะกรรมาธิการจากฝ่ายรัฐบาลต่างๆ ยืนยันว่า ได้รับไฟเขียวจากแกนนำ ครม.แล้วว่าให้สร้าง แต่จะทันรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ผมไม่สามารถยืนยันได้”
ทั้งนี้ แหล่งข่าวในอนุกรรมาธิการที่รับผิดชอบในการจัดหาสถานที่ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความพยายามวิ่งเต้นให้เสนอพื้นที่จ.เพชรบุรี โดยได้รับคำสั่งจากคนระดับบิ้กใน ครม.ว่า ต้องการให้สร้างสนามม้าด้วย หลังจากที่สนามม้านางเลิ้งได้ถูกรื้อถอนไปแล้ว ซึ่งหากต้องสร้างเฉพาะสนามม้าต้องใช้พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ซึ่งพื้นที่ขนาดใหญ่เช่นนี้คงหายากในภูเก็ต หรือพัทยา แต่หากไปลงที่เพชรบุรีก็มีหลายคนท้วงว่าไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ หากไปสร้างคงขาดทุนแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนายหน้าค้าที่ดินหลายคนพยายามล็อบบี้ในกรรมาธิการเพื่อให้เลือกพื้นที่ที่ตนเสนอ เพราะหากจะต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ถึงระดับพันไร่ ก็มีกลุ่มทุนทึ่ครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ในประเทศไทยไม่กี่เจ้า เช่น กลุ่มสิงห์ กลุ่มซีพี หรือ กลุ่มเบียร์ช้าง เท่านั้น