วันนี้(26 มี.ค.)นายธันย์ชนน ศรีอัษฎาวุธกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตดุสิต พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หนึ่งในปัญหาสำคัญของกรุงเทพ คือการขาดพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมอิสระตามความสนใจ กิจกรรมการเมือง หรือพื้นที่สีเขียวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ดังนั้น พื้นที่ที่เคยเป็นพื้นที่สาธารณะของเมืองมาก่อนจึงควรรักษาไว้พร้อมหาวิธีต่อยอดพัฒนาดูแลให้ทุกคนได้เข้าถึงอย่างยั่งยืน อีกด้านหนึ่งคือการหาพื้นที่เพิ่มให้กับเมืองย่อยออกไปตามเขตต่างๆ
นายธันย์ชนน กล่าวต่อว่า สำหรับเขตดุสิตเองก็เคยมีพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ที่หายไป นั่นคือ สวนสัตว์ดุสิตหรือเขาดินวนา เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศไทยและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของคนกรุงเทพ รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นของเด็กๆทั่วประเทศที่ต้องการมาเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์และสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันได้หายไป ทำให้กรุงเทพเป็นเมืองหลวงที่ไม่มีสวนสัตว์ของเมือง แตกต่างจากเมืองใหญ่อื่นๆ ซึ่งกิจกรรมในลักษณะสวนสัตว์ของเมืองจะทำหน้าที่อนุรักษ์และเพาะพันธุ์สัตว์ประจำถิ่นที่กำลังหายไป หรืออนุบาลสัตว์หายากเพื่อคืนสู่ธรรมชาติรพร้อมกันนั้นยังทำหน้าที่มอบการเรียนรู้ของเด็กๆในเมืองให้ไม่รู้สึกห่างไกลแปลกแยกจากธรรมชาติ
“ผมเสียดายสวนสัตว์ดุสิตที่หายไปจากคนกรุงเทพฯ แม้ได้ข่าวว่าอีกไม่นานจะมีสวนสาธารณะสร้างขึ้นบริเวณสนามม้านางเลิ้งเก่า แต่ก็เป็นสวนคนละแบบ มีหน้าที่คนละอย่าง การคงสิ่งที่เคยมีไว้พร้อมกับการเพิ่มพื้นที่ใหม่ๆเป็นแนวทางที่เราอยากเห็นมากกว่า ผมจึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล มีนโยบายทวงคืนสนามหลวง เพราะจะเป็นต้นแบบการทวงคืนพื้นที่สาธารณะของเมืองด้วย สำหรับสนามหลวง ผมเองก็มีความผูกพันตั้งแต่เด็กๆเพราะอยู่ไม่ไกล เคยไปเดินเล่นพักผ่อน ไปดูคนเล่นว่าวและเล่นตระกร้อ บางครั้งก็ไปรอรถเมล์ ถ้าใครเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะในกรุงเทพบ่อยๆจะรู้ว่าตรงนี้คือจุดสำคัญของการเดินทางเนื่องจากมีรถเมล์ผ่านถึง 15 สาย แต่ปัจจุบัน สนามหลวงถูกทำให้กลายเป็นพื้นที่หวงห้าม มีรั้วกั้น ใครไปรอรถเมล์ก็ต้องไปเสี่ยงรอบนถนน การเดินก็ลำบากเพราทางเท้าโดนรั้วกั้นแบบกินพื้นที่ไปเกือบหมด เป็นการออกแบบที่ไม่เป็นมิตรกับใครทั้งสิ้น”
นายธันย์ชนน กล่าวอีกว่า กรุงเทพควรมีพื้นที่สาธารณะแบบสนามหลวงในอดีต ที่ประชาชนในฐานะผู้เสียภาษีสามารถใช้ได้อย่างสะดวก ไม่ควรถูกจำกัดห้ามทำสิ่งต่างๆอย่างทุกวันนี้ การเดินออกกำลังกาย เล่นกีฬา ไปจนถึงการขอใช้ทำกิจกรรมทางการเมืองจะต้องทำได้ มีสาธารณูปโภคที่ดีให้บริการ แม้สนามหลวงจะถูกประกาศเป็นเขตโบราณสถาน แต่ในหลักคิดสมัยใหม่ การจัดการโบราณสถานมีหลายรูปแบบ การทำให้กลับมีชีวิตชีวาเพื่อเป็นโบราณสถานที่มีชีวิต ก็คือเสน่ห์อีกแบบหนึ่งของกรุงเทพโดยมีประโยชน์ร่วมกันเกิดขึ้นกับคนทุกคน