xs
xsm
sm
md
lg

ฟัดกันเละ! “ปวิน” โต้ “สมศักดิ์ เจียม” น่าสะอิดสะเอียน ปมให้คนอื่นโพสต์? นักวิชาการ จวก “วิโรจน์” ปลุกผีนายทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “ปวิน” โต้ “สมศักดิ์ เจียม” น่าสะอิดสะเอียน ปมให้คนอื่นโพสต์? ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากไทยฺโพสต์
“ป่วย” ก็ถีบออกได้! “ปวิน” ฟาด “สมศักดิ์ เจียม” น่าสะอิดสะเอียน โต้ปมคนอื่นเขียนแทน สุดรำคาญ บอกให้ถาม “เพื่อนสนิท” นักวิชาการ จวก “วิโรจน์” ดีเบต “ชัชชาติ” เหมือนยุคสงครามเย็น ชอบหาเสียง “ปลุกผีนายทุน”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (9 เม.ย.) นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

“นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความน่ารำคาญและน่าสะอิดสะเอียนของสมศักดิ์เจียม

เราเพิ่งต่อปากต่อคำกัน ดิชั้นเชื่อว่า ตอนนี้ สมศักดิ์ขอให้เด็กที่ปารีสเป็นคนเขียนสเตตัส แม่งเลยบ้งทุกสเตตัส นางเข้ามาโต้ตอบว่า ไม่น่าเชื่อว่า ดิชั้นจะเชื่อมุกนี้ คือ มุกของการที่สมศักดิ์ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊กเอง แล้วบอกให้ดิชั้นไปถาม “เพื่อนสนิท” ของนางว่าจริงมั๊ย ดิชั้นบอกว่า ดิชั้นเพิ่งกลับจากปารีส คนที่ปารีสก็บอกเหมือนกันหมดว่า นางไม่ได้เขียนเอง แต่ใช้เด็กเขียนแทน นางเลยเข้ามาจวกต่อว่า ทำไมดิชั้นถึงเชื่อคนง่าย

แล้วไหนละไอ้ที่บอกว่าตัวเองมีจิตวิพากษ์ (นางกำลังสรุปว่าดิชั้นไม่ควรจะเชื่อใครง่ายๆ ก่อนจะค้นหาความจริงด้วยตัวเอง) ฟังแล้วอารมณ์เสีย คือกูห้ามเชื่อคนปารีส แต่ให้เชื่อ “เพื่อนสนิท” มึงอย่างเดียว ประการแรก ใครคือ “เพื่อนสนิท” มึง? มึงไม่มี “เพื่อนสนิท” ค่ะ ประการที่สอง ทำไมดิชั้นต้องเชื่อ “เพื่อนสนิท” มึง เพราะถ้าดิชั้นเชื่อคนปารีสคนอื่นไม่ได้ ก็คงเชื่อเพื่อนสนิทมึงไม่ได้เหมือนกัน ฟังดูอาจเห็นเรื่องหยุมหยิม แต่มัน add up กับความบ้งของนางในการแสดงความเห็นเรื่องต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา รำคาญบอกเลย

....อ้อ ไม่ต้องเข้ามาแสดงความเห็นนะคะ ถึงป่วย ดิชั้นก็ถีบออกค่ะ”

โพสต์ของ นายปวิน สืบเนื่องจาก นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ปัจจุบันลี้ภัยที่ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ว่า “เอ ทำไมชัชชาติไม่สมัครในนามพรรคเพื่อไทยนะ?

เพิ่มเติม: ผมเพียงแต่เห็นว่า ถ้าทีมงาน ผู้สนับสนุน เป็นคนของเพื่อไทยทั้งหมด ก็น่าจะสมัครในนามพรรคเลย อย่างนี้เหมือนหลอกชอบกล” (จากไทยโพสต์)

ขณะเดียวกัน ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง โพสต์คลิปพร้อมข้อความในเฟซบุ๊ก Kittitouch Chaiprasith โดยระบุว่า

“ผีนายทุน” กับวิธีหาเสียงของก้าวไกล

วันก่อนเพิ่งได้ดูคลิปการดีเบตแนวคิด เรื่องการแก้ปัญหา “การทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลอง” ระหว่าง อ.ชัชชาติ กับ วิโรจน์ จากก้าวไกล
-------------------

อ.ชัชชาติ ระบุว่า ปัญหาคือ ความถี่ของเรือไม่เพียงพอ แต่รากของปัญหาจริงๆ ต้องแก้ที่จิตสำนึก เพราะคูคลอง ไม่ใช่ที่ทิ้งขยะ

จากนั้นแกก็ยกตัวอย่าง นนทบุรีที่มีการประกวดชุมชนต้นแบบ สร้างจิตสำนึกว่าชุมชนไหนดูแลคูคลองได้ดี ก็มีการให้รางวัลเชิดชูกันไป

ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีและน่าสนับสนุน

(โมเดลแบบนี้ใช้ได้ผลทั่วประเทศ ผมเห็นมาแล้วทั้งนั้นกับการสร้างชุมชนเข็มแข็ง ชุมชนต้นแบบ)
-------------------
พอตัดมาที่วิโรจน์ สิ่งแรกที่วิโรจน์ทำคือ ประกาศว่า “ห้ามโยนความผิดมาที่ประชาชน(ที่ทิ้งขยะลงแม่น้ำคูคลอง)”

จากนั้นวิโรจน์ก็ได้โยงว่าปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ กทม.มัวแต่เอาเวลาไปดูแลเก็บขยะให้ “นายทุน” เจ้าของห้างร้านในเมือง แล้วก็เริ่มอ้างเรื่องค่าเก็บขยะว่าไม่เป็นธรรม

ทำให้ประชาชนตามริมคูคลองไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่มีคนไปเก็บขยะ จากนั้นก็โยงไปโรงงานกำจัดขยะของนายทหารที่อาจจะรู้จักกับ คสช. บลาๆๆ
-------------------

ภาพ นักวิชาการ จวก “วิโรจน์” ปลุกผีนายทุน จากแฟ้ม
คนฟังใน Tiktok ก็มันส์ เห็นลีลาของวิโรจน์ ก็เลยเทใจให้ บอกว่า ชัชชาติ ไม่ได้เรื่อง ไม่แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่กล้าชนนายทุน ชัชชาติเก่งนะ แต่ก็ยังทำอะไรเก่าๆ แบบเดิมๆ บลาๆๆ
โดยลืมคิดข้อเท็จจริงไปว่า

1. คนที่ทิ้งขยะลงในคูคลอง เขาทำผิดกฎหมายและไม่เคารพต่อสมบัติสาธารณะ ไม่ใช่ว่าเขาทิ้งขยะในถังขยะหรือจุดทิ้งขยะในชุมชน แล้ว กทม.ไม่มาเก็บเสียหน่อย (อย่าหลงประเด็น)

2. เจ้าของห้างร้าน เขาทำตามกฎหมายการดูแลขยะ เขาจัดการขยะในห้างหรืออาคารของเขา จากนั้น กทม.ก็แค่มารับขยะที่เขาจัดการไว้แล้ว ณ จุดจำกัดของเสีย

และบริษัทห้างร้านเหล่านี้ เขาเสียค่ากำจัดขยะเดือนละหลายหมื่นให้ กทม.อยู่แล้วตามกฎหมาย (บริษัท ไทยซัมมิm หรือบริษัทของคนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล/คณะก้าวหน้า ก็อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน)

เขาไม่ได้จ่ายเงินไม่กี่หมื่น แล้วให้เจ้าหน้าที่ กทม.ต้องเข้าไปเก็บขยะในออฟฟิศหรือตามถังขยะของห้องพนักงานเสียหน่อย หรือเขาไม่ได้เอาขยะไปโยนลงคลองหรือถนนหนทาง

สิ่งที่เขาทำไม่ต่างจากที่ประชาชนทั่วไป ทิ้งขยะลงถังขยะหรือจุดทิ้งขยะ แล้ว กทม.ก็มาเก็บไปตามปกติ

3. ต่อให้วิโรจน์ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. และคิดค่าเก็บขยะห้างร้านเดือนละล้าน สิบล้าน หรือจะยึดทรัพย์และกำจัดนายทุน (ที่ไม่ได้สนับสนุนก้าวไกลและคณะก้าวหน้า) จนหมดประเทศ

ประชาชนริมคูคลองก็ยังทิ้งขยะลงคลองเหมือนเดิม!
-------------------

สุดท้ายวิธีการหาเสียงแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับสมัยยุคสงครามเย็นที่ฝ่ายขวาหากินกับ “ผีคอมมิวนิสต์” ให้คนกลัวจนเกินเหตุ ส่วนฝ่ายซ้ายก็หากินกับ “ผีนายทุน” ให้คนเกิดชังคนรวย

การเมืองแบบนี้น่ากลัว...มีแต่สร้างความเกลียดชัง หาผี หาแพะ และโยนบาปให้คนที่ตนต้องการทำลาย และสุดท้ายก็ไม่ได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงได้แม้แต่น้อย...

ภาพ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จากแฟ้ม
แน่นอน, ทั้งสองโพสต์ มีความน่าสนใจต่างกัน แม้เป็นคนละเรื่องเดียวกัน กรณีเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งกำลังดำเนินไปอย่างคึกคัก

สำหรับ “ปวิน” และ “สมศักดิ์ เจียม” ต่างเป็นที่รู้กันดีว่า มีแนวคิดสนับสนุนการ “ไม่เอาเจ้า” ทั้งวิพากษ์วิจารณ์และเห็นด้วยกับการชุมนุมประท้วงของม็อบราษฎร หรือ ม็อบสามนิ้ว แต่แค่เรื่องโต้เถียงกันว่า เชื่อ หรือไม่เชื่อ ว่ามีคนเขียนโพสต์แทน “สมศักดิ์ เจียม” ซึ่งกำลังป่วย ก็กลายเป็นประเด็นต่อว่าต่อขานกันอย่างรุนแรง อาจถึงขั้นไม่เผาผี? เหมือนไม่ใช่พวกเดียวกัน

หรือว่า แค่ความเห็นต่าง ก็ชวนทะเลาะได้แล้ว อย่างที่เคยทำกับหลายคนผ่านเฟซบุ๊ก ก็นับว่าน่าคิดไม่น้อย

ส่วนโพสต์ของนักวิชาการ จวก “วิโรจน์” กรณีร่วมดีเบตกับ “ชัชชาติ” ดูเหมือนอยู่ในยุคสงครามเย็น หาเสียงแบบซ้ายเก่า “ปลุกผีนายทุน” นั้น

ประเด็นอาจอยู่ที่ว่า คนของพรรคก้าวไกล มักต่อสู้ในเชิงยุทธศาสตร์พรรค คือ พรรคมี “จุดยืน” อย่างไร ก็เอามาปรับให้เข้ากับการทำงานการเมือง อย่างการหาเสียงผู้ว่าฯ กทม. ก็เช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ถ้าไม่ลืม นโยบาย “ทวงคืนสนามหลวง” ก็ถือว่า สอดคล้องกับ การเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้ว และสิ่งที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เคยประกาศชัยชนะ ว่า “ทวงคืนมาเป็นสนามราษฎร์” ได้แล้ว ช่วงที่ม็อบสามนิ้วสามารถยึดสนามหลวงเป็นที่ชุมนุม

เรื่องนายทุนก็ไม่ต่างกัน เพราะแกนนำตั้งแต่อดีตพรรคอนาคตใหม่ มาจนถึง “คณะก้าวหน้า” ที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อพรรคก้าวไกล มีจุดยืนทางการเมือง โดยเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง ดังนั้น “วิโรจน์” ก็แค่ ทำตามแนวทางของพรรค ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวอะไร เท่านั้น

สุดท้ายไม่ว่าจะอย่างไร อยู่ที่วิจารณญาณของคนไทยที่จะต้องแยกแยะให้ออก ว่าอะไรน่าเชื่อถือ ไม่น่าเชื่อถืออะไรของจริง อะไรของปลอม มิเช่นนั้น ก็จะหลงประเด็น และเพลิดเพลินไปกับลีลาท่าทางที่พวกเขาแสดง เล่นเกมการเมืองอย่างที่เป็นอยู่ หรือว่าไม่จริง!?


กำลังโหลดความคิดเห็น