xs
xsm
sm
md
lg

“อดีตบิ๊ก ศรภ.” จัดชุดใหญ่ให้ตาสว่าง ใช้ “สนามหลวง” สมบัติชาติหาเสียง งานนี้ “วิโรจน์ ก้าวไกล” รับไปเต็มๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “อดีตบิ๊ก ศรภ.” จัดชุดใหญ่ให้ตาสว่าง ใช้ “สนามหลวง” สมบัติชาติหาเสียง จากแฟ้ม
เอา “สมบัติชาติ” มาทำสโลแกน “หาเสียง” โก้หรู? “อดีตบิ๊ก ศรภ.” จวกยับ “ทวงคืนสนามหลวง” คนรุ่น “8 ทศวรรษ” อดดูแคลนไม่ได้ ย้อนปมเหตุ “วิโรจน์” ปักธงทวงคืน โวย กทม.ล้อมรั้ว ทำลายภูมิทัศน์-ปิดกั้นสิทธิ ปชช.

น่าสนเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (28 มี.ค.) พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “สนามหลวง กับ ผลประโยชน์ของชาติ” ระบุว่า 1. สนามหลวงเกิดจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 5 ที่ทรงให้ยุบพื้นที่ของวังหน้า มารวมกับพื้นที่เดิม จึงทำให้ “สนามหลวง” มีพื้นที่สวยงามเป็นรูปไข่อยู่ในปัจจุบัน

2. เพื่อให้สนามหลวงดูสวยงาม สะอาดตา เพราะนักท่องเที่ยวเริ่มมาประเทศไทย รัฐบาลยุคนั้น จึงมีการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่โดยยุบเลิกตลาดนัดไปไว้อยู่ที่สวนจตุจักร ต้นมะขามถูกฟื้นฟู จากความผุพัง เพราะตอกรอยตะปู ขึงผ้าใบ มีการตัดแต่งกิ่งให้ได้รูปทรงกลับมา มีสภาพเป็นต้นมะขามธรรมชาติตามเดิม

3. สาเหตุที่ต้องล้อมรั้ว สนามหลวงถูกประกาศให้เป็นโบราณสถาน เมื่อปี 2520 ซึ่งตามกฎหมายจะต้องทำการดูแลปรับปรุง ให้อยู่ในสภาพที่ดี แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาดูแลรักษา ความเสียหายก็เริ่มมีมากขึ้นจากสาเหตุหลายประการ เช่น (1) สนามหลวงถูกใช้เป็นที่ชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง การชุมนุมใหญ่ สร้างความเสียหาย ซึ่งในการปรับปรุงแต่ละครั้ง เสียงบประมาณครั้งละหลายล้านบาท โดยเฉพาะเมื่อคราวชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และ กลุ่มต่อต้านนายใหญ่ของพวกเสื้อแดง (2) มีคนเร่ร่อนเข้ามายึดครองสนามหลวง เรียกค่าคุ้มครองกันเอง ปลูกเพิง ปัสสาวะ อุจจาระ เหม็นคลุ้งเวลาเดินผ่านไปท่าพระจันทร์ มีการค้ายาเสพติด ค้าประเวณีกลางสนามหลวง กีฬาว่าวก็เล่นได้ ไม่สะดวก เพราะจะไปเข้าพื้นที่มาเฟียไม่ได้ มีการตีชิงวิ่งราว ผู้ที่เดินผ่านสนามหลวงเกิดขึ้นเป็นประจำ

ภาพ พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) จากแฟ้ม
สิ่งสำคัญที่เป็นฟางชิ้นสุดท้าย ที่ต้องทำรั้วล้อมสนามหลวง คือ การค้ายาเสพติด ผู้ค้าจะนำไปฝังดินไว้ เมื่อตกลงกันได้ก็จะพามาชี้หลุมให้ขุดขึ้นมาเอง หรือการใช้เด็กเร่ร่อนเป็นต่อ ฯลฯ (3) ปี 2553 จึงเริ่มมีความคิดในการการล้อมรั้วขึ้น เพื่อลดภาระในการดูแลทั้งคน สนามหญ้า ต้นมะขาม ยาเสพติด การค้าประเวณี การเรียกค่าคุ้มครอง การวิ่งราว ฯลฯ รวมถึง ความสวยงาม และ ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น

4. ปัญหาสำคัญที่สุด คือ กรณีที่ปัจจุบันนี้ ประเทศไทย มีรายได้เข้าประเทศมากที่สุดจากการท่องเที่ยว และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่นักท่องเทียวเกือบ 80% ต้องมาดู คือ วัดพระแก้ว กับ พระบรมมหาราชวัง และทัวร์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ สภาพของสนามหลวง จึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ต้องรักษาไว้ เพื่อรายได้ส่วนรวมที่จะเข้าประเทศ

5. ส่วนการใช้พื้นที่ของประชาชนนั้น สามารถทำได้ทุกเวลา สนามหลวงจะเปิดตั้งแต่ตี 5 จนถึง 4 ทุ่ม ซึ่งจะเห็นทั้งคนวิ่ง เดิน ออกกำลัง เล่นสเก็ตบอร์ด ฯลฯ เต็มไปหมดตอนเย็นครับ 6. ขนาดสวนสาธารณะ ยังต้องล้อมรั้วเลย นี่เป็นโบราณสถานที่มีกฎหมายพิเศษควบคุม ทำไมจะล้อมรั้วไม่ได้ละ สงสัยจริงว่ามันมีอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า

ข้อบกพร่องมีอยู่ 2 ประการ คือ (1) การปลูกต้นไม้คลุมดินใต้ต้นมะขามริมฟุตปาทด้านนอกสุด ควรเลิกได้แล้วครับ แม้ว่าจะสวยดี และหาเงินจากงบประมาณง่ายดี แต่มันกินพื้นที่ออกมาทำให้ประชาชนเดินไม่ค่อยสดวกครับ (2) ช่องเปิดเข้าสู่สนามหลวง น้อยไปนิดหนึ่ง เพิ่มอีกสัก 2 ช่องก็จะดีขึ้นครับ ทุกอย่างมีทั้งดีและไม่ดี ดังนั้น จึงต้องเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติมาตัดสิน ไม่ใช่เอามาหาเสียงส่วนตัว ไม่ศึกษาที่มาที่ไปและเหตุผลที่เป็นรากเหง้าของชาติตัวเอง คิดสั้นๆ ว่า เป็นสโลแกนหาเสียงที่โก้หรู แต่มันก็ทำให้คนที่เห็นสนามหลวงมาเกือบ 8 ทศวรรษ อย่างผมอดดูแคลนคุณไม่ได้

ภาพ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล จากแฟ้ม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 65 เวลา 15.00 น. ที่บริเวณท้องสนามหลวง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การมีรั้วมากั้นบริเวณท้องสนามหลวง ตนไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการทำลายทัศนียภาพ ทำลายเสน่ห์ และการมีส่วนร่วมของประชาชนที่จะได้ใช้พื้นที่ ทั้งนี้ ถ้ายึดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน การทำรั้วแบบสิ้นคิดแบบนี้ คือ การทำลายเสน่ห์ของสนามหลวงให้หมดสิ้น

นายวิโรจน์ กล่าวว่า รั้วสร้างโดยกรุงเทพมหานคร ซึ่งเราสามารถเอารั้วออกได้ ให้สนามหลวงสามารถเข้ามาจัดพื้นที่ ส่วนที่อ้างว่าเพื่อประโยชน์สาธารณะ ถ้าทำเพื่อสาธารณะจริงๆ ทำไมไม่มีโต๊ะม้าหิน แท่นน้ำดื่ม มีแค่รถสุขา จะจัดสุขาให้เป็นสัดส่วนได้หรือไม่ เสน่ห์คนที่มาเล่นหมากรุก เปิดสภากาแฟ หรือแม้แต่เปิดเวทีไฮด์ปาร์ค จัดกิจกรรมทางการเมือง พูดประเด็นการเมืองและสังคม มันหายไปหมด

ทั้งนี้ อย่าอ้าง พ.ร.บ.โบราณสถาน มั่วๆ ถ้าคุณคิดว่าการเหยียบหญ้า นั่งบนพื้นหญ้า ทำให้หญ้าตาย เป็นการทำลายโบราณสถานมันไม่ใช่ รั้วที่กั้นสนามหลวงต่างหากที่ทำลายโบราณสถาน ทำลายความผูกพันระหว่างสนามหลวงกับคนมากกว่า หญ้าปลูกไว้นั่ง ไว้เดิน การใส่ม้าหินให้คนได้นั่งไม่ได้เป็นการทำลายโบราณสถาน แต่เป็นการคืนเสน่ห์ของสนามหลวงให้กลับมาสู่ประชาชนมากกว่า

เพราะฉะนั้นเบื้องต้นเอารั้วรอบสนามหลวงออก จะทำให้คนเดินเท้าสะดวกมากขึ้น ปรับปรุงสาธารณูปโภคภายในสนามหลวง สร้างห้องน้ำให้เป็นกิจจะลักษณะ นอกจากนี้ การอ้างเรื่องปัญหาคนไร้บ้าน คุณแค่ไล่พวกเขาไปอยู่จุดหนึ่ง แต่แลกกับการกระทบกระเทือนสิทธิของคนเดินเท้าอีกหลายคน ซึ่งตนคิดว่าไม่คุ้ม

เมื่อถามอีกว่า เมื่อเอารั้วออกแล้ว จะทำให้มีการจัดกิจกรรมทางการเมืองมากขึ้นกว่านี้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เราจะเป็นอะไรกับความเห็นแย้งและความเห็นต่างทางการเมืองกันนักหนา ธรรมชาติของคนก็เห็นไม่ตรงกันอยู่แล้ว แต่การพูด รับฟังปัญหา จะเป็นการประสานความเข้าใจ และหาทางออกในกลไกประชาธิปไตยได้อย่างสร้างสรรค์ แต่เมื่อไปจำกัดสิทธิของพวกเขา ความขัดแย้งก็เพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นสนามหลวงควรกลับมามีเสน่ห์เหมือนเดิม

“รั้วแบบนี้ผิด พ.ร.บ.โบราณสถาน หรือไม่ รั้วแบบนี้ออกแบบโดยหลักศิลปวัฒนธรรมที่ถูกต้องหรือไม่ ใครผ่านไปผ่านมาก็บอกว่าขัดทัศนียภาพในสนามหลวง เสน่ห์ของสนามหลวงจริงๆ คือ ลานกว้าง ในต่างประเทศไม่มีแบบนี้ คืนเสน่ห์ดั้งเดิมให้กับสนามหลวงเถอะ เลิกรบกวนสิทธิคนเดินเท้า อย่าไปจำกัดสิทธิการใช้สนามหลวงให้เป็นพื้นที่สาธารณะ ถ้าผู้ว่าฯ กทม.หาวิธีการที่จะดูแลความสะอาดในสนามหลวงนอกจากรั้วไม่ได้ อย่าเป็นผู้ว่าฯเลย อย่าเอารั้วมาอ้าง ที่บอกว่าแก้ปัญหาคนไร้บ้านนั้น คนไร้บ้านก็นอนนอกรั้ว ดังนั้น รั้วเป็นการจำกัดสิทธิการใช้พื้นที่สาธารณะต่างหาก คนเป็นผู้ว่าฯสามารถสร้างสรรค์ในการดูแลความสะอาด และความปลอดภัยได้โดยไม่ต้องใช้รั้ว” นายวิโรจน์ กล่าวและว่า รั้วไม่ได้แก้ปัญหาคนไร้บ้าน เพียงแต่ผลักให้คนไร้บ้านไปอยู่ที่อื่น กรุงเทพมหานคร มองแค่ทัศนียภาพสวยๆ แต่ซุกความเน่าไว้ข้างในหรือ ตนคิดว่าถ้ามีคนไร้บ้านเกิดขึ้นจริง จะสะท้อนปัญหาให้เราเห็นว่าปัญหามีอยู่จริง และสังคมจะได้เยียวยาแก้ไขต่างหาก

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ ความพยายามที่จะเป็นคนรุ่นใหม่ หัวก้าวหน้า เห็นอะไรก็อยากเปลี่ยนแปลง แม้แต่ วัฒนธรรมล้ำค่า รากเหง้าความเป็นไทย ความดีงามที่สืบสานกันมา หรือ สิ่งที่มีคุณค่าและวิวัฒนาการมาตามยุคสมัยอย่างสนามหลวง ก็ไม่พอใจ ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างเดียว จึงจะก้าวหน้า ก้าวไกล

อย่าว่า แต่ “สนามหลวง” เลย ใหญ่กว่านั้น อย่าง “ปฏิรูปสถาบันฯ” ที่ “ม็อบ 3 นิ้ว” และกลุ่มหนุนเคลื่อนไหวมาตลอด ก็ยังกล้า หักด้ามพร้าด้วยเข่า และข่มเหงหัวใจคนไทยเลย

ดังนั้น โพสต์ของ พล.ท.นันทเดช จึงให้ความเป็นมาที่น่าสนใจ ที่ทำให้เห็นคุณค่าของสนามหลวง และความเป็น “สมบัติชาติ” อย่างแจ้งชัด ไม่ใช่ใครคิดจะเอาไปหาเสียงหลอกประชาชนอย่างไรก็ได้ จริงหรือไม่ ก็นับว่าน่าคิดเหมือนกัน!!!?


กำลังโหลดความคิดเห็น