เอาล่ะสิ! ผู้นำเอาตัวรอด โซเชียลขุดพฤติกรรม “ทักษิณ” หลอกเสื้อแดง “เสียงปืนแตก ผมจะกลับมานำ พี่น้องเอง” เทียบ “ผู้นำยูเครน” ไทยแสดงจุดยืน “เป็นกลาง” จัดที่พัก-อาหาร นทท. “รัสเซีย-ยูเครน” สั่งดูแลเท่าเทียม
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (19 มี.ค.) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น โซเชียลย้อนแสบ! ขุดพฤติกรรมทักษิณ หลอกเสื้อแดง เทียบผู้นำยูเครนหนีเอาตัวรอด
โดยระบุว่า จากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้ทั่วโลกจับตาว่าจะจบลงอย่างไร รวมทั้งผู้นำของประเทศ จะยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างทหาร ประชาชนหรือไม่นั้น???
ทั้งนี้ นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“ตัวตลกอยู่ในบังคับของนาโต และหนีไปตั้งหลักที่โปแลนด์ก่อนหน้านี้แล้ว โดยการสนับสนุนของนาโต ให้ใช้กลยุทธ์รบไปเจรจาไป รัสเซียก็เล่นด้วย แต่เป็นเรื่องเจรจาไปยึด-ครองไป จัดระบบการปกครองไป ถ้าสถานการณ์อำนวยก็อาจจะผนึกยูเครนเข้ากับรัสเซียทีเดียว หรือสถาปนาการปกครองยูเครนตะวันตก ยูเครนตะวันออก”
ต่อมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้แชร์ปกข่าวของสำนักข่าวเดอะทรูธ ลงในเฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา ซึ่งมีข้อความบนปกว่า เหมือนอดีตผู้นำไทย ยุคนอื่นสู้แต่ตัวเองหนีเอาตัวรอด
และเมื่อโพสต์ของหมอเหรียญทอง เผยแพร่ออกไป ก็ทำให้คนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีบางข้อความเชื่อมโยงไปถึงอดีตผู้นำไทย เช่น
“ใช่คนนี้ไหมรู้สึกคุ้นๆ ว่าใช่”
“เหมือนไอ…เหลี่ยมไม่ผิด”
“เสียงปืนแตก ผมจะกลับมานำ พี่น้องเอง”
“ยุคนอื่นสู้แทนแต่ตัวเองรอดปัจจุบันก็มี!”
“ล้าหลังกว่าไทยเยอะเรื่องสู้แต่ตัวเองหนี”
“เซเลนสกี สู่เพื่อให้ตัวเองดูเป็นพระเอกนั่นแหละ สู้เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียหน้า ได้รับการปรบมือเยินยอจากเวทีตะวันตกผ่านหน้าจอ”
“รอดูมันบอกเสียงปืนแตกจะมาเดินนำหน้าคนเสื้อแดงอะ”
อย่างไรก็ตาม ทีมงานเดอะทรูธ ตรวจสอบย้อนหลังก็พบว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2552 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีคดีที่ต่างประเทศ ได้พูดผ่านระบบวิดีโอลิงก์จากต่างประเทศมายังเวทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ช่วงหนึ่งว่า
“ถ้าเมื่อไหร่ เสียงปืนแตก ทหารยิงประชาชน ผมจะเข้าไปนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพฯทันที” โดยคำพูดดังกล่าวนี้ของนายทักษิณ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปโจมตี ว่า เป็นการหลอกลวงมวลชนคนเสื้อแดงอย่างชัดเจน เพราะเมื่อถึงเวลาการเข้าสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง อดีตนายกฯก็ไม่ได้กลับมาช่วยแต่อย่างใด
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เวลานี้พรรคเพื่อไทย กำลังโหมแคมเปญใหม่ เพื่อเอาชนะเลือกตั้งครั้งหน้า โดยหวังจะนำพา “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็ก “ทักษิณ” สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ได้ กล่าวคือ “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม (แม้ว)
โดยวันนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากพรรคเพื่อไทยประกาศเตรียมจัดงาน “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ที่ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ มลฑาทิพย์ ฮอลล์ จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 20 มี.ค.และได้เปิดรับสมัครเข้าร่วมเป็นครอบครัวเพื่อไทยผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง ในเวปไซต์ family.ptp.or.th หรือไลน์ OA ของพรรคเพื่อไทย พี่น้องประชาชนในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครพนม หนองคาย เชียงใหม่ สมุทรปราการ สงขลา ปัตตานี และ กรุงเทพมหานคร มีผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นครอบครัวเพื่อไทยกันเป็นจำนวนมากบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
โดยผู้ที่มาสมัคร ณ ที่ทำการในจุดต่างๆ ที่พรรคจัดขึ้นจะได้บัตรครอบครัวเพื่อไทยและเสื้อครอบครัวเพื่อไทยด้วย คาดว่าในการลงพื้นที่เปิดโครงการครอบครัวเพื่อไทย ที่จังหวัดอุดรธานีในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง โดยพรรคเพื่อไทยจะขนทัพผู้บริหาร ส.ส. และสมาชิกพรรคเข้าร่วมงานด้วย และนับจากนี้จะมีการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยบ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม ไปอีกในหลายจังหวัดทั่วประเทศ...
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น โลกชื่นชมนายกฯไทย! จัดที่พัก-อาหาร นทท.รัสเซีย-ยูเครน สั่งดูแล 2 ปท.เท่าเทียม
เนื้อหาระบุว่า นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวรัสเซียและยูเครนในประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศอย่างใกล้ชิด
“กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเมินว่า มีนักท่องเที่ยวที่ตกค้างในไทยประมาณ 8,000 คน เป็นชาวรัสเซียประมาณ 7,000 คน และยูเครนประมาณ 1,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต และ สุราษฎร์ธานี โดยได้ให้ความช่วยเหลือต่างๆ อาทิ จัดหาระบบชำระเงินทางเลือกอื่นรองรับ จัดหาที่พักระหว่างนักท่องเที่ยวหาเที่ยวบินกลับประเทศ และจัดหาล่ามประจำโทรศัพท์สายด่วน เป็นต้น”
ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า การขอความช่วยเหลือส่วนมากเป็นการขอขยายเวลาพำนักในประเทศ ซึ่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ประสานความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย อย่างใกล้ชิด สำหรับการให้ความช่วยเหลือกรณีเที่ยวบินถูกยกเลิก นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนไปใช้สายการบินประเทศที่สาม อาทิ สายการบิน Qatar Airways และ Turkish Airlines ในการเดินทางได้ หากจำเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังพร้อมสนับสนุนการจัดหาที่พัก อาหาร และความช่วยเหลืออื่นๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและยูเครนอีกด้วย
“สำหรับผลกระทบเรื่องการชำระเงิน กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวที่ประสบปัญหา ทราบว่าสามารถโอนเงินผ่านเครือข่ายอื่นนอกจาก Swift ได้ เช่น TransferWise, Western Union และ MoneyGram เป็นต้น
มีการให้บริการผ่านทั้งธนาคารพาณิชย์ (ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย และออมสิน) และช่องทางที่ไม่ใช่ธนาคาร (สวัสดีช้อป เซ็นทรัล และไปรษณีย์ไทย) ทั้งนี้ หน่วยงานของไทยได้ประสานผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1) ธนาคารพาณิชย์ โดยขอให้ช่วยดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาติดต่อ 2) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยขอให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปยังเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยว 3) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตและสมาคมโรงแรมภาคใต้ เพื่อให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวโดยตรง”
นอกจากนี้ นายธนกร ยังกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักการบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเร่งให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกประชาชนจากทั้งสองประเทศอย่างรอบด้านและเท่าเทียม
“โดยหน่วยงานของไทยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย พร้อมรายงานนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับประเด็นปัญหา การดำเนินการ และแผนการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อประกอบการพิจารณาสั่งการทางนโยบายอย่างเหมาะสม” นายธนกร กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทุกประเทศที่อยู่ในไทยอย่างเต็มที่ ในฐานะที่ไทยเป็นมิตรกับทุกฝ่าย และไม่ใช่คู่ขัดแย้งของประเทศใด นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมทั้งชาวรัสเซียและยูเครนในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขอให้นักท่องเที่ยวทุกคนมั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแล อำนวยความสะดวก และช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ความมีมนุษยธรรมของรัฐบาลไทย ซึ่งสวนทางกับข้อกล่าวหามาตลอดว่า รัฐบาลไทยไม่สนใจเรื่องมนุษยธรรม รวมทั้งสิทธิเสรีภาพ แต่ดูเหมือนการแสดงออกต่อสายตาชาวโลก รัฐบาลไทยทำให้เห็นว่า ข้อกล่าวหาเหล่านั้น ล้วนบิดเบือนจากความเป็นจริง
ดังนั้น จากการแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนความรุนแรงจากสงคราม และช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มกำลังความสามารถ น่าจะทำให้คนไทยภูมิใจ และต่างชาติได้แห็นความจริง และเลิกมองไทยไร้มนุษยธรรม ไม่มีสิทธิเสรีภาพเสียที เพราะข้อกล่าวหาที่บิดเบือน กำลังถูกลบด้วยชาว “รัสเซีย-ยูเครน” ที่ได้ประสบการณ์จากตัวเขาเอง และญาติพี่น้องของเขา รวมทั้งชาวโลกที่ได้รับรู้จากสื่อไร้พรมแดน อย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้