วงดินเนอร์นาทีทอง พรรคเล็กกับเรื่องกล้วยๆ!?

เมืองไทย 360 องศา

จะเรียกว่ามากคนก็มากเรื่องมากความ อาจเป็นแบบนั้นก็ได้ ขณะเดียวกัน สำหรับรัฐบาลผสมหลายพรรค ก็มีลักษณะไม่ต่างกัน และยิ่งในเวลานี้ สถานะของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กลับมามี “เสียงปริ่มน้ำ” อีกครั้ง มันก็ยิ่งเอื้อให้บรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ฉวยโอกาสเพิ่มการต่อรองได้ในทุกเรื่อง เนื่องจากรู้ว่าทุกเสียงย่อมมีความสำคัญ ขณะเดียวกัน ยังมี “พวกบ่าง และขาเสี้ยม” คอยหาจังหวะยุแยงอยู่ตลอดเวลา มันก็ยิ่งดูแล้วน่าเวียนหัวมากขึ้นไปอีก

แน่นอน อย่างที่รับรู้กันอยู่แล้วว่า หลังการแยกตัวออกไปของ กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย ก็ทำให้เสียงสนับสนุนรัฐบาล โดยเฉพาะเสียงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และประกาศท่าทีชัดเจนแล้วว่า “ไม่สนับสนุน” มันก็ทำให้เสียงของรัฐบาลลดลงทันที
แม้ว่าจะยังไม่แน่ชัดว่า ในกลุ่ม ส.ส.ที่แยกออกไปจำนวน 18 คน จะมีท่าทีเหมือนกับ ร.อ.ธรรมนัส จำนวนกี่คนกันแน่ เพราะก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคยยืนยันเป็นข่าวแล้วว่า มีเพียง ร.อ.ธรรมนัส เสียงเดียวเท่านั้น ที่ไม่ยกมือหนุนรัฐบาล หรือนายกฯ
อย่างไรก็ดี เมื่อพรรคเล็กมีจำนวนมากกว่า 10 พรรค ที่เคยประกาศเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมันก็ยิ่งมีความวุ่นวาย ไม่ต่างจากลักษณะ “ปูในกระด้ง” และที่ผ่านมา มีรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้รับมอบหมายให้ดูแลบรรดาพรรคเล็กๆ บางพรรค และไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนัดบรรดาหัวหน้าพรรค และเลขาฯพรรคร่วมรัฐบาล เฉพาะที่มีรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล มาร่วมวง “ดินเนอร์” เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา
หลังจากนั้น วันที่ 11 มีนาคม ก็มีการตั้งวงคุยกันในบรรดาพรรคเล็กบางพรรค และมี ร.อ.ธรรมนัส ไปร่วมด้วย แน่นอนว่า หากมองในมุมการเมืองมันก็เหมือนเป็นการ “แสดงพลัง” ให้เห็นว่า มี ส.ส.ในกลุ่มนี้ อีกจำนวนหนึ่ง ที่โน้มเอียงไปทาง ร.อ.ธรรมนัส เพราะในวันนั้นมี ส.ส.จากพรรคเล็กๆ ไปร่วมรับประทานอาหารกว่าสิบคน และมีความพยายามขยายความให้เห็นว่า วง “ดินเนอร์” ของ นายกฯ กับพรรคร่วมรัฐบาล ที่เชิญเฉพาะพรรคขนาดใหญ่และขนาดกลางโดยไม่เห็นหัวพรรคเล็กอะไรประมาณนั้น
หลังจากนั้น ก็มีการนัดหมายพรรคเล็ก ร่วมรับประทานอาหาร กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สโมสรราชพฤกษ์ วันที่ 17 มีนาคม แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นขึ้นมาจนได้ เมื่อมีการอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ แจ้งยกเลิกนัดหมาย โดยเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด แต่ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้นัดหมายพรรคเล็กพวกนี้มาหารือที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ ในตอนเย็นวันที่ 14 มีนาคม เพื่อเคลียร์ปัญหา และปรับความเข้าใจให้ชัดเจน
แต่เมื่อสอบถามกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยตรง กลับบอกว่า ไม่มีการนัดหมายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับถามกลับมาว่า “ไปเอาข่าวมาจากไหน”
ขณะเดียวกัน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมายืนยันว่า งานเลี้ยงระหว่างนายกฯ กับพรรคเล็ก ยังดำเนินไปตามกำหนดการเดิม คือ วันที่ 17 มีนาคม และตามสถานที่เดิม คือ สโมสรราชพฤกษ์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
กำหนดการทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องยกเลิก เพราะการทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น จะยิ่งช่วยกระชับความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ยังเป็นการหารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม นอกจากจะมีการทานอาหารร่วมกับพรรคเล็กแล้ว ยังจะมีการเชิญพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด มารับประทานอาหารร่วมกันอีกด้วย
“ที่ผ่านมา นายกฯ ไม่เคยเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่หรือพรรคเล็ก เพราะทุกพรรคล้วนมีส่วนในการช่วยขับเคลื่อนประเทศในนามของรัฐบาลเหมือนกัน ทั้งนี้ เมื่อพรรคเล็กอยากรับประทานอาหารร่วมกับท่านนายกฯ เพื่อหารือเรื่องงาน ท่านนายกฯ ก็ยินดี และจะชวนพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด มารับประทานอาหารด้วยกันอีกด้วย” นายธนกร กล่าว
เช่นเดียวกัน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายกฯ ยังร่วมรับประทานอาหารกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลขนาดกลาง และขนาดเล็ก ด้วยตัวเอง ตามกำหนดการเดิม เพื่อพุดคุย หารือถึงการทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมือง โดยเฉพาะปากท้องของประชาชน ปัญหาเศรษฐกิจ และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน เช่นที่ได้พูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่ได้มีการมอบหมายให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไปแทน
นายเสกสกล ยืนยันว่า นายกฯให้เกียรติและความสำคัญกับทุกพรรคการเมือง รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลขนาดกลาง และขนาดเล็ก ไม่ได้มองว่าเป็นพรรคเล็กพรรคใหญ่ เพราะไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดนายกฯ พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ
“นายกฯอยากพูดคุยกับทุกพรรคการเมือง โดยไม่ได้แบ่งแยก ซึ่งการร่วมรับประทานอาหาร ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ นายกฯ ยังจะได้พูดคุยถึงสถานการณ์วิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหาประเทศชาติ และประชาชน ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาสงคราม เศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมกันนี้ นายกฯ จะได้รับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ จากแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลขนาดกลาง และขนาดเล็ก นำไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาให้ประเทศด้วย”
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากคำพูดของ นายเสกสกล ที่นอกจากยืนยันเหมือนกันว่า ไม่มีการเลื่อนกำหนดการหารือกับพรรคเล็กออกไป แต่ที่ต้องจับตาก็คือ ในคำพูดดังกล่าวมีการเอ่ยถึง พล.อ.ประวิตร ที่ว่า “ไม่มีการมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร ไปแทน” หากมองในมุมนี้ ทำให้เห็นว่า “มีความพยายามเสี้ยมสอง ป.” ขึ้นมาอีกครั้ง จากบางกลุ่ม เพราะก่อนหน้านั้น ก็มีการอ้างว่า “บิ๊กป้อม” นัดพรรคเล็กไปหารือกันที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ในเย็นวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งเมื่อถามกับ พล.อ.ประวิตร โดยตรงก็ยืนยันว่า ไม่มีการนัดหมายที่มูลนิธิฯ แต่อย่างใด และถามกลับว่าไปเอาข่าวมาจากไหน
นั่นก็แสดงว่า มีความพยายามปล่อยข่าว เพื่อสร้างความปั่นป่วน ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากบรรดาพรรคเล็ก โดยเฉพาะพวกหัวหน้าพรรคเล็กบางคน ก็ถือว่าระดับ “เขี้ยวลากดิน” ก็ย่อมรู้ดีว่า ในช่วงไหนที่ถือว่าเป็น “จังหวะเหมาะ” ดังนั้น ก็อย่าได้แปลกใจที่จะพวกเขาจะ “เล่นทุกหน้า” แบบ “กินกล้วยรอบวง” เพราะนี่คือช่วงนาทีทอง ที่รอมานาน !!