เมื่อ “หมอหนู” เนื้อหอม “ลุงตู่” ก็มีตัวช่วยทอนกำลัง “ก๊วนธรรมนัส” ต่อรอง **“ลุงตู่” เอาทางพระเข้าข่ม ไม่กังวลศึกอภิปราย มองยาวไปถึงประชุมเอเปก

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**เมื่อ “หมอหนู” เนื้อหอม “ลุงตู่” ก็มีตัวช่วยทอนกำลัง “ก๊วนธรรมนัส” ต่อรอง

ช่วงนี้ต้องบอกว่าสปอตไลต์การเมืองจับจ้องส่องไปที่พรรคภูมิใจไทย ของ “หอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข มากเป็นพิเศษ เนื่องเพราะ “เนื้อหอม” มี ส.ส.ย้ายค่ายเปลี่ยนโปรฯ เข้ามาสังกัดเป็นสมาชิกหัวกะไดไม่แห้ง

วันก่อน “เอกราช ช่างเหลา” และ “วัฒนา ช่างเหลา” ส.ส.ขอนแก่น มาล่าสุดก็มี “สมศักดิ์ พันธ์เกษม” ส.ส.นครราชสีมา เป็นรายที่ 3 สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเรียบโร้ย

ทั้ง 3 คนเป็นอดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เดินออกมาจากพรรคเก่าพร้อมกับ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า”


บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทยตอนนี้ จึงมีแต่ความชื่นมื่น คนที่ยิ้มร่าหน้าบานกว่าใคร ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “หมอหนู” ที่พรรคได้กำลังมาเสริม โดย ส.ส.ที่มาต่างเห็นว่า “พรรคภูมิใจไทย” มีแนวคิด อุดมการณ์ ทางการเมือง และการทำงานในทางเดียวกัน จึงมาสานต่อการทำงานทางการเมืองที่พรรคภูมิใจไทย

ขณะที่ “สมศักดิ์ พันธ์เกษม” และ “หมอหนู” นั้น มีความสัมพันธ์กันมานับเป็นเวลา 20 กว่าปี ด้วย “สมศักดิ์” เคยเป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.คลัง สมัยที่ “ปู่จิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกูล พ่อของอนุทิน ดำรงตำแหน่ง รมช.คลัง ถือว่าไม่ใช่คนอื่นไกล มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาตลอด

การที่ 3 คนย้ายมาในครั้งนี้ “อนุทิน” บอกว่า ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ที่ต้องบัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องหาพรรคใหม่สังกัดในระยะเวลาที่กำหนด โดยพรรคได้ตรวจคุณสมบัติต่างๆและสอบถามเจตนารมณ์ความตั้งใจความมุ่งมั่นที่จะทำงาน ตามนโยบายพรรคภูมิใจไทย และตามหลักการทางการเมืองที่ได้ดำเนินการอยู่ ซึ่ง ทั้ง 3 คน ยินดีที่จะมาร่วมงาน และทำงานด้วยกัน


นี่เป็นที่มาของข้อสรุปที่ทำให้ “3 ส.ส.อีสาน” ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยเมื่อขั้นตอนตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดก็เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย สามารถไปประชุมสภา ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้

ผลที่เกิดจากไหลเข้าของ 3 อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และแว่วว่า จะมี ส.ส.จากค่ายพรรคนี้ หรืออื่นๆ ตามมาอีก ทำให้มองว่าช่วยลดแรงกดดันทางการเมืองให้ “นายกฯ ลุงตู่” หรือไม่

งานนี้ “หมอหนู” ไม่อ้อมค้อม บอกว่า ช่วยนายกฯ เป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว ต่อให้ไม่เอ่ยปาก เราก็ต้องนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง


มองกันต่อว่า การที่มีกลุ่ม ส.ส.อดีตพรรคพลังประชารัฐ เข้ามาพรรคภูมิใจไทย ย่อมถือว่าช่วยนายกฯลดทอนการต่อรองของ “ก๊วนธรรมนัส” ได้ และนี่คือเหตุผลที่พรรคภูมิใจไทย ให้ความมั่นใจกับ “ลุงตู่” ได้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังมีเสียงเป็นเอกภาพ เพราะพรรคภูมิใจไทย มีเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.ต่างพรรค แต่มีแนวทางเดียวกันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นกำลังสนับสนุนรัฐบาล เพิ่มเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาล และรัฐบาลให้เข้มแข็งขึ้น เวลาที่เหลือจากนั้น รัฐบาลจะได้บริหารบ้านเมืองอย่างมีเสถียรภาพ กำหนดงบประมาณได้ และวาระสำคัญการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก
“ถ้าอะไรที่สนับสนุนนายกฯให้ทำสำเร็จ เราก็พร้อมจะทำ” นี่คือ คำมั่นของหมอหนู ฝากไปถึง “ลุงตู่” นะจ๊ะ



**“ลุงตู่” เอาทางพระเข้าข่ม ไม่กังวลศึกอภิปราย มองยาวไปถึงประชุมเอเปก

ใกล้ถึงวันเปิดอภิปรายทั่วไปของฝ่ายค้าน เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ก.พ.นี้ บรรดารัฐมนตรี รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ก็มีความตื่นเต้น ตื่นตัวกันไม่น้อย

แม้การอภิปรายครั้งนี้จะไม่มีการลงมติ ตัดสินว่ารัฐบาลจะอยู่หรือไป แต่ก็เหมือนเป็นการซ้อมใหญ่ ก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้า ที่ฝ่ายค้านจองกฐินไว้แล้ว...หากรัฐบาลต้องการจะอยู่ครบเทอม หรืออย่างน้อยให้ “นายกฯ ลุงตู่” ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกในช่วงปลายปี ก็ต้องผ่านด่านนี้ให้ได้ก่อน


ดังนั้น ทั้งนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรีจะต้องเตรียมตัวตอบคำถาม ชี้แจงถึงแนวทางแก้ปัญหาในถูกจุด ถูกใจประชาชนที่ติดตามดูอยู่

เมื่อสองวันก่อน “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ก็พูดให้กำลังใจบรรดารัฐมนตรีว่าการอภิปรายครั้งนี้ ก็คล้ายกับการตั้งกระทู้ถามหมู่ ถาม ครม.ทั้ง 36 คน หากปัญหานั้นอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐมนตรีคนใด คนนั้นก็เป็นผู้ตอบ ซึ่งตนเองได้เก็งข้อสอบเอาไว้แล้วประมาณ 10 ประเด็น เพื่อให้รัฐมนตรีไปเตรียมคำตอบ

ที่ชัดๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง โควิด-19 เรื่องรัฐบาลเป็นเผด็จการ เรื่องหมูแพง น้ำมันแพง เรื่องยาเสพติด สำหรับของตนเองน่าจะเป็นเรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งก็ได้เตรียมคำตอบไว้แล้ว

ขณะที่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่า ไม่ว่าฝ่ายค้านจะถามเรื่องใดมา ตนพร้อมที่จะตอบในทุกเรื่อง โดยเป็นการตอบในหลักการกว้างๆ แล้วให้รัฐมนตรีที่รับหน้าที่ปฏิบัติ เป็นผู้ลงในรายละเอียด

และเพื่อเป็นการปลุกปลอบสมาธิ และสร้างขวัญกำลังใจของลูกทีม... ในที่ประชุม ครม.เมื่อวันวาน “ลุงตู่” ได้หยิบหนังสือธรรมะ ของท่าน “ว.วชิรเมธี” มาแนะนำให้รัฐมนตรีได้นำไปอ่าน ระหว่างนั้น “ลุงตู่” ยังได้อ่านบางบทให้ ครม.ฟัง และบอกว่าคำสอนทางศาสนา จะทำให้จิตใจเกิดความสงบ มากกว่าการอ่านเรื่องราวในโซเชียลฯ ช่วงนี้ตนเองลดการอ่านโซเซียลฯ หันมาเอาทางธรรมะ เป็นตัวช่วยคุมสติ ...ถ้าเกลียดคนอื่น ความทุกข์ก็จะมาอยู่ที่ตัวเรา ทำดีได้ดี ใครทำกรรมอะไรไว้ก็จะได้ตามนั้น ขอให้ ครม.นำไปอ่าน เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์


นอกจากนี้ “ลุงตู่” ยังเดินทักทายคณะรัฐมนตรี อย่างอารมณ์ดี ยังมีการแซว “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ที่ห้อยพระออกนอกเสื้อว่า “ห้อยพระเมตตา มหานิยม” ก่อนที่จะหันมาถามรัฐมนตรีคนอื่นๆว่าพวกเราจะห้อยพระอะไรกันดี...
“ลุงตู่” บอกว่า ตนเองไม่ได้ซีเรียส ทุกอย่างเข้าใจได้ ทั้งเรื่องน้ำมันแพง ประเทศอื่นก็เป็นหนักกว่าเรา ประเทศเราต้องนำเข้าน้ำมัน ก็อภิปรายไป ไม่กังวลอะไร...โดยเฉพาะที่ประชุม ครม.วันเดียวกันนี้ได้สั่งลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร เป็นเวลา3 เดือนไปแล้ว
ส่วนการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ก็ได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว โดยจะใช้หอประชุมกองทัพเรือเป็นหลัก รับรองว่าการประชุมเอเปก ต้องสวยงาม เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศไทย ก็ขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้สำเร็จลุล่วงให้ได้
เมื่อ “ลุงตู่” มองข้ามช็อตการอภิปรายไปถึงการประชุมเอเปก ก็แสดงว่ามีความมั่นใจว่าต่อให้เป็นศึกซักฟอกก็ผ่านฉลุยแน่
ส่วนที่ถาม ครม.ว่าจะห้อยพระอะไรกันดีนั้น... ก็อยากกระซิบว่า ในบรรดาเครื่องรางของขลัง นาทีนี้ที่มาแรงสุด และเข้ากับสถานการณ์ ไม่มีใดเกิน “ท้าวเวสสุวรรณ” เพราะเชื่อกันว่า จะช่วยคุ้มครองจากภูตผี ปีศาจ ทั้งที่มองเห็น และมองไม่เห็น ปลอดจากสิ่งอัปมงคลทั้งปวง และยังอำนวยโชคลาภ วาสนา ด้วยนะ