กก.จริยธรรมสภาฯ เล็งสอบ ส.ส.ป้ายสีนายกฯ จ่าย 5 ล.แลกโหวต รับเรื่องสอบ “เต้” ตั้งคนไม่เหมาะสมนั่ง กมธ. ยุติสอบ “สิระ” ปมปิด รพ.สนามหลังพ้น ส.ส. ไม่รับเรื่อง ส.ส.เมืองชลฯ ดูภาพเอ็กซ์กลางสภา “เจี๊ยบ” เฮพ้นข้อหาปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ
วันนี้ (14 ก.พ.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจริยธรรม สภาฯ โดยได้พิจารณารายงานเสนอความเห็นของคณะอนุกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ในการตรวจสอบกลั่นกรอง แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นในเรื่องร้องเรียน จำนวน 11 เรื่อง และมีมติรับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา จำนวน 1 เรื่อง คือ กรณีขอให้ตรวจสอบจริยธรรม นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กระทำการเข้าข่ายผิดจริยธรรม เนื่องจากเสนอชื่อบุคคลซึ่งมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร และไม่ควบคุมกำกับบุคคลดังกล่าว ภายหลังจากได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เนื่องจาก นายมงคลกิตติ์ แต่งตั้ง ผู้มีพฤติกรรมก้าวร้าวแสดงออกด้วยถ้อยคำเหยียดหยามบุคคลทางการเมืองผ่านออนไลน์อย่างรุนแรง ไม่เหมาะสมหลายครั้ง โดยให้มีการชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน
ส่วนมติไม่รับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา จำนวน 7 เรื่อง เช่น กรณีขอให้ตรวจสอบจริยธรรม นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ดูภาพไม่เหมาะสมจากมือถือในขณะประชุมสภาฯ โดยคณะกรรมการให้เหตุผลในการไม่รับเรื่องร้องเรียนว่า เนื่องจากขอให้ผู้ร้องส่งข้อมูลเพิ่มเติม และขอให้นำส่งภาพที่ชัดเจน ให้แก่คณะอนุกรรมการ เพื่อประกอบการพิจารณา แต่ผู้ร้องไม่ได้ส่งข้อมูลแต่อย่างใด ดังนั้น คณะกรรมการจึงพิจารณาตามพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่ และเห็นว่า ภาพข่าวดังกล่าว ไม่มีความชัดเจนเพียงพอที่จะพิจารณาถึงการกระทำของนายรณเทพได้
กรณี นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล มีปฏิกิริยาและท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะผู้ร้องไม่ได้แจ้งให้ข้อมูลหรือชี้แจง มายังคณะกรรมการภายในเวลาที่กำหนด และเมื่อได้โทรศัพท์ไปยังผู้ร้องหลายครั้งตามหมายเลขที่ให้ไว้ ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ประกอบกับประเด็นที่ร้องเรียนมีหลายประเด็นแต่ไม่ปรากฏรายละเอียดข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่จะสนับสนุนได้ว่าการกระทำทั้งหลายที่นางอมรัตน์ถูกร้อง เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมฯ ทำให้ไม่อาจทราบรายละเอียดข้อเท็จจริงของผู้ร้องที่ต้องนำมาสนับสนุนข้อกล่าวหาที่จะทำให้เห็นว่าเรื่องร้องเรียนมีมูลเพียงพอที่จะรับไว้พิจารณา เป็นต้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการจริยธรรมฯ ยังได้ยุติตรวจสอบจริยธรรม นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ จากกรณีปิดทางเข้าออกโรงพยาบาลสนาม เนื่องจากสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. ไปแล้ว อีกทั้งยังจำหน่ายเรื่องร้องเรียนจำนวน 2 เรื่อง คือ กรณี นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส. ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ทำร้ายร่างกายอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในสถานบันเทิง และ กรณี ส.ส.พรรคก้าวไกล นำป้ายมาแสดงในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากประธานรัฐสภา เนื่องจากผู้ร้องทั้งสองเรื่องขอถอนเรื่องออกไป
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการจริยธรรมฯ ยังได้รับทราบกรณี ส.ส.กล่าวถ้อยคำในที่ประชุมสภาฯ เกี่ยวกับการจ่ายเงินจำนวน 5 ล้านบาท โดยได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการจริยธรรม พิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรอง แสวงหาข้อเท็จจริง และรวบรวมพยายามหลักฐานเบื้องต้น