ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ใครว่าขาลง!! “ลุงป้อม” ล็อกเป้า เลือกตั้งครั้งหน้ากวาด 150 ที่นั่ง “สันติ” ฟุ้งมีแต่คนอยากเข้า พปชร.
ช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะหลังจากมีการขับ 21 ส.ส. “ก๊วนผู้กองธรรมนัส” พ้นพรรค ก็มีข่าว “โยนหิน” ออกมาแล้วว่า หากจะให้กลุ่มนี้หนุนรัฐบาล ก็ต้องยกเก้าอี้ “มท.1” ที่ “ลุงป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นั่งมานานหลายปีแล้ว มาให้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งบ้าง
หมากตานี้จะจริงเท็จอย่างไร แต่ก็ทำเอา“ลุงป๊อก” ออกอาการเครียดไปเหมือนกัน
ล่าสุด ยังมี “แรมโบ้” เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และ “ปรพล อดิเรกสาร” ก็ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปปัดกวาด “พรรครวมไทยสร้างชาติ” จัดที่จัดทางไว้รอ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากมีปัญหาเรื่องที่อยู่ แถมยังบอกว่ายังมีอีกหลายคนในพลังประชารัฐ จะตามไปเมื่อถึงเวลา
นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า กว่าจะถึงเลือกตั้งครั้งหน้า “พลังประชารัฐ” จะเหลือสักกี่คน... ถึงขั้นว่าจะมีพรรคพลังประชารัฐ ลงสนามเลือกตั้งหรือไม่ เพราะมีเรื่องถูกร้องยุบพรรคอยู่เหมือนกัน ...โดยเฉพาะจากกรณีที่เป็นผลต่อเนื่องมาจาก ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน “สิระ เจนจาคะ” ไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แล้วพรรคส่งลงไปได้อย่างไร ... เรื่องนี้ “พี่ศรี” ศรีสุวรรณ จรรยา นำไปยื่นต่อ กกต. ให้พิจารณา ยุบพรรคพลังประชารัฐแล้ว
เจอข่าวที่ไม่ค่อยเป็นมงคลกับพรรค สาดซัดเข้ามาอยู่เรื่อย “ลุงป้อม” ก็ทำเฉยอยู่ไม่ได้ เลยเรียกประชุมพรรค เพื่อปลุกปลอบกำลังขวัญ จัดทัพ ปรับโครงสร้าง เตรียมรับศึกเลือกตั้งให้ชัดเจน โดยเมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) “ลุงป้อม” ก็ไปนั่งเป็นประธานการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ณ ที่ทำการพรรค เป็นครั้งแรก หลังจากมีการขับ “ก๊วนผู้กอง” ออกไป
ก่อนประชุม “ลุงป้อม” ได้ให้เกียรติเชิญ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” และ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” สองแกนนำกลุ่มสามมิตร มานั่งเป็นประธานร่วม
วาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้ ก็มีการแจ้งถึงการวางคนลงตำแหน่งให้ชัดเจน โดยจัดให้ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง และผู้อำนวยการพรรค เป็นรักษาการเลขาธิการพรรค แล้วให้ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นั่งรักษาการผู้อำนวยการพรรค “สุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นรักษาการนายทะเบียนพรรค “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลฯ และกรรมการบริหารพรรค ขึ้นเป็นรองหัวหน้าพรรคอีกหนึ่งคน
โอกาสนี้ “ลุงป้อม” ปลุกลูกพรรคให้มีความฮึกเหิมว่าเลือกตั้งครั้งหน้า พลังประชารัฐจะใช้กลไกที่มี ผ่านโครงสร้างทั้ง 10 ภาค กวาด ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 150 ที่นั่ง และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
ขณะที่ “สันติ พร้อมพัฒน์” รักษาการเลขาธิการพรรค ก็พูดถึงผู้ที่ลาออกจากพรรคนั้น เป็นเพียงแค่สมาชิกพรรค ไม่ใช่ ส.ส.ไม่เห็นต้องตกอกตกใจ ส่วนที่เป็น ส.ส.นั้นยังเหนียวแน่น ไม่เห็นมีใครลาออกสักคน แถม ส.ส.จากพรรคอื่นก็มีแต่อยากจะมาอยู่กับพลังประชารัฐ ขอให้จับตาตอนเข้าสู่โหมดเลือกตั้งก็แล้วกัน
“เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำกลุ่มสามมิตร คนนี้ยิ่งมาแรงกว่า “ลุงป้อม” ที่ตั้งเป้าไว้ 150 เสียง บอกส่วนตัวคิดว่าเมื่อถึงเวลานั้นน่าจะเกิน 150 เสียง จริงหรือไม่ขอให้คอยดู
แล้วอย่างนี้ใครว่าพลังประชารัฐขาลง!!??
**สลิ่มเฟส 2 เป็นเหตุ ฝ่ายประชาธิปไตยหันมา “แขวน” กันเอง งานนี้สลิ่มตัวจริงหัวร่องอหาย
ดรามาสนั่นโซเชียลฯ สำหรับคำว่า “สลิ่มเฟส 2” จนกลายเป็นสงครามคีย์บอร์ด ฟาดกันสนุกบนโลกออนไลน์ของติ่งพรรคเพื่อไทย และก้าวไกล ที่ต้องถือว่าเป็นพรรคพวกเดียวกัน ซึ่งเรียกตัวเองว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย”
ชนวนต้นเหตุเรื่องนี้ เริ่มมาจาก...
“แขก คำผกา” ลักขณา ปันวิชัย พิธีกรช่องวอยซ์ทีวี แกนนำกลุ่มแคร์ (CARE) คิดเคลื่อนไทย ที่รู้กันว่า ผู้สนับสนุน “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ “สลิ่ม IN HER EYES” โดย “แขก คำผกา” ได้อธิบายถึงที่มาและที่ไปของคำว่า “สลิ่ม” ที่ใช้กล่าวหากันไปมา ทั้งที่เป็น “สลิ่มเฟส 1” และ “สลิ่มเฟส 2” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันว่า สลิ่มมาจากไหน มีลักษณะความคิดอย่างไร แล้ว สลิ่มเฟส 2 เป็นอย่างไร คิดเหมือน หรือต่างกันกับเฟส 1 อย่างไร และยังมี สลิ่มแดง เพิ่มเติมมาอีกต่างหาก
ดูๆ ไปแล้วเหมือนจะไม่มีอะไร เพราะว่ากันไปแล้ว คำว่า “สลิ่ม” ก็ใช้กันมานาน ตั้งแต่ปี 2553 สมัยที่มีการชุมนุมของกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือ กลุ่มเสื้อหลากสี เพื่อต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มี “นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์” เป็นแกนนำ ความหมายก็เพื่อ "บูลลี่" ฝ่ายตรงข้ามของ “ติ่งทักษิณ”
ทว่า บรรดาสาวกก้าวไกลและชาว 3 นิ้ว มาเจ็บจี๊ดแบบจุกๆ ก็ตรงที่ “แขก คำผกา” พิธีกรที่ได้ชื่อว่ามีความสามารถเปิดเครื่องด่าได้ข้ามวันข้ามคืน ดันไปบอกว่า... “พรรคอนาคตใหม่” เกิดจากกลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ตาสว่าง
เท่านั้นเอง โซเชียลฯ ถึงกับลุกเป็นไฟ ติ่ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เอย ติ่งก้าวไกล เอย และ ติ่ง 3 นิ้ว พร้อมใจกันออกมารัวๆ ไม่จริ๊ง ไม่จริง ยืนยันว่า ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ เกิดจากการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงต่างหาก
บ้างก็ว่า อย่าไปให้ค่าเจ้าของวลี “สลิ่มเฟส 2”
แน่นอนเรื่องแบบนี้ “เจี๊ยบ ก้าวไกล” อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ย่อมเสนออยู่แถวหน้า จัดทวิตเตอร์ ไปหนึ่งดอก บอกว่า “ไม่เคยใช้คำว่าสลิ่มกับใคร ตื่นมาเช้านี้พบว่าตัวเองเป็น สลิ่มเฟส 2” และโพสต์ภาพคู่กับปฏิทินสองพี่น้องแดนไกล ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระบุว่า “ได้ fast track ข้ามเป็นเฟส 2 เลย ไม่ต้องเคยเป็น เฟส 1”
อีกภาพหนึ่ง โพสต์ภาพผ้าพันคอ Truth Today และ เสื้อยืด ไพร่ สัญลักษณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่า เก็บไว้เพราะตอนแรกคิดว่าตัวเองเป็นไพร่ จับพลัดจับผลูมาเป็น ส.ส. เลยไม่ได้รับเครื่องราชฯเหมือนใครเขา สุดท้ายใกล้ลาโรง ได้เป็นสลิ่มเฟส 2 ขำขำ
งานนี้ชาวเน็ตที่เข้ามาส่อง รวมทั้งคนที่แสดงตนว่าเป็นสลิ่มตัวจริง ได้เข้ามาร่วมวงต่างหัวร่องอหาย กับพฤติกรรมประจาน หรือ “แขวน” กันเองของฝ่ายประชาธิปไตย ครั้งนี้
การเมืองตอนนี้จึงไม่ใช่แค่ฝ่ายรัฐบาลที่ฟาดกันเละ ฝ่ายค้านเองก็พอๆ กันนะจ๊ะ.
