“ก้าวไกล” แถลงโวนำล้มรายงาน กมธ.ขุดคลองไทย กลางสภาฯ ยกเหตุผล “ตัดผ่านภูเขาสูงกว่ามหานคร-เวนคืนหายไปทั้งอำเภอ” แนะทบทวนใหม่ศึกษาเป็นกลาง-จริงจัง หวั่นกลายเป็น “น่านน้ำสากล” ท่ามกลางสงครามการต่อรองของมหาอำนาจ
วันนี้ (4 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.45 น. ที่รัฐสภา นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 143 ต่อ 127 ไม่รับรายงานผลการศึกษา และข้อสังเกตของ กมธ. ว่า เหตุผลหลักคือการลงทุนขุดคลองไทยกว่า 2 ล้านล้านบาท ต้องพิจารณาว่าควรทำหรือไม่ ไม่ใช่อยากได้หรือไม่ และไม่ควรอยู่บนความรู้สึกส่วนตัว ดังนั้น ต้องมีการศึกษาอย่างจริงจัง เป็นกลาง และละเอียดว่า ใครลงทุน ผลตอบแทนคุ้มค่าหรือไม่ ถึงจะตอบคำถามได้ว่าควรทำหรือไม่ ซึ่งในการประชุมสภาฯ เรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็เป็นอันต้องปิดประชุมก่อนเวลาอันควร แต่ถือเป็นเรื่องดีที่จะได้มีการทบทวน ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคเดียวมาตั้งแต่แรก ที่มีจุดยืนชัดเจนมาตลอดว่าไม่รับเรื่องนี้ และดีใจที่ล่าสุดมี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่เห็นตรงกันกับเรา จนชนะในการไม่รับรายงานของ กมธ. ทำให้ต้องตกไป
“ส่วนเหตุผลหลักที่เราไม่รับรายงานข้อสังเกตของ กมธ.ขุดคลองไทย ชุดนี้ คือ การเสนอขุดคลองไทย 9A ต้องมีการตัดผ่านภูเขาสูงกว่า 383 เมตร ซึ่งสูงกว่าตึกมหานคร ระยะเวลาที่สั้นในการร่นคลอง อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงหรือไม่ หรืออยู่บนความฝัน และในการขุดคลองไทยต้องมีการเวนคืนที่ดินจำนวนมากคิดเป็น 14 เท่าของเกาะภูเก็ต เราจะทำอย่างไร” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
ด้าน นายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การเวนคืนที่ดินเพื่อขุดคลองทั้ง 2 ฝั่ง เป็นจำนวน 20 กิโลเมตร ถ้าเทียบเป็นจังหวัด ถือว่าหายไปเป็นระดับอำเภอ อยากถามว่า ประชาชนหลายแสนคนที่ได้รับผลกระทบ ถือเป็นการอพยพคนขนาดใหญ่ จะเอาพวกเขาเหล่านี้ไปอยู่ไหน อีกทั้งทิศทางยังมีการชี้นำ โดยการถือเอาคำแนะนำของประเทศมหาอำนาจหนึ่งในเอเชีย และมีบริษัทของประเทศมหาอำนาจดังกล่าวเกาะติดสถานการณ์ในการประชุม กมธ.อยู่ตลอด ถามว่าประเทศจะได้อะไร ในอนาคตเราอาจกลายเป็นน่านน้ำสากลได้ ยิ่งในช่วงสงครามแห่งการต่อรองของเหล่าประเทศมหาอำนาจปัจจุบัน ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศเล็กจะไปต่อรองได้อย่างไร