“บิ๊กป้อม” เรียกประชุมคลี่คลายแก้ปัญหา 15 ข้อเรียกร้อง P-MOVE สั่งเร่งขับเคลื่อนช่วยเหลือเยียวยาทุกกรณีให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ยันรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือเยียวยาทุกกลุ่ม
วันนี้ (31 ม.ค.) พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบ VTC
ที่ประชุมได้รับทราบ ข้อเรียกร้องต่างๆ ของ ขปส. ทั้ง 15 กรณี ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องที่ดินทำกินของชุมชน และการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน วิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล และชาวกะเหรี่ยง รวมทั้งผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาล และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ พร้อมทั้งได้รับทราบความคืบหน้าการประชุมหารือร่วมกันระหว่างส่วนราชการต่างๆและ ขปส. ในการแก้ปัญหาข้อเรียกร้องต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือขั้นต้น พร้อมรับทราบการแต่งตั้ง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ เพิ่มในองค์ประกอบคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ขปส.
ที่ประชุมมีมติที่สำคัญร่วมกัน เห็นชอบให้ทุกส่วนราชการ เร่งแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้องให้เป็นตามเจตนารมณ์ของประชาชน และพิจารณาตามข้อกฏหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ให้ครอบคลุมเป็นธรรม และเป็นประโยชน์กับประชาชนส่วนใหญ่ พร้อมทั้งให้เร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบในทุกกรณี โดยมอบให้ คทช.พิจารณายกระดับจัดที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เร่งหารือร่าง พ.ร.ก.นิรโทษกรรมคดีความที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้ ปัญหาที่ดินที่เกิดจาการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ และเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธ์และชนเผ่าพื้นเมือง พร้อมทั้งให้ ทส.เร่งเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อนเป็นรายกรณี รวมทั้งให้ รฟท.เร่งพิจารณาภาพรวมการเช่าที่ของชุมชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย
พล.อ.ประวิตร ย้ำนโยบายรัฐบาลให้ความสำคัญและถือเป็นความเร่งด่วนต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในภาพรวม โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและด้อยโอกาสที่ได้รับความเดือดร้อน โดยกำชับให้ทุกคณะอนุกรรมการกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ละกรณีปัญหา ทำงานร่วมกับ ขปส.ใกล้ชิด พร้อมทั้งกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจนและเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอของ ขปส.ให้ได้ข้อยุติเป็นการเร่งด่วนภายใต้ กม.ที่เป็นธรรม และต้องมีความคืบหน้า พร้อมทั้งรายงานผลให้ทราบอย่างต่อเนื่องทุกเดือน จนกว่ากรณีปัญหาจะได้รับการแก้ไขเป็นที่ยุติ