“ศุภชัย” เผย ภูมิใจไทยเร่งดันร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง เข้าสภาพรุ่งนี้ “อนุทิน” เซ็นคนแรก หลังบอร์ด ป.ป.ส.เห็นชอบคลายล็อก มีผลใน 120 วันหลังประกาศในราชกกิจานุเบกษา
วันนี้(25 ม.ค.)ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด รัฐสภา และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังจากที่คณะกรรมการปราบปรามยาเสพติด หรือบอร์ด ป.ป.ส. พิจารณาเห็นชอบร่างประกาศระบุชื่อยาเสพติดประเภท 5 ซึ่งเสนอโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า ภารกิจของพรรคภูมิใจไทยยังไม่จบ จากนี้ เราจะต้องทำให้กัญชา และกัญชง กลับมาเป็นพืชสมุนไพรให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ แต่ก็ต้องไม่เปิดช่องให้มีการใช้ในทางที่ผิด
พรรคภูมิใจไทย จะเสนอร่างพระราชบัญญัติกัญชาและกัญชง เข้าสู่สภาวันพรุ่งนี้ ซึ่งนายอนุทิน เซ็นแล้วโดยมีสมาชิกสภาผู้แทนพรรคภูมิใจไทย และเพื่อนสมาชิกพรรคอื่นร่วมลงชื่อเสนอด้วย นายอนุทินต้องการเห็นรูปธรรมของนโยบายให้เร็วที่สุด พระราชบัญญัติฉบับนี้ จะกำหนดว่า สามารถใช้พืชกัญชา กัญชงได้อย่างไรบ้าง แต่มั่นใจได้ว่า กัญชา กัญชง จะไม่ใช่สิ่งที่เกินเอื้อมสำหรับประชาชนอีกต่อไป เราจะเปิดให้จดแจ้งเพื่อปลูกใช้เป็นสมุนไพรรักษาตัวเองในครัวเรือน เราจะมีกระบวนการควบคุม เพื่อไม่ให้มีการนำไปใช้ ในเรื่องที่ผิด ซึ่งเป็นไปตามที่อนุสัญญาเดี่ยวที่เราเข้าเป็นภาคีกำหนดไว้ ถึงจุดนี้ เราก็ต้องช่วยกัน เรามากันไกลแล้ว อย่าให้กัญชากลายไปเป็นผู้ร้ายอีกเลย ส่วนผู้ที่มีความเป็นกังวลว่า เมื่อคลายล็อกแล้ว จะมีคนนำกัญชามาเสพ มาพี้ ทำให้คนติดกัญชา ขอให้มองว่า กัญชามีประโยชน์ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม ตรงนี้ ต้องรอความชัดเจน จากพระราชบัญญัติกัญชง กัญชง ที่จะเข้าไปพิจารณาในสภา
“เมื่อประกาศผ่านแล้ว แต่จะใช้ได้อย่างไร ใช้ได้แบบไหน ขอให้รอดูใน 120 วัน หลังจากที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ระหว่างนั้น ขอให้ดูความชัดเจนจากพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ว่า ประชาชนจะปลูก จะใช้อย่างไร แต่รับรองว่า กัญชา กำลังเดินหน้าสู่การเป็นพืชสมุนไพรอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มตัว นี่คือ เครื่องยืนยันความเป็นภูมิใจไทย เราพูด แล้วเราทำ” นายศุภชัยกล่าว
มีรายงานว่า มติคณะกรรมการ ป.ป.ส.ในวันนี้ เห็นชอบตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดในการตัดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 แต่ให้มีผลบังคับใช้ 120 วัน นับตั้งแต่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างทางเวลา เพื่อรอให้มีพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ในการควบคุมดูแลให้ใช้อย่างเหมาะสมต่อไป
