รองนายกรัฐมนตรี “อนุทิน” แจงที่ประชุม ครม.ทราบความคืบหน้าปลดล็อกกัญชาจากรายชื่อ ยาเสพติดประเภทที่ 5 เผย นายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนแนวทางใช้เพื่อการแพทย์
วันนี้ (24 ม.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้รายงานกับที่ประชุม ครม. วันที่ 24 ม.ค. 2565 เกี่ยวกับการดำเนินการถอดพืชกัญชาและกัญชงออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 เพื่อให้สอดคล้องกับประมวลกฎหมายยาเสพติด ฉบับใหม่ที่มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2564 เพื่อขอแนวนโยบายจากนายกรัฐมนตรี สำหรับการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (คณะกรรมการ ป.ป.ส.) ซึ่งจะประชุมและพิจารณาในวันที่ 25 ม.ค. 2565 นี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ให้การสนับสนุนในหลักการเกี่ยวกับการส่งเสริมให้ทั้งกัญชาและกัญชงเป็นพืชสมุนไพร ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ในรายละเอียดของมาตรการกำกับดูแลจะต้องดำเนินการให้มีความชัดเจน ทั้งในเรื่องของการจดแจ้ง การกำหนดคุณสมบัติของผู้ได้รับอนุญาตในการปลูก วัตถุประสงค์ในการปลูก มีผู้รับผิดชอบในทุกเรื่องที่ชัดเจนต่อไป
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้รับนโยบายของนายกรัฐมนตรี และระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างดำเนินตามแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่ายังต้องมีการควบคุมการใช้พืชกัญชงกัญชา เพื่อให้เป็นไปในทางที่เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อสุขเท่านั้น ส่วนการเสพเพื่อสันทนาการไม่ได้อยู่ในเจตนารมณ์ของการผลักดันในครั้งนี้ โดยกัญชา กัญชงต้องอยู่ในการควบคุม เหมือนบุหรี่ สุรา ที่ไม่ผิดกฎหมายแต่ก็มีการควบคุมการจำหน่าย และการเสพ
นายอนุทิน กล่าวว่า การดำเนินการเพื่อถอดพืชกัญชาและกัญชงจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 นั้น จะต้องดำเนินการออกเป็นประกาศประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 พ.ศ. .... ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด แล้ว เหลือการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จากนั้น รมว.สาธารณสุข จึงจะลงนามและประกาศใช้ได้
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน รัฐบาลขอย้ำว่าการส่งเสริมพืชกัญชาและกัญชง จะเป็นไปเพื่อทางการแพทย์ อุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหารเสริม สมุนไพร โดยอนุญาตเฉพาะส่วนที่มีการสลัด THC ไม่เกิน 0.2% ถ้ามากกว่านั้นยังคงเป็นยาเสพติด