ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้กัญชาและกัญชงพ้นจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามที่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษเสนอให้พิจารณา
นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้กัญชาและกัญชงพ้นจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ซึ่งร่างดังกล่าวจะมีการระบุชื่อยาเสพติดประเภท 5 ประกอบด้วย ฝิ่น เห็ดขี้ควาย ส่วนสกัดของกัญชา ที่มีสาร THC เกิน 0.2 เปอร์เซ็นต์ หากจะปลดล็อกส่วนสกัดของกัญชา จำเป็นต้องออกข้อกำหนดควบคุมและให้เกิดความมั่นใจว่า จะนำมาใช้ทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย อุตสาหกรรม และการใช้ทางสุขภาพ หรือผลิตภัณฑ์อาหาร ไม่ใช่นำไปใช้ทางที่ผิดเช่น การเสพเพื่อให้มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท พร้อมจะเร่งให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ วันที่ 26 มกราคม จะยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … ต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจาก ส.ส.ทุกคน
ส่วนประชาชนทั่วไปจะสามารถปลูกกัญชาได้เมื่อใด นายอนุทิน ย้ำว่า ต้องทำตามกฎหมาย คือต้องให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ก่อน จากนี้คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องไปหาแนวทางเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการใช้กัญชา และไม่ให้เกิดการตีความ จากนี้ไปจะสามารถปลูกได้ง่ายแต่ต้องจดแจ้งก่อน และต้องปลูกตามจำนวนที่กำหนด ไม่นำไปสกัดเพื่อใช้ในทางอุตสาหกรรม หากสกัดเป็นน้ำมันต้องขออนุญาต นี่คือกระบวนการควบคุมการใช้กัญชา ถ้าชาวบ้านจะปลูกในบ้านให้จดแจ้งได้เลย ช่วงเวลานี้เป็นช่วงต้องเร่งทำกฎหมายเพื่อคุ้มครองชาวบ้าน ไม่ให้มีคนหัวหมอตีความว่าคนไหนทำผิดหรือไม่ทำผิด และการจดแจ้งในที่นี้คือเรียนมาเพื่อทราบ ไม่ใช่เรียนมาเพื่ออนุมัติ
ส่วนมีความมั่นใจในการควบคุมการใช้กัญชาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนต้องเคารพกฎหมาย เราไม่อยากจะบังคับหรือลงโทษตามกฎหมายขอให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากกัญชา ไม่ใช่ใช้โทษจากกัญชา รัฐบาลจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกเรื่องถึงจะประสบความสำเร็จในเรื่อง