xs
xsm
sm
md
lg

“รวมไทยยูไนเต็ด” ชำแหละเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ชี้หาก “เพื่อไทยชนะ ส่อแลนด์สไลด์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“รวมไทยยูไนเต็ด” ชำแหละเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ชี้ หาก “เพื่อไทยชนะ ส่อแลนด์สไลด์” เชื่อ “บิ๊กตู่” คงต้องวางไมค์จากเพลง “อย่ายอมแพ้” เปลี่ยนเป็นร้อง “ถอยดีกว่า”

วันนี้ (24 ม.ค.) นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง หาก “เพื่อไทย แลนด์สไลด์” พลเอก ประยุทธ์ คงเปิดเพลง “ถอยดีกว่า”

โดยมีรายละเอียดว่าเมื่อใกล้เข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ ไม่ว่าจะภายในปีนี้หรือในปีหน้า สิ่งที่พรรคการเมืองต้องวิเคราะห์และตีโจทย์ให้แตก คือ จุดยืนของประชาชน คะแนนเสียงที่จะมาจากระบบอุปถัมภ์ คะแนนเสียงที่จะมาจากอุดมการณ์ กับระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา การชุมนุมประท้วง โรคระบาดโควิด เศรษฐกิจ ผลงานของรัฐบาลและฝ่ายค้าน คำถามคือ สังคมไทยเราได้เปลี่ยนแปลงไป หรือยังคงเหมือนเดิม ?

ผลการเลือกตั้งซ่อมที่สงขลาและชุมพร ชี้ว่า การเมืองบ้านใหญ่ยังคงแข็งแกร่ง และอุดมการณ์ยังคงอนุรักษนิยม เพราะพรรคที่มาที่ 1 และ 2 พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ ทิ้งห่างคู่แข่งอื่นลิบลิ่ว บวกกับหาเสียงบนกระแส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนโยบาย “คนละครึ่ง” หมายความว่า ทุกอย่างเหมือนเดิม

ผลการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ของกรุงเทพฯ ในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคมนี้ จะตอกย้ำความต้องการของประชาชน และจะกระทบยุทธศาสตร์การเลือกตั้งใหญ่ของแต่ละพรรคการเมือง หากระบบอุปถัมภ์จัดตั้งชี้ขาดแพ้ชนะ ก็แสดงว่า ประเทศไทยยังเหมือนเดิม ซึ่งพูดตรงๆ ทั้งสื่อและกลุ่มประชาชนที่จะสังเกตการณ์นั้น ก็จะทราบกันอยู่แล้ว เพียงแต่พูดไม่ได้ เดี๋ยวโดนแบบคุณปารีณา ไกรคุปต์

แต่ถ้าพี่น้องประชาชนชาวหลักสี่-จตุจักร ลงคะแนนเสียงด้วยอุดมการณ์เป็นหลัก ไม่ว่าผลจะแพ้หรือชนะจะส่งสัญญาณถึงแต่ละพรรคการเมืองที่ลงแข่งขัน ดังต่อไปนี้

ถ้า คุณสุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย ชนะผล นั่นหมายถึง ประชาชนต้องการการเมืองที่ยึดโยงกับท้องถิ่น เพราะไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ 10 กว่าปีที่ผ่านมา คุณสุรชาติ ทํางานในพื้นที่อย่างเข้มข้น สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ กระแส “โทนี่ วูดซั่ม” ซึ่งปรากฏเมื่อต้นปีที่แล้ว สะพัดแรง และจะเป็นก้าวแรกอันหล่อหลอมของยุทธศาสตร์ “เพื่อไทย แลนด์สไลด์” แต่ถ้าแพ้ ก้าวแรกก็กลายเป็น “สลิปล้ม” โดยเฉพาะทุกฝ่ายมองว่าคุณสุรชาตินั้น เต็ง 1 ในพื้นที่

ถ้า คุณสรัลรัศมิ์ “มาดามหลี” เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ ชนะ หมายความว่า คุณสิระนั้น ทั้งเป็นของจริงและของแข็งในพื้นที่ สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ หลังจากพ่ายแพ้ที่สงขลาและชุมพร ชัยชนะในหลักสี่-จตุจักร จะส่งสัญญาณว่า พรรคพลังประชารัฐไปต่อได้ แต่ถ้าแพ้ก็จะยิ่งระส่ำหนัก โดยเฉพาะเป็นเจ้าของพื้นที่ พรรคอาจแตกขึ้นอีก อย่างเช่น สิ่งที่เกิดขึ้นกับกลุ่มคุณธรรมนัส พรหมเผ่า พลเอก ประยุทธ์ คงต้องวางไมค์จาก “อย่ายอมแพ้” เปลี่ยนเป็นร้อง “ถอยดีกว่า” และอำนาจต่อรองของพรรคเศรษฐกิจไทย ที่กลุ่มคุณธรรมนัสจะย้ายไปอยู่ ก็จะเป็นผลต่อความอยู่รอดทางการเมืองของพลเอก ประยุทธ์ ในการเลือกตั้งใหญ่มากขึ้น

ถ้า คุณกรุณพล “เพชร” เทียนสุวรรณ พรรคก้าวไกล ซึ่งหาเสียงจากกระแส จุดยืน และบทบาทในสภาของก้าวไกล ชนะในครั้งนี้ หมายถึง ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ประชาชนต้องการ “ชน” ต้องการปฏิรูปสุดซอย แต่หากแพ้ หมายถึง ประชาชนไม่ต้องการไปสุดซอย แต่เนื่องจากก้าวไกลไม่ใช่เต็ง 1 หรือ 2 ในพื้นที่ ไม่จำเป็นต้องชนะ หากถ้าแพ้แต่ได้คะแนนเยอะ เพิ่มจากสมัยอนาคตใหม่ หมายถึง ยุทธศาสตร์มาถูกทางแล้ว แต่ถ้าแพ้แบบคะแนนตกต่ำ นั่นคือสัณญาณว่ามาผิดทาง !

ถ้า คุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคกล้า ซึ่งเคยทําพื้นที่มาก่อน ชนะผลในครั้งนี้ หมายถึง หลักสี่-จตุจักร อนุรักษนิยม แต่ชัดเจนว่าไม่ต้องการ พลเอก ประยุทธ์ แล้ว และพรรคกล้าก็จะทำให้ประชาธิปัตย์หนาวในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ แต่เนื่องจากเป็นพรรคใหม่ ถ้าแพ้แต่คะแนนดี ก็แสดงว่าพรรคไปต่อได้ แต่หากแพ้หลุดลุ่ย โดยเฉพาะเลขาพรรคลงเอง คุณกรณ์ จาติกวณิช ก็ต้องคิดหนักในอนาคตทางการเมืองของตน

ถ้า คุณพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ พรรคไทยภักดี ชนะผลครั้งนี้ นั่นหมายถึง ม้ามืดมีจริง หมอเหรียญทอง แน่นหนา มีอิทธิพลจริง และประชาชนทั้งขวาจัดและอนุรักษนิยม หากผลแพ้แต่คะแนนเยอะ หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ก็คงแฮปปี้ พรรคไปต่อได้ แต่หากแพ้หลุดลุ่ย ก็แสดงว่าจุดยืนทางการเมืองขวาเกินไป

ทั้งนี้และทั้งนั้น ตราบใดที่ประชาชนเลือกด้วยอุดมการณ์ ไม่ว่ากาให้ใคร ทุกคะแนนเสียงนั้นล้วนเป็นคะแนนที่มีเกียรติ แต่หากการอุปถัมภ์จัดตั้งชี้แพ้ชนะ หมายความว่า หลายปีที่ผ่านมา เราไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ประเทศไทยนั้นเหมือนเดิม และในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ “เศรษฐกิจ” ก็จะสะพัดดั่งสึนามิ ที่โหมใส่ซ้ำซากดั่งที่เป็นมา




กำลังโหลดความคิดเห็น