สภาปิดแต่ไก่โห่ หลังอภิปรายผลศึกษาขุดคลองไทยฯ “สุชาติ ตันเจริญ” รองประธานสภาฯ สั่งปิดประชุม ให้ไปลงมติครั้งหน้า อ้างเหตุมีเสียงคัดค้าน ทำให้ ส.ส.ต่างอุทานออกมาว่า “อ้าว” กันเป็นแถว
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยฯ และการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย รองประธาน กมธ.คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่เป็นประธาน กมธ.
สำหรับสาระสำคัญของรายงานดังกล่าว มีข้อสรุปสนับสนุนให้รัฐบาลขุดคลองไทยฯในพื้นที่ภาคใต้ แนวพื้นที่ 5 จังหวัด คือ จังหวัดกระบี่, จังหวัดตรัง, จังหวัดพัทลุง, จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา เพราะจะเกิดการจ้างงาน สร้างงาน สร้างรายได้ใหม่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษขวานทองภาคใต้ และจะพัฒนาคุณภาพเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ การบริหารจัดการและการขนส่งทางทะเล และทำให้เป็นศูนย์กลางความเจริญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณา มี ส.ส. อภิปรายคัดค้าน เพราะผลการศึกษานั้นเป็นการรับฟังความเห็นด้านเดียว และไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ได้จริง และจะทำให้เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กว้างขวาง อีกทั้งเชื่อว่าจะทำให้ศิลปวัฒนธรรม วัดเก่าแก่ในพื้นที่ก่อสร้างและประชาชนกว่าแสนครัวเรือนจะได้รับผลกระทบ แต่รายงานดังกล่าวไม่ระบุรายละเอียดดังกล่าวไว้ โดย นายประเสริฐ พงษ์ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายตอนหนึ่งว่า “ผมไม่เห็นด้วย อย่าส่งให้รัฐบาล อายเขาไม่สมควรดำเนินโครงการนี้ อย่าหวังว่าพระเครื่องรุ่นที่หนึ่งที่เอามาให้ผมเป็นค่าปิดปาก เพื่อให้ ส.ส.ผ่านรางานนี้ วางสิบพระเครื่องรุ่นดีๆ ผมก็ไม่ผ่านให้”
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวอีกว่า รายงานฉบับดังกล่าวเป็นการรับเงินจากนายทุน เพื่อให้ผลักดันโครงการดังกล่าว ปัจจุบันพบว่ามีการจัดซื้อรถตักดินไว้จำนวนมาก เพื่อหวังว่าจะได้รับงานในโครงการดังกล่าว
ด้าน นายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่าการขุดคลองไทยไม่สามารถใช้รถตักดินได้ ต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น อย่ากล่าวหาท้องถิ่นที่จัดซื้อรถตักดินใช้ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม การศึกษาคลองไทยที่ผ่านไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะมีกลุ่มทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ หว่านเงิน หลักหมื่นล้านบาท ถึงแสนล้านบาทเพื่อขัดขวาง เพื่อแลกกับประโยชน์ในประเทศดังกล่าวจะได้รับจากการเดินเรือ ซึ่งตนขอตั้งคำถามว่า เป็นนายกรัฐมนตรี 7 ปี เอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหน
“เขาวางแผนระยะยาว ไม่อยากเห็นคลองไทยเกิดขึ้น พร้อมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อขัดขวาง และเขาเลี้ยงข้าราชการไว้ จ่ายเงินให้เอาไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศที่เป็นเจ้าของเงินทุน อย่างไรก็ดีผลการศึกษานี้เป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้น หากจะทำรัฐบาลต้องศึกษาในรายละเอียด วันนี้ช่องแคบมะละกา 4 ล้านล้านบาทต่อปี แต่หากมีคลองไทยทำจะได้มากกว่านั้น หากกังวลเรื่องความมั่นคง สามารถได้เงิน 4 แสนล้านบาทเพื่อให้ความมั่นคงได้ ดังนั้นอย่ากลัวที่จะทำ” นายพิเชษฐ์ ชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่เปิดให้ ส.ส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งมาเป็นประธานการประชุมต่อจากนายศุภชัย ได้แจ้งว่า “กมธ.ได้ทำหน้าที่รายงานผลการพิจารณาศึกษาตามข้อบังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในรายงานยังมีข้อสังเกตตามข้อบังคับที่ 105 ซึ่งต้องให้สภาฯ ลงมติว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกต เพื่อส่งไปให้รัฐบาลดำเนินการต่อ จึงจำเป็นต้องขอมติจากที่ประชุม เนื่องจากมีผู้คัดค้าน คงต้องลงมติ แต่ดูแล้วเอาไว้ลงมติคราวหน้าแล้วกัน วันนี้พอแล้วครับ” จากนั้นสั่งปิดประชุมทันทีในเวลา 15.15 น. ทำให้มีสมาชิกอุทานออกมาว่า “อ้าว”