xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลระส่ำ-ม็อบระสาย! “กลุ่มธรรมนัส” เทประยุทธ์? จับตายุบสภา? บุกค้น “ฟ้าเดียวกัน” ทะลุแก๊ส ช้ำ ถูกลอยแพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “กลุ่มธรรมนัส” เทประยุทธ์? จับตายุบสภา? ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ไหวมั้ย? ส.ส.ฝ่าย รบ.ปริ่มน้ำ “กลุ่มธรรมนัส” เทประยุทธ์ สัญญาณยุบสภาชัด โดน! ตร.บุกค้น “สนพ.ฟ้าเดียวกัน” ตะครุบ 3 นิ้วกลุ่มดัง ข้อหา ม.116-พ.ร.บ.คอมพ์ “ก๊วนทนายม็อบ” เกรงมีเอี่ยว ไม่รับทำคดีให้ “ทะลุแก๊ส”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (20 ม.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น การเมืองระส่ำ! ส.ส.ฝ่าย รบ.ปริ่มน้ำ “กลุ่มธรรมนัส” เทประยุทธ์? สัญญาณยุบสภาชัด!

โดยระบุว่า ภายหลัง กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ได้เข้าประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา รวมถึงมีรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส ขู่จะนำ ส.ส.ในสังกัดกว่า 20 คน ลาออก ต่อมาปรากฏว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค รวม ส.ส.พรรค ทั้งหมด 78 เสียง มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส และพวกรวมทั้งหมด 21 คน ในข้อหาสร้างความขัดแย้งภายในพรรค โดยตามรัฐธรรมนูญ จะต้องหาพรรคใหม่ ภายใน 30 วัน

ต่อมา ทางด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการเดินหมากในครั้งนี้ของ ร.อ.ธรรมนัส โดยบอกว่า เกมชนะของธรรมนัส การถูกขับออกจากพรรค พปชร. ของ 21 ส.ส.ในกลุ่มธรรมนัส เป็นเกมการเมืองที่ล้ำลึก

แม้ว่าพรรคใหม่ที่จะไปอยู่ดูคล้ายพรรคสาขาที่มีคนสนิทของ พลเอก ประวิตร ไปตั้งรอไว้ก็ตาม กลุ่ม ส.ส. 21 คนนี้ แม้ไม่ประกาศว่าเป็นฝ่ายค้าน แต่พร้อมคว่ำรัฐบาลได้ทุกนาที หากการต่อรองประโยชน์ไม่ได้ดังใจ และไม่มีคำว่ามติพรรค พปชร.มาเป็นอะไรที่กีดขวางอีก เสียงสนับสนุนของรัฐบาลที่อยู่ดีๆ ก็หายไป 21 เสียงจึงเป็นอะไรที่พลเอกประยุทธ์ต้องหวั่นไหว เพราะเมื่อกฎหมายสำคัญเข้าสภา ไม่ใช่แค่การกดดันของกลุ่ม 21 คนนี้ แม้พรรคเล็กพรรคน้อยหนึ่งเสียงสองเสียง จะเรียกร้องอะไรอาจต้องตามใจ

พลเอก ประวิตร เอง เมื่อขาดขุนพลคู่ใจ คนใหม่ที่เข้ามาจะมีฝีไม้ลายมือ ใจคอกว้างขวาง หล่อเลี้ยงสมาชิกได้เท่าคนเดิมหรือไม่ อาจเป็นเครื่องหมายคำถาม และเหล่าคนในอาจเริ่มสอดส่ายสายตาหาที่อยู่ใหม่ แม้กายยังอยู่ แต่สายตามองไปไกลแล้ว

ยิ่งกติกาการเลือกตั้งเปลี่ยน หวังให้ พปชร.ได้เปรียบจากสถานะการเป็นพรรคใหญ่ วันนี้ทุกอย่างบ่งบอกแล้วว่าไม่ใช่ การแก้กติกาจึงเข้าทางเพื่อไทยเต็มๆ นาทีนี้ ต้องบอกว่า ธรรมนัส นายแน่มาก

ซึ่งนอกจากนี้ นายสมชัย ยังได้โพสต์ข้อความถึงจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยบอกว่า พรรครัฐบาล 277-21 เหลือ 256 พรรคฝ่ายค้าน 209+21 เป็น 230 ห่างกัน 26 เสียง รัฐบาลและฝ่ายค้านกลับมาอยู่ในสถานะเสียงแตกต่างกันไม่มากอีกครั้ง 21 ที่ออกมา ถือเป็นกลุ่มก้อน ที่พร้อมปฏิบัติการจมเรือได้ตลอดเวลา ส่วนพรรคเล็กพรรคน้อยในฝ่ายรัฐบาล ดูมีค่า มีความหมายขึ้นทันที

ในขณะที่ นายไพศาล พืชมงคล ก็ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า อ้าว พรรคมีมติขับออกจากพรรครวม 21 คนแล้วเหรอ!! อย่างนี้ก็ต้องไปหาพรรคใหม่ ในเวลาที่กฎหมายกำหนด และน่าจะแน่ชัดว่า ทั้ง 21 คน จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน หมายความว่า เสียงรัฐบาลหายไป 21 ฝ่ายค้านเพิ่มขึ้น 21 การยุบสภาคงใกล้เต็มที

ภาพ มติ พปชร.ขับ ร.อ.ธรรมนัส และพวก 21 คน ออกจากพรรค ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
นอกจากนี้ ยังโพสต์ข้อความต่ออีกด้วยว่า พปชร.แตกตามคาดหมาย

1. จากสภาพที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ กรณีอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นต้นมา จนกระทั่งล่าสุด ถึงการเลือกตั้ง ส.ส.เขตภาคใต้ ก็ได้คาดหมายไว้แล้วว่า สภาพคนแบกเสลี่ยงให้ท่านขุนนั่งกระดิกเท้านั้น จะดำรงอยู่ไม่ได้นาน และวันนี้ คนแบกเสลี่ยงก็ไม่ยอมแบกต่อแล้ว

2. จากการตรวจสอบข่าวเชิงลึก เชื่อว่า การจัดการประชุม เพื่อขับ ร.อ.ธรรมนัส และคณะ รวม 21 คน ออกจาก พปชร.นั้น เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการร่วมกัน ของคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด โดยเฉพาะคือ จัดโดยกลุ่มของร้อยเอก ธรรมนัส

3. ลุงป้อมยังคงรักษาคำมั่นสัญญา ที่จะไม่พรากกันจนวันตาย แต่คงไม่แบกเสลี่ยงอีกต่อไป คณะกรรมการบริหาร และ ส.ส.ที่เหลือ จึงน่าจะมีอีกจำนวนหนึ่ง ที่เดินแนวทางเดียวกัน กับกลุ่มร้อยเอก ธรรมนัส จะมีใครบ้างก็ต้องดูกันต่อไป

จำนวน ส.ส.ที่ออกจากพรรค ทำให้คะแนนเสียงฝ่ายรัฐบาลหายไป และไปเพิ่มให้แก่ฝ่ายค้าน
ดังนั้น เสถียรภาพของรัฐบาล จึงเปราะบางอย่างยิ่ง ทุกพรรคการเมืองคงต้องเตรียมเข้าสู่โหมดเตรียมการเลือกตั้ง

4. รัฐธรรมนูญที่กำหนดใช้บัตร 2 ใบ ใช้บังคับแล้ว แต่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ยังทำไม่เสร็จ แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะ กกต.มีอำนาจออกระเบียบ เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญได้ ความคิดใด ที่จะยื้อการเลือกตั้ง เพราะเหตุกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จ ย่อมไม่มีความหมายที่จะถ่วงรั้งการเลือกตั้งเอาไว้ได้ ดังนั้นนับแต่นี้ไป จับตาการคว่ำกฎหมายในสภาให้ดี

5. เหลือเวลาอีก 7 เดือน ก็จะครบกำหนด 8 ปี ที่รัฐธรรมนูญห้ามดำรงตำแหน่งนายกฯ ดังนั้น ที่ท่านรองนายกฯ วิษณุ เคยบอกไว้ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมืองในปีนี้ ก็น่าจะเกิดขึ้นจริง เพราะท่านอาจารย์วิษณุย่อมรู้ดีกว่าใคร ว่า กำหนด 8 ปีครบวันไหน

ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก ฟ้าเดียวกัน โพสต์ข้อความว่า แจ้งข่าวด่วน เปิดปี 2565 ตำรวจราว 30 นาย นำหมายค้นมาที่ สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน โดยต้องการค้นหาหนังสือ สถาบันพระมหากษัตริย์ กับสังคมไทย (คำปราศรัยของทนายอานนท์ นำภา) รวมถึงยึดอุปกรณ์มือถือ และคอมพิวเตอร์ ของ บก. ธนาพล อิ๋วสกุล

ภาพ ตร.บุกค้น “สนพ.ฟ้าเดียวกัน” ตะครุบ 3 นิ้วกลุ่มดัง ข้อหา ม.116-พ.ร.บ.คอมพ์ ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ขณะเดียวกัน น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย และแกนนำม็อบราษฎร ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ด่วน! ตอนนี้สมาชิกหนึ่งคนของ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group - DRG ถูกตำรวจนำตัวไป ปอท. เพื่อดำเนินคดีตาม ม.116 และ พ.ร.บ. คอมฯ ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อกล่าวหาว่าเป็นความผิดจากการกระทำใด และเป็นเวลาใกล้เคียงกับสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ที่ถูกตำรวจ 30 นาย บุกยึดทรัพย์สินบางส่วนและค้นหาหนังสือ “สถาบันพระมหากษัตริย์กับสังคมไทย” ของสำนักพิมพ์

นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและผู้เปิดบัญชีรับบริจาคเงินสนับสนุนม็อบราษฎร โพสต์ข้อความว่า เมื่อกี้มี ตร.คันนายาว มาที่บ้าน แต่กูไม่อยู่ ตร.ใส่เสื้อฟู้ดแพนด้า มากัน 2 คน ทาสที่บ้านบอก ตร.บอกว่านายสั่งให้มาทุกวัน ต้องขอโทษด้วยแต่จำเป็นต้องมาจริงๆ ทาสบอก ตร.เอาชื่อให้ดูว่ามีบ้านใครบ้างที่ต้องไป แต่เป็นท้องที่อื่น โอ้โห... เพื่อนกูทั้งนั้น แต่อย่างไรก็...ขอบคุณ สน.คันนายาว มากๆ ครับ ที่จะมาเฝ้าบ้านให้ทุกวัน (จากไทยโพสต์)

ภาพ “ก๊วนทนายม็อบ” เกรงมีเอี่ยว ไม่รับทำคดีให้ “ทะลุแก๊ส” ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์ประเด็น “ก๊วนทนายม็อบ” เกรงมีเอี่ยว ไม่รับทำคดีให้ “กลุ่มทะลุแก๊ส” มีแววติดคุกหัวโต

เนื้อหาระบุว่า หากพูดถึงการชุมนุมในขณะนี้หลายๆ คนคงไม่ค่อยให้ความสนใจ เนื่องจากว่าในขณะนี้ กลุ่มชุมนุมต่างๆ ไม่ว่าจะนัดรวมตัวกันที่ไหน ก็ไม่มีใครให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเรียกร้องความสนใจขนาดไหน ก็ไม่มีประชาชนให้ค่า การชุมนุมจึงถดถอยลงเรื่อยๆ ต่างจากช่วงที่ กลุ่มผู้ชุมนุมหัวรุนแรง ที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มทะลุแก๊ส-ทะลุแก๊ซ บริเวณแยกดินแดง

กลุ่มป่วนเมืองทุกวัน ทั้งเผาทำลายทรัพย์สิน ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ ก่อเหตุความสงบไม่เว้นวัน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่บุกรวบได้เป็นจำนวนมาก

ซึ่ง กลุ่มทะลุแก๊ส-ทะลุแก๊ซ เคยมีประเด็นกับม็อบสามนิ้ว แกนนำหลัก และเททิ้งหลายครั้ง เพราะไม่อยากเข้าไปเอี่ยวในความรุนแรง ที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ก่อขึ้น

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ในนามของความสงบเรียบร้อย แนวร่วมม็อบสามนิ้ว โพสต์ข้อความว่า ที่ผ่านมา #กองทุนดาตอร์ปิโด ทำหน้าที่แค่เป็นตัวกลางระหว่างผู้สมทบเงินกับผู้ต้องหาที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเกี่ยวกับคดีชุมนุมและคดีการเมือง

มาถึงวันนี้เราต้องพยายามช่วยหาทนายความให้ น้อง #ทะลุแก๊ส เพราะผู้ต้องหายังไม่ได้ประกัน และญาติก็ถูกทนายความปฏิเสธมาว่าไม่รับทำคดี

แต่พวกเราแทบไม่รู้จักทนายที่จะ “ขอแรง” ช่วยกันได้เลย ทราบว่าโดยทั่วไปมีค่าจ้างทนายความอย่างต่ำคดีละ 4-5 หมื่นบาท โดยไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะชนะคดีหรือไม่อีกต่างหาก

เป็นโจทย์ยากที่ทีมเรายังไปต่อไม่ถูก หาทางกันอยู่ครับ
คิดกันถึงขั้นที่ว่าอยากจะส่งน้องในทีมไปเรียนนิติศาสตร์ แล้วสอบตั๋วทนายมา ..ทันมั้ย ?

ขณะที่ เพจ ทะลุแก๊ซ - Thalugaz โพสต์ข้อความว่า มีพี่ทนายใจดีคนไหนสามารถช่วยเหลือทะลุแก๊สได้บ้างครับ

แน่นอน, ประเด็นที่เห็นได้ชัดก็คือ ความระส่ำระสายของทั้งม็อบ 3 นิ้ว และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน จึงดูเหมือนว่า เป็นคู่ต่อสู้ที่อ่อนกำลังลงทั้งคู่ โดยเฉพาะรัฐบาล ตอนนี้กูรูหลายคนวิเคราะห์ขาดว่า แนวโน้มยุบสภาเป็นไปได้สูง แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน?

แต่ถึงกระนั้น การกวาดล้างขบวนการ 3 นิ้วตามกฎหมาย ก็ยังคงขยายผลอย่างต่อเนื่อง นี่คือความได้เปรียบของรัฐบาล ตราบที่ยังกุมอำนาจรัฐ การบุกค้นสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ซึ่งมีความใกล้ชิดอย่างยิ่งกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และจับกุมสมาชิกกลุ่ม 3 นิ้ว คือการรุกคืบเข้าหาเป้าหมายของเจ้าหน้าที่ที่อาจได้เบาะแสอะไรบางอย่าง และมีผลต่อสำนวนคดีที่ถูกฟ้องร้องก็เป็นได้ ?

และที่เห็นได้ชัดอีกอย่าง ก็คือ การปลุกปั่นยุยงที่ไม่รับผิดชอบของ นักการเมืองบางกลุ่ม จนเยาวรุ่นทะลุแก๊สหลังระเริง ปะทะกับเจ้าหน้าที่ และเผา แทบจะรายวัน จนคดีติดตัวมากมาย สุดท้ายก็ถูกเท ไม่มีใครเหลียวแล แม้แต่ทนายที่อาสาช่วยม็อบ 3 นิ้ว ก็ไม่ยอมช่วย นักการเมืองดังที่เคยปลุกปั่นยุยงว่า พวกเขา “ลุกขึ้นสู้แบบปฏิวัติ” ก็หายเข้ากลีบเมฆ รักตัวกลัวตายกันหมด จนพวกเขาต้องร้องหาทนายความที่มีใจเมตตาช่วยเหลือ

สะท้อนให้เห็นถึงความอำมหิตของ “อีแอบ” ทั้งหลายที่จะเอาแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว ไม่ยอมรับผิดชอบชะตากรรมของคนที่ตัวเองหลอกใช้ อย่างนี้นี่เองที่กรรมตามทันเร็วราวกับออนไลน์

เหนืออื่นใด ถ้าพูดถึงการเมืองที่ดูระส่ำระสาย แต่เชื่อไหมว่า คนวงนอกการเมืองส่วนใหญ่ กลับโล่งอกแทน พล.อ.ประยุทธ์ ที่สะลัด “แป้ง” ออกจากรัฐบาลได้ ต่อให้ ส.ส.จะปริ่มน้ำก็ตาม เพราะนั่นหมายถึงคนที่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ เพื่อปฏิรูปประเทศให้สำเร็จ และปราบปรามพวกล้มเจ้า ก็พลอยสบายใจที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ตามไปด้วย

หรือว่านี่คือ แพ้ในเกมการเมือง แต่ชนะใจคนรักลุง?


กำลังโหลดความคิดเห็น