ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ลีลา “ปารีณา” ซื้อเก่ง=ซื้อใจ ปชป.จะยังไงละทีนี้ รุกก็ใช่ที่ ถอยก็กินปูนร้อนท้อง?
สงครามระหว่างพรรคร่วม พลังประชารัฐ ฟัดประชาธิปัตย์ ในศึกเลือกตั้งซ่อมที่ใต้ ที่แม้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะงัดไม้ตาย “ทุกอย่างสงบ จบที่ลุงตู่” ขอกันในที่ประชุม ครม. ว่าให้หย่าศึกกัน รักๆ กันเถอะ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ไหนๆ การเลือกตั้งก็จบไปแล้ว แถม “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ 3 ป. หัวหน้าพรรค พปชร. จะลงทุนเป่ากระหม่อมขอให้ “เอ๋” ปารีณา ไกรศุปต์ ส.ส.ราชบุรี ลูกพรรค “เบาได้เบา” ลบโพสต์ปัญหาที่ทำให้ ปชป.ทั้งพรรคโกรธจัด หัวฟัดหัวเหวี่ยง ที่มากล่าวหาว่าชนะเพราะ “ซื้อเก่ง”
ดูเหมือนว่า อารมณ์ของคน ปชป. ยังระอุคุกรุ่นไปด้วยความแค้นไม่หาย เห็นได้จาก “ราเมศ รัตนะเชวง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง ได้กล่าวถึง “ปารีณา” ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บ่อยครั้งคนของพรรคพลังประชารัฐ กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ร้ายแรงเกินกว่าที่จะรับได้ เพราะกล่าวหาว่าพรรคซื้อเสียง การใส่ร้ายโจมตีเช่นนี้ถ้าไม่ดำเนินคดีก็จะเกิดความเสียหาย คณะกรรมการกฎหมายมีการเรียกประชุมเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายต่อไป
“พรรคร่วมรัฐบาล” คำนี้ดูเหมือนว่าแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล คือ พรรคพลังประชารัฐ คิดว่าให้คนในพรรคมากระทำการกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์อย่างไรก็ได้ ซึ่งไม่ถูกหลัก การทำงานร่วมกัน ควรคำนึงถึงหลักผิดชอบชั่วดีบ้าง พรรคมีศักดิ์ศรี โดยส่วนตัว “ราเมศ” เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์สำคัญกว่าคำว่า พรรคร่วมรัฐบาล และคำว่าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้อยู่เหนือหลักความรู้ผิดชอบชั่วดี จะให้มายอมรับในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คงไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์!!
“ราเมศ” ยังบอกด้วยว่า แม้ “ปารีณา”จะลบโพสต์ไปแล้วนั้นคงไม่มีผล ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ความผิดสำเร็จทั้งในความผิดตามกฎหมายอาญา และกฎหมายเลือกตั้ง คณะกรรมการกฎหมายพรรค จะมีการเรียกประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาเรื่องนี้
ข้างฝ่าย “เอ๋-ปารีณา” ก็เคลื่อนไหวหลังลบโพสต์ “ซื้อเก่ง” เปลี่ยนมาเป็นขอแสดงความยินดีกับพรรคประชาธิปัตย์
กระนั้น “เอ๋-ปารีณา” ก็ไม่ทิ้งลีลานักการเมืองพลิ้วไหว ชนิดที่เล่นเอาคอการเมืองอ้าปากค้าง กับลีลาของเธอ โดย “เอ๋” ระบุว่า “ขออนุญาตชี้แจงว่า ได้โพสต์ว่า ซื้อเก่งกว่าจริง แต่ไม่ได้หมายถึงการซื้อเสียง และไม่มีประโยคใดเขียนว่า “ซื้อเสียง” ที่โพสต์ไปนั้นเป็นการชื่นชมประชาธิปัตย์ว่า “ซื้อใจ” ประชาชนเก่งกว่าพลังประชารัฐเท่านั้น การจะซื้อใจคนได้ ต้องประกอบด้วยความดีและต่างๆ ไม่ใช่เงินทอง
ส่วนเรื่องที่ “ราเมศ” จะดำเนินคดีนั้น “เอ๋” บอกว่า ราเมศเป็นนักกฎหมาย และมักใช้กฎหมายข่มขู่ตนเองลักษณะแบบนี้หลายครั้งหลายหนแล้ว แต่จนปัจจุบันที่เคยพูดว่าจะดำเนินคดีตนเองมาในอดีตทั้งหมด ยังคงไม่มีการดำเนินคดี และขอให้สื่อมวลชนจบเรื่องดังกล่าวได้แล้ว เพราะเลือกตั้งจบแล้ว เกมแล้ว วันนี้ต้องเดินหน้ากันต่อได้แล้ว...
แหม...งานนี้คำเฉลยของปารีณา “ซื้อเก่ง=ซื้อใจ” แถมอวยอีกต่างหากว่า จะซื้อใจประชาชนได้ต้องมีความดี หาใช่เงินทอง ปชป.จะไปต่อยังไงละทีนี้ เรื่องจะฟ้อง ถูกบีบให้คิดหนัก รุกก็ใช่ที่หรือเปล่า เขาอุตส่าห์ยกยอซะขนาดนั้น ครั้นจะถอย...จะโดนว่า กินปูนร้อนท้อง หรือไม่
ดรามาเรื่องนี้จะจบแบบไหนก็ต้องติดตามกันต่อไป.
**“อนุทิน” เคลียร์ดรามา จบปัญหาประชาชนปลูกกัญชาได้แน่ แต่ตอนนี้รออีกนิด
กลายเป็นประเด็นดรามาที่มีการถกเถียงวิพากวิจารณ์กันหลายวันต่อเนื่อง ว่าวันนี้ประชาชนทั่วไปปลูกกัญชาโดยไม่ต้องขออนุญาตได้หรือยัง
เพราะ “บังซุป”ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นรองประธานคณะ กมธ.วิสามัญร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด รัฐสภา บอกว่าได้มีการปรับปรุงกฎหมายใหม่แล้ว ไม่มีคำว่า “กัญชา” อยู่ในกลุ่มยาเสพติดประเภท 5 แล้ว กฎหมายประกาศใช้และมีผลตั้ง วันที่ 9 ธ.ค. 64
ตอนนี้ประชาชนทั่วไปสามารถปลูกกัญชาได้แล้ว จะกี่ต้นก็ได้ เพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป ใครที่ถูกจับหลังวันที่ 9 ธ.ค. 64 ให้ติดต่อมา ทางพรรคภูมิใจไทย จะจัดทนายไปช่วยสู้คดีให้
ประชาชนที่ได้รับฟังต่างหูผึ่ง เพราะก่อนหน้านี้ รู้แต่เพียงว่ามีการปลดล็อกกัญชาให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ การปลูกก็ต้องขออนุญาต ต้องรวมกลุ่ม ยุ่งยากหลายขั้นตอน ถ้าเป็นอย่าง “บังซุป” ว่า ก็แสดงว่านอกจากจะปลูกอย่างเสรีแล้ว การใช้ประโยชน์ก็ยังเสรีด้วย เพราะไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว... กัญชากิโลละเป็นหมื่น ใครจะไม่อยากปลูก
แต่ “ปิยะศิริ วัฒนวรางกูร” รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (รองเลขาธิการ ป.ป.ส.) ก็ออกมาสวน “บังซุป” ทันทีว่า แม้ว่าประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ จะไม่มีชื่อกัญชาอยู่ในยาเสพติดประเภท 5 แต่ประมวลกฎหมายยาเสพติดฯใหม่นั้น ได้ประกาศไว้ถึงการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษว่า ยาเสพติดให้โทษชื่อใด อยู่ในประเภทใด ให้เป็นไปตามกระทรวงสาธารณสุข โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการ ป.ป.ส. ประกาศกำหนด
ดังนั้น ตอนนี้ กัญชายังคงอยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท 5 ที่มีผลบังคับใช้อยู่ ยกเว้นวัตถุ หรือสาร เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตในประเทศ เช่น เปลือก เส้นใย ใบที่ไม่มีช่อดอกติดมา สารสกัด CBD ที่มีสาร THC ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก
การปลูกกัญชาเองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะกัญชายังเป็นยาเสพติดประเภท 5 แม้ว่าจะปลดล็อกในบางส่วนของพืชกัญชา เช่น เปลือก เส้นใย ใบ รวมถึง สาร CBD แต่ก็มีข้อแม้ว่าส่วนประกอบดังกล่าว ต้องมีที่มาจากแหล่งผลิตที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
สรุป คือ กัญชายังเป็นยาเสพติด ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ยังมีความมผิดตามกฎหมาย ... และในทางปฏิบัติ ตำรวจก็ยังจับผู้ปลูกกัญชา ผู้เสพกัญชา
เรื่องจึงกลายเป็นปัญหาถกเถียงในแง่ของการตีความกฎหมาย ลามไปถึงเรื่องผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง .... แม้แต่ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ซือแป๋ด้านกฎหมายยังแนะนำว่า ใครที่คิดจะปลูกตอนนี้ขอให้ชะลอไปก่อน เพราะผู้เกี่ยวข้องกำลังแก้ปัญหากันอยู่
เรื่องนี้ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ที่ผลักดันและมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ก็ออกมาชี้แจงเคลียร์ปมดรามาว่า เป็นเพราะตามขั้นตอนของกฎหมายนั้นยังไปไม่สุด...
โดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ที่มี “นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม” เลขาฯ อย. เป็นประธาน เตรียมเสนอยก (ร่าง) ประกาศ สธ.เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 โดยจะไม่มีคำว่า “กัญชา” เป็นยาเสพติด จากนั้นเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ที่มี “นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต” ปลัด สธ. เป็นประธานฯ เพื่อพิจารณา ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ ก่อนนำเสนอ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (คณะกรรมการ ป.ป.ส.) ที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ เป็นประธาน
เรื่องของกัญชาในส่วนของ สธ.ก็จะครบถ้วนสมบูรณ์ ที่เหลือเป็นเรื่องของ คณะกรรมการ ป.ป.ส. หาก ป.ป.ส. เห็นชอบ ส่งมาให้รมว.สาธารณสุข ลงนาม ก็จะสอดคล้องกับประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ที่มีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 64 เมื่อเสร็จขั้นตอนตามที่กล่าวมาทั้งหมด เรื่องปลูกกัญชาก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
แต่ตอนนี้ขั้นตอนทางกฎหมายยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้น ประชาชนทั่วไปก็อย่าเพิ่งปลูก!!
ส่วนขั้นตอนที่เหลืออยู่ตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจะสะดุด หรือไม่ “หมอหนู” บอกว่า ไม่น่าจะมีปัญหา
เป็นอันว่าตอนนี้ เรื่องปลูกกัญชา ใช้ประโยชน์จากกัญชา ยังไม่เสรี รอขยักสุดท้ายอีกสักครู่ !!