รมว.ดีอีเอส นำทีมควง “สรัลรัศมิ์” หาเสียงตลาดวิภาวดี 64 เชื่อมั่นรัฐบาลยังได้กระแสตอบรับดี และประชาชนหนุน “พล.อ.ประยุทธ์” มั่นใจได้คะแนนเยอะกว่าเดิม
วันนี้ (18 ม.ค. 2564) บรรยากาศหาเสียงในวันนี้ ที่ซอยวิภาวดี 64 ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีตลาดนัดและประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยตลอด ทำให้มีทั้ง 3 พรรคการเมืองมาเดินหาเสียง ทั้งพรรคกล้า พรรคก้าวไกล และพรรคพลังประชารัฐ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม กทม.เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ ควงคู่ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ หรือ “มาดามหลี” ผู้สมัครของพรรค หาเสียงวันนี้ พร้อมระบุว่า แม้ผลการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้พรรคพลังประชารัฐพ่ายแพ้ อาจจะส่งผลถึงสนามเลือกตั้งซ่อมในกรุงเทพฯด้วย แต่ส่งผลดีเพราะภาคใต้เป็นตัวอย่างชัดว่าพรรครัฐบาล คือ พรรคประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ มีคะแนนสูงขึ้น เนื่องจากสิ่งที่รัฐบาลได้แก้ปัญหาให้ประชาชนและประชาชนยอมรับ จึงทำให้มีคะแนนนิยมเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่า การเลือกตั้งซ่อมในกรุงเทพฯก็จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
ส่วนแต่ละพรรคแกนนำลงพื้นที่หาเสียงถือเป็นบรรยากาศที่ดี เป็นบรรยากาศประชาธิปไตยโดยเสนอนโยบายและเสนอตัวให้ประชาชนเลือก แต่อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐ ก็เป็นแกนนำพรรครัฐบาลที่ประชาชนรู้จักและคุ้นเคย มีความเชื่อมั่น จึงมีความได้เปรียบในสนามเลือกตั้งนี้ มีผลงาน ผู้สมัครก็ทำพื้นที่ ขณะที่ผู้สมัครพรรคอื่นไม่ค่อยมีการทำพื้นที่มาก่อน
เชื่อว่า พรรคได้รับการสนับสนุนจากประชาชน เนื่องจากเป็นพรรครัฐบาลพรรคเดียวที่ลงในสนามเลือกตั้งนี้ และยังมีกระแสของประชาชนที่ชื่นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยคนกลุ่มนี้มีจำนวนมาก โดยเฉพาะพ่อค้า-แม่ค้า ได้รับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล
พรรคพลังประชารัฐอยู่ระหว่างการหารือเพื่อจัดเวทีปราศรัย โดยจะขอเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้งเชื่อว่า ประชาชนพิจารณาตัดสินใจได้แล้ว เห็นว่าการปราศรัยไม่ได้เป็นตัวแปรตัดสินใจเลือกตั้ง และเป็นเรื่องปกติของการปราศรัยที่อาจถูกร้องเรียนต่อ กกต.แม้พรรคคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทยจะมีคะแนนที่สูสีกัน แต่เชื่อว่าพลังประชารัฐมีคะแนนที่ดีกว่า
นางสรัลรัศมิ์ มั่นใจว่า สิ่งที่ได้ทำได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนจะทำให้ได้รับความไว้ใจ และฝากย้ำพรรคพลังประชารัฐวางเป้าหมายทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และรัฐบาลยังอยากทำเพื่อประชาชนขอเสียงสนับสนุน ทั้งนี้ เชื่อว่า มีคะแนนเสียงตอบรับที่ดี และได้รับคะแนนมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากในพื้นที่ชุมชนที่ดูแลอยู่ก็มีประชาชนมากกว่า 20,000 เสียงแล้ว และเจ้าถึงประชาชนต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนมั่นใจว่าพึ่งพาพลังประชารัฐได้จริง ถือเป็นฐานเสียงสำคัญทำให้ชนะเลือกตั้ง
