“3 นิ้ว” ต้องฟัง! “โบว์” ฟาด “สมศักดิ์ เจียม” หลังหนุนไม่รับปริญญา คือ การรณรงค์? “โฟกัส” โหนกระแสแซะ “ลุงตู่”? “ธันวา” สอน “ไพรวัลย์” โพสต์ภาพ “หมอบกราบ ควีนเอลิซาเบธที่ 2” เหมือนมีเจตนาไม่บริสุทธิ์!
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (16 ม.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น ฟาดเดือด 3 นิ้วสะดุ้ง! “โบว์ ณัฏฐา” ซัดกลับถอนหงอก “สมศักดิ์ เจียม” หลังหนุนไม่รับปริญญา คือ การรณรงค์?
โดยระบุว่า หลังจากเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2565 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนักกิจกรรม 2 คน ประกอบด้วย น.ส.พิมชนก ใจหงษ์ แนวร่วมคนรุ่นใหม่นครสวรรค์ กับ นายยศสุนทร รัตตประดิษฐ์ นักศึกษาปี 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ขณะยืนประท้วงต่อต้านการรับปริญญาบัตร ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จนต่อมาได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย รวมทั้งยังมีบัณฑิตจำนวนมาก ที่ไม่สนการกระทำดังกล่าว แห่เข้ารับปริญญาเป็นจำนวนมาก
ต่อมา นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ที่ปัจจุบันลี้ภัยที่ประเทศฝรั่งเศส ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่า “คนไม่รับต้องจับด้วยหรือ เดี๋ยวนี้รณรงค์ไม่รับไม่ได้? ต้องรับลูกเดียว?”
ทำให้ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ตอบกลับประเด็นดังกล่าวไปด้วยว่า “รณรงค์” กับ “ระราน” ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
โดยมีชาวโซเชียลเข้ามาคอมเมนต์ใต้โพสต์ของโบว์ ว่า เห็นด้วย คำนี้มีเส้นบางๆ กั้นอยู่ พฤติกรรมทำแบบระราน แต่พอโดนจับก็อ้างว่าแค่มารณรงค์ ทั้งนี้ หลายๆ เสียงยังชื่นชมโบว์ ที่ระยะหลังเจ้าตัวหันมาเคลื่อนไหวแบบชี้ผิดชี้ถูกให้ก๊วน 3 นิ้วได้เห็น ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร จนพวกก๊วน 3 นิ้ว พากันไม่พอใจ และเคยกล่าวหาโบว์ด้วยว่า รับเงินจากรัฐมาด่าพวก 3 นิ้ว
ขณะเดียวกัน จากการเคลื่อนไหวของบางกลุ่มที่ออกมาต่อต้านการรับปริญญาบัตร และทำให้หลายบริษัท ออกมาระบุว่า ใครมาสมัครงาน จะต้องแนบรูปตอนรับปริญญาด้วยนั้น
ล่าสุด “โฟกัส จีระกุล” นักแสดงสาวชื่อดัง ซึ่งสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร” หรือม็อบ 3 นิ้ว ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กต่อประเด็นดังกล่าว ดังนี้
ถ้าต้องแนบรูปรับปริญญาสมัครงาน
แล้วที่ผ่านมาเรียนไปทำไม ?
——————————————
ถ้าแนบรูป นี่ต้องดูเกรดไหมคะ?
ถ้าแนบรูป นี่เพิ่มเงินเดือนไหมคะ?
ถ้าแนบรูป จะทำงานดีใช่ไหมคะ?
——————————————
ลุงมีรูปรับปริญญาไหมคะ?
ทำไมทำงานไม่ค่อยดีเลย
ถ้าไม่มีรูปต้องโดนไล่ออก
และคืนเงินเดือนย้อนหลังนะคะ
เขียมมมมมมมมมมมมมมมม (จากไทยโพสต์)
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์ประเด็น “ธันวา” สั่งสอน “ไพรวัลย์” ปมเดือด โพสต์ภาพหมอบกราบ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เหมือนมีเจตนาไม่บริสุทธิ์!
เนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 65 ทางด้านของ ไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระมหาไพรวัลย์ ได้ออกมาโพสต์ภาพ หมอบกราบ พระรูปปั้นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร พร้อมทั้งโพสต์ข้อความว่า “Long Live The Queen #ขอพระราชินีทรงพระเจริญ” จนกลายเป็นประเด็นพูดถึงอย่างมากว่า แท้จริงแล้ว ไพรวัลย์ ต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่
ต่อมา นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวหลังจากที่เห็นภาพดังกล่าวแล้วเกิดความไม่สบายใจ จึงได้โพสต์ข้อความว่า
“ผมไม่ด่าน้องไพรวัลย์นะครับ เพราะมีคนด่าน้องเยอะแล้ว และผมก็จะไม่ตำหนิว่าบวชเรียนมาตั้งนาน พระธรรมไม่ได้เข้าไปในกมลสันดานเลยเหรอ เพราะมีคนบอกกับน้องแบบนี้เยอะแล้วเช่นกัน
แต่ผมอยากจะตักเตือนน้องในฐานะรุ่นพี่ ซึ่งอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งมานาน ว่า เปลี่ยนพฤติกรรมเถอะครับ วิธีการแสดงออกแบบไร้ปัญญา เหน็บแนมจิกกัด ทำร้ายจิตใจผู้อื่นแบบนี้ จบไม่สวยซักราย
น้องเคยเป็นพระ ซึ่งถือเป็นบุคคลสาธารณะ ตอนนี้น้องกำลังจะเป็นดารา ซึ่งก็ถือเป็นบุคคลสาธารณะเช่นกัน แต่ไม่มีกรอบของสถานะควบคุมเหมือนเดิมอีกแล้ว น้องจึงต้องหัดควบคุมปากและมือตนแทนนะ
เกิดเป็นมนุษย์ไม่ว่าจะอยู่ในเพศสภาพใด/สถานะแบบไหน แท้จริงแล้วควรรู้จักควบคุมตัวเองทั้งนั้น ไม่ใช่สักแต่จะพูดจะพิมพ์ก็ทำมันไปโดยไร้สำนึก เหมือนสุนัขที่เห่ากระทั่งเสียงใบไม้ปลิว โดยที่ไม่สนใจว่าใครจะรำคาญหรือไม่
พี่เข้าใจว่าน้องเจอมาหนัก จึงต้องแสดงออกเพื่อหาพวก แต่เชื่อเถอะครับพวกของน้องมันมีไม่มากหรอก ถ้าเทียบกับคนทั้งชาติ พี่แนะนำว่าอย่าไปเปิดศึกเลย อยู่อย่างสงบสุขแบบคนรุ่นใหม่ที่เจริญแล้ว ที่มีสมองมากกว่าเสลด ดีกว่าครับ
ไม่รักอะไรไม่ชอบอะไรก็อย่าไปโพล่งมันซะทุกเรื่อง อย่าทำตัวราวกับคนยุคดึกดำบรรพ์ที่คิดจะขี้จะเยี่ยวตรงไหนก็เอาเลย ปัจจุบันมนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคมนานมากแล้ว ต้องรู้จักเคารพความรู้สึกของผู้อื่นอยู่เสมอนะครับ
..หลับตา ทำสมาธิ ตั้งสติ ตั้งใจทำงาน เอาเวลาไปดูแลคุณแม่ให้ดีๆ ให้ท่านภูมิใจว่าลูกเป็นที่รักของคนในสังคม ดีกว่าครับ”
หลังจากนั้น เหมือนข้อความดังกล่าวของ นายธันวา ทำให้ ไพรวัลย์ เกิดความไม่พอใจอย่างมาก และได้ออกมาเคลื่อนไหวว่า
“ผมไม่มีพี่สมองกลวงแบบคุณนะครับ อย่ามาเสร่อนับญาติกับผม และผมขอยืนยันอีกครั้งว่า การที่ผมจะถ่ายรูปกับหุ่นปั้นควีนอย่างไรนั้น ผมถือว่า เป็นสิ่งที่ผมสามารถทำได้ และอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
ที่สำคัญ ผมอาจเข้าข้างตัวเองมากไปก็ได้นะครับ แต่ผมมั่นใจว่า แม้ต่อให้ควีนเห็นรูปนี้ ควีนเองก็ไม่น่าจะทรงมีปัญหาอะไร ซึ่งผิดกับคุณและใครอีกหลายคน ทีทำอย่างกับว่า เป็นพระญาติพระวงศ์กับควีนก็มิปาน
ปล. สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะมโนเพ้อเจ้ออะไร ว่างๆ ไปพบกรมสุขภาพจิตบ้างนะครับ ผมเป็นห่วง
ล่าสุด นายธันวา ได้ตอบกลับข้อความดังกล่าวของ ไพรวัลย์ หลังจากที่ ไพรวัลย์ ขู่คนที่เข้ามาโจมตีในภาพดังกล่าว ว่าจะฟ้องร้อง โดยมีรายละเอียดว่า
“พอดีเห็นน้องไพรวัลย์ให้สัมภาษณ์กับสื่อฉบับหนึ่ง ซึ่งหากผมเข้าใจไม่ผิด ก็ประมาณว่าอาจจะมีการฟ้องร้องชาวโซเชียลที่มาคอมเมนต์ให้น้องเสียหาย
ฟังเผินๆ ก็ถูกต้องครับ ตามกฎหมายและตามความชอบธรรมน้องมีสิทธิ์ฟ้องได้ แต่พี่ขอฝากไว้ให้คิดนิดเดียวว่า “น้องควรพิจารณาตัวเองก่อนที่จะฟ้องใคร”
น้องโพสต์โดยกล่าวอ้างว่ามีเจตนาบริสุทธิ์ แต่ในใจของน้องคงรู้ดีอยู่แล้วว่าผลของการโพสต์นั้นคืออะไร (หากน้องไม่รู้จริงๆ ลองดูที่แฟนคลับน้องมาคอมเมนต์ก็ได้ครับ)
แม้จะด้วยเจตนาอะไรก็ดี ผลที่เกิดขึ้นคือมีการจาบจ้วงสถาบันในวงกว้าง ซึ่งพี่ก็ไม่เคยเห็นน้องห้ามปรามแฟนคลับน้องเลย
ดังนั้น คนที่เค้าเคารพรักพระมหากษัตริย์ย่อมเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีเป็นธรรมดา หากจะว่าไปก็ต้องยอมรับว่าต้นเหตุมาจากการที่น้องโพสต์นั่นแหละ
แล้วอย่างนี้น้องยังจะไปฟ้องเค้าอีกเหรอครับ?
พี่เคยโดนทัวร์ลงครั้งล่าสุด ก็คือ เคสอาจารย์อดัม แล้วก็มาน้องนี่แหละ คอมเมนต์นับพันนับหมื่นด่าสาดเสียเทเสีย หยาบๆคายๆ
ถ้าพี่จะไล่ฟ้องทุกคน คงซื้อรถยุโรปป้ายแดงได้เลยทีเดียว แต่พี่ยังไม่เคยฟ้อง เพราะพี่คิดว่าพี่ก็มีส่วนในการทำให้เค้าเกิดอารมณ์
ฝากไว้ให้น้องคิดนะครับ น้องเป็นบุคคลสาธารณะ และเลือกที่จะแสดงความคิดเห็นทำนองนี้หลายครั้งหลายคราว ..ควรจะต้องมีใจสปอร์ตกว่านี้ครับ”
แน่นอน, แทบไม่ต้องสงสัยว่า ขบวนการ 3 นิ้ว หันมาต่อสู้ด้วยวิธีสร้างความขัดแย้งแตกแยกในสังคมรุนแรงขึ้น ประเด็นก็เพื่อโหมกระแส “ต่อต้าน” สถาบันฯ ซึ่ง ยิ่งมีคู่ขัดแย้งสูงเท่าใด กระแสก็ยิ่งสูงตามไปด้วย และในที่สุด เรื่องของสถาบันฯ จะกลายเป็นเรื่องที่พูดถึงมากขึ้น จนกลายเป็นเรื่องปกติในที่สุด นี่คือ สิ่งที่ขบวนการ 3 นิ้ว ต้องการอยู่แล้ว และพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องม็อบให้เปลืองแรงงานเด็กอีกต่อไป?
ที่สำคัญ การต่อสู้ด้วยวิธีนี้ยังยากที่จะเอาผิด เพราะมีลักษณะเชิงสัญลักษณ์บ้าง ส่อนัยยะบ้าง ไม่นับสรรหารูปแบบอื่นๆ มายั่วยุในคนที่มีความจงรักภักดีสุดทน และตอบโต้อย่างรุนแรง จนทำให้กระแสต่อต้านสถาบันฯยังคงอยู่ แม้ว่า ม็อบเรียกร้อง “ปฏิรูปสถาบันฯ” จะอ่อนแรงไปแล้วก็ตาม
เมื่อเป็นเช่นนี้ สังคมไทยจะต้องรู้เท่าทัน และทำให้การเคลื่อนไหวของขบวนการ 3 นิ้ว เป็นเรื่องแค่คนเห็นต่างเป็นปกติธรรมดาให้ได้ ส่วนถ้าเป็นเรื่องรุนแรง ก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ก็จะช่วยลดกระแสความร้อนแรงลงได้
หาไม่แล้ว ก็จะเข้าทางขบวนการ 3 นิ้ว ที่ต้องการสร้างความขัดแย้งแตกแยกอยู่แล้ว เพราะนั่นคือ การนำไปสู่ความรุนแรง และการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเปลี่ยนมากหรือน้อยก็ตาม หรือว่าไม่จริง?