xs
xsm
sm
md
lg

แฉเองเลย! “จอม” เปิดหน้า-ชื่อก๊วน มช.หลู่พระเกียรติ? “พญ.ลลิตา” เผย ธุรกิจใหญ่หารือ ไม่รับปริญญา ไม่รับ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “จอม” เปิดหน้า-ชื่อก๊วน มช.หลู่พระเกียรติ? ขอบคุณภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
“จอม” เปิดหน้า-ชื่อก๊วน มช.หลู่พระเกียรติ? เจ้าของ รร.เชียงใหม่โผล่คุย ชาวเน็ตบุกเมนต์เดือด! “พญ.ลลิตา” เผย เพื่อนเจ้าของธุรกิจใหญ่จำนวนมาก หารือ ไม่รับปริญญา ไม่รับเข้าทำงาน จัดหนักลอตแรก 40 ขรก. “ผิด 112”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (14 ม.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น เปิดหน้า-ดูชื่อก๊วน มช.หลู่พระเกียรติ? เจ้าของ รร.เชียงใหม่โผล่คุย “จอม” ชาวเน็ตบุกเมนต์เดือด!

โดยระบุว่า จากกรณีกลุ่ม งานนโยบายสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกาศแสดงจุดยืน ไม่ส่งตัวแทนร่วมรับเสด็จฯกรมสมเด็จพระเทพฯ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จากประชาชนจำนวนมากถึงการลบหลู่พระเกียรติ

ล่าสุด วันนี้ 14 มกราคม 2564 นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ผู้ลี้ภัยหนีคดีความมั่นคงในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาแนวร่วมไม่รับปริญญา ว่า

“หยุดพิธีกรรมศักดินา-ไม่รับพระราชทานปริญญา กระแสคนรุ่นใหม่ เริ่มที่จะไม่ให้คุณค่าบัณฑิต เพราะใบปริญญาอีกต่อไป แต่จะให้คุณค่าในความรู้ ความสามารถ ที่สร้างประโยชน์ต่อสังคมได้จริง

รวมทั้งคุณค่าในเรื่องสิทธิ เสรีภาพ ความเป็นธรรม และความเป็นคนที่เท่าเทียม และคุณค่าที่แท้ของใบปริญญาอยู่ที่บุคคลที่มีส่วนร่วมสร้างบัณฑิตให้มีความรู้ มีความเข้าใจ มีโอกาส ที่จะได้ใช้ความรู้ ความสามารถให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองและคนอื่น ไม่ใช่ พระมหากษัตริย์ หรือเชื้อพระวงศ์แต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน คนรุ่นใหม่มองว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ มิใช่หรือ ที่ทำให้ประเทศชาติต้องจมปลัก ติดหล่มอยู่กับความไร้อนาคตของบ้านเมือง เพราะสถาบันมหากษัตริย์ มิใช่หรือ ที่ทำให้เด็กเยาวชนนับร้อยคนที่มีความกล้าหาญ หลักแหลม เฉลียวฉลาด ต้องติดคุกหมดอนาคต หมดโอกาสที่จะเป็นพลังพัฒนาประเทศ

…นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพูดคุยอภิปรายในเรื่องนี้ ผู้ร่วมอภิปรายมีดังนี้ ธนาธร วิทยเบญจางค์ รองนายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - นาวินธิติ จารุประทัย ทีมงานนโยบายสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คุณตี๋ เจ้าของโรงแรม River Art Hotel เชียงใหม่”

ทั้งนี้ เมื่อข้อความจากเนื้อหารายการดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ก็ปรากฏว่า มีประชาชนส่วนหนึ่ง เข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีบางข้อความที่ไม่เห็นด้วย และมีความน่าสนใจ เช่น

“จอม..มีอะไรๆ ก็แม่…โทษสถาบันฯ ทุกสิ่ง.. ไม่เคยมองตัวเอง # ทุกสิ่งผิดหมดยกเว้นตัวเอง”

“สมาคม คนมีปม”

“คนพูดตอนนี้.. ตรรกะโคตรเลอะเทอะเลย.. สถาบันมันเกี่ยวอะไรว่ะ..”

ก่อนหน้านี้ นายจอม ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถึงกรณีดังกล่าวไว้บางส่วนว่า “ร่วมฟังเหตุผล ความจำเป็นต่อการหยุดพิธีกรรมศักดินานี้ได้ จาก นายธนาธร นายนาวินธิติ รวมทั้งเจ้าของโรงแรม River Art Hotel เชียงใหม่ ที่ออกแคมเปญสนับสนุนให้บัณฑิตจบใหม่ไม่เข้าร่วมรับพระราชทานปริญญาบัตร … ผ่านการไลฟ์สดทาง เฟซบุ๊ก Jom Petchpradab คืนวันที่ 13 มกราคมนี้ เวลา 3 ทุ่มเป็นต้นไป ตามวันเวลาประเทศไทย ห้ามพลาด …..
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของทีมข่าวเดอะทรูธ พบว่า เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 ในโลกโซเชียลได้แห่แชร์ โรงแรมในเชียงใหม่ จัดโปรไม่รับปริญญา ได้ส่วนลดพิเศษ! ลั่น สลิ่มไม่ใช่ลูกค้า!

โดยระบุว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2564 ในโลกออนไลน์ มีการแชร์โพสต์ของโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการจัดโปรโมชันพิเศษ หากไม่รับปริญญา จะได้รับส่วนลดจากทางโรงแรม โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า

ปีนี้ใครปฏิเสธการรับปริญญา เพราะเหตุผลใดๆ ก็ตาม เรามีโปรโมชัน #โปรไม่รับปริญญา หากท่านไม่เข้าร่วมรับปริญญา คือสิ่งที่ตั้งใจเปลี่ยน จะให้ส่วนลดโรงแรม พิเศษครับ inbox มาจอง พร้อมแจ้งว่า ขอทราบ โปรไม่รับปริญญา เราจะเปลี่ยนวัฒนธรรมไปด้วยกัน เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของการนิยมศักดินา เริ่มได้ที่ตัวเรา รับจากมือพ่อแม่ คนที่ส่งเสียให้เราเรียนดีกว่า เงินเรา ภาษีเรา

อย่างไรก็ตาม ทางทีมข่าวเดอะทรูธได้ทำการตรวจสอบไปยังเพจโรงแรมดังกล่าว พบว่า มีการโพสต์ข้อความถึงโปรโมชันดังกล่าวจริง ซึ่งไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า แอดมินเพจหรือเจ้าของโรงแรมเป็นผู้โพสต์ ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

ภาพ “พญ.ลลิตา” เผย ธุรกิจใหญ่หารือ ไม่รับปริญญา ไม่รับทำงาน! ขอบคุณภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น พญ.ลลิตา เผยชัด เพื่อนเจ้าของธุรกิจใหญ่จำนวนมาก เริ่มแนวคิดไม่รับคนรุ่นใหม่ ที่ไม่รับปริญญา เข้าทำงาน!

เนื้อหาระบุว่า เรียกได้ว่า กำลังเป็นประเด็นที่หลายๆ คนกำลังจับตา นั่นก็คือ กลุ่มสามนิ้ว ที่ฝังตัวอยู่ในรั้วหมาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยๆ แค่ไม่กี่คน พยายามเรียกร้องความสนใจจากสังคม โดยการหาวิธีป่วนงานรับปริญญา

ล่าสุด ก็เกิดประเด็นที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ มช. ที่กลุ่มสามนิ้ว พยายามออกมาเคลื่อนไหวว่าจะไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมรับเสด็จในพิธีรับปริญญา หากแต่เป็นแค่นั้นคงไม่เกิดประเด็น

แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลุ่มดังกล่าวนี้นอกจากจะประกาศไม่ร่วมแล้ว ก็ยังมีการวางแผนป่วนพิธี ด้วยรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ภายนอกงานพิธี หรือถึงขั้นพยายามที่จะทำพฤติกรรมต่างๆ ภายในพิธี

จากเรื่องดังกล่าว พญ.ลลิตา ธีระสิริ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี และนักเขียนชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า

เมื่อ 50 ปีก่อน กึ่งศตวรรษมาแล้ว
สมัยฉันรับปริญญามีเพื่อน 2 คน ปฏิเสธไม่เข้าร่วมพิธี โดยอ้างว่าต่อต้านศักดินา

แต่คนหนึ่งถูกแม่ด่าหนัก เลยกลับใจเข้ารับปริญญาในวินาทีสุดท้าย ไปเช่าครุยได้ครุยเก่าๆ ยับย่นมาใส่ เพราะคนอื่นเช่าชุดดีๆ ไปหมดแล้ว

ซึ่งเขาก็พอใจที่ยังได้แสดงออกว่าต่อต้านศักดินาจากครุยยับๆ อันนั้น

ภาพ พญ.ลลิตา ธีระสิริ ขอบคุณภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ต่อมาเพื่อนคนนั้นกลายเป็นอาจารย์
ฉันไม่รู้หรอกว่าเชามีอิทธิพลต่อความคิดเด็กรุ่นใหม่อย่างไร

ก๊อ สมัยเขารับปริญญา ไม่มีเพื่อนคนไหนฟังเขาสักคนเรื่องต่อต้านการรับปริญญา ไม่มีใครเข้าใจคำว่าศักดินาด้วยซ้ำ

แต่อย่าเข้าใจผิดนะคะ เพื่อนคนนี้ไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ออกแถลงการณ์ครึกโครมต่อต้านการพระราชทานปริญญาในขณะนี้

ยุคสมัยก้าวไปข้างหน้า สังคมเปลี่ยน
ศักดินาตามคำจำกัดความเก่าก็เปลี่ยนไป
ไม่เช่นนั้นก็จะอยู่ไม่ได้
ใครก็ตามที่ติดกับกงล้อประวัติศาสตร์ก็จะตกยุคเช่นเดียวกัน
จะกระซิบบอกให้ว่า

เพื่อนกันที่เป็นเจ้าของกิจการเริ่มพูดกันว่า
ถ้าคนรุ่นใหม่มาสมัครงาน ต้องขอดูมือถือก่อนละ และใครไม่รับปริญญาก็จะไม่รับเข้าทำงาน
เพราะถ้ารับมาอยู่ในองค์กรแล้วน่าจะมีปัญหามากกว่า
คิดดีๆ นะลูกหลานเอ๋ย
ศักดินาคืออะไร
อนาคตเป็นของเราเอง
อย่าตกเป็นเหยื่อของใคร

ภาพ จัดหนักล็อตแรก 40 ขรก. “ผิด 112” ขอบคุณภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์ประเด็น เตรียมออกยกแผง!? ยื่นหลักฐาน จัดหนัก ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ครู โพสต์จาบจ้วง 112 ลอตแรกโดนแล้ว 40 ราย!

โดยระบุว่า หลังจากเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์ภาพที่มีการเปิดเผยในเบื้องต้นว่า เป็นข้าราชการพลเรือน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นครู โรงเรียนแห่งหนึ่ง จำนวน 2 คน ใส่เสื้อสีเหลือง พร้อมกับชูสามนิ้ว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มคณะราษฎร และกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า เข้าค่ายพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง

โดยภาพดังกล่าวนั้น ถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากในโลกโซเชียล โดยกลุ่มผู้สนับสนุนการชุมนุมต่างพากันยกย่อง ที่ครูทั้ง 2 คนมีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ก็มีประชาชนทั่วไปจำนวนมาก ต่างพากันออกมาเคลื่อนไหวในทำนองรับไม่ได้ เนื่องจากครู มีหน้าที่สั่งสอนนักเรียน และเยาวชนของชาติ หากมีแนวคิดต่อต้าน หรืออาจะเข้าข่ายล้มล้างฯ อาจจะทำให้เยาวชนถูกปลูกฝังอะไรผิดๆ ได้ ทั้งนี้ ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าแนะนำให้ข้าราชการเหล่านี้ลาออก และควรมีตรวจสอบด้วยว่า ข้าราชการอีกหลายๆ คน ได้กระทำการที่เข้าข่ายผิดมาตรา 112 หรือไม่

ล่าสุด มีรายงานว่า แอดมินเจน เพจเชียร์ลุง ได้รวบรวมหลักฐาน เอาผิดข้าราชการกว่า 40 คน มีทั้ง ทหาร ตำรวจ และครู ที่โพสต์ข้อความจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง เตรียมแจ้งความในมาตรา 112, 116 และ 108 โดย คุณณวริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ หรือ แอดมินเจน เจ้าของเพจเชียร์ลุง พร้อมด้วยทีมงาน “ภาคีประชาชน ปกป้องสถาบัน” ได้นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เวลา 10.10 น. วันที่ 14 มกราคม 2565

โดยแอดมินเจน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา นอกจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมแสดงออกโดยการโพสต์เฟซบุ๊กจาบจ้วงเบื้องสูง ทางทีมงาน “ภาคีประชาชน ปกป้องสถาบัน” ที่คอยตรวจตรา และรับแจ้งข้อมูลเหล่านี้ พบว่า มีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ คุณครู และข้าราชการกระทรวงต่างๆ อีกมากมายที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กและเยาวชน

“ล่าสุด สามารถรวบรวมข้อมูลหลักฐานการโพสต์ข้อความและเข้าข่ายกระทำผิด กว่า 40 ราย ซึ่งทางทีมงาน “ภาคีประชาชน ปกป้องสถาบัน” จะดำเนินการแจ้งความเอาผิด ในมาตรา 112, 116 และ 108 … คำว่า “ข้าราชการ” มีความหมายว่า “เป็นผู้ทำการงานแทน พระราชา ในนามพระราชา” ในนามพระราชา เพื่อไพร่ฟ้าประชาชน แต่กลับมีพฤติกรรมที่จาบจ้วงเบื้องสูง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จึงสมควรที่จะถูกดำเนินคดี และให้ขาดจากการเป็น ข้าราชการ”

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การใช้ชื่อมหาวิทยาลัย หรือ องค์กร และหรือ กลุ่มคนที่มีชื่อเสียงในสังคม แสดงออกถึงการต่อต้านสถาบันฯ เพื่อให้เห็นว่า สังคมไทยเปลี่ยนความคิด ไม่ยอมรับชนชั้นศักดินา ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว คือ ยุทธศาสตร์หนึ่งของ ขบวนการล้มเจ้า ซึ่งทำมานานแล้ว แต่ว่า คนไทยส่วนใหญ่ ก็ยังถือว่า เป็นแค่ความเห็นต่าง ไม่มีปัญหาอะไรกับการดำรงอยู่ของจารีตประเพณีและวัฒนธรรม หรือ พูดง่ายๆ แค่ทำงานความคิด ไม่เชื่อว่าจะมีผลไรต่อการเปลี่ยนแปลงเรื่องสถาบันฯ

แต่หนักเข้า จากความคิดต่อต้าน กลายเป็นการแสดงออกถึงการต่อสู้ ตอบโต้ เรียกร้อง ยื่นคำขาด กดดัน โดยมีกลุ่มคนทั้งในประเทศและต่างประเทศปลุกปั่นยุยง และที่สุดก็หวังผลที่จะ “ล้มล้างการปกครอง” (จากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ) และล้มเจ้า?

จริงอยู่, การแสดงออกดังกล่าว เป็นเพียงคนแค่หยิบมือ เมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่การอ้างสถาบันการศึกษาระดับสูง มหาวิทยาลัยชื่อดัง นักวิชาการชื่อดัง นักเคลื่อนไหวชื่อดัง คนมีชื่อเสียง ดารา นักร้อง ล้วนต้องการสื่อให้เห็นว่า เป็น “ขบวนการที่ใหญ่” เป็นกระแสหลักของสังคมไปแล้ว เป็นความต้องการของคนระดับนำของประเทศ อย่างที่หลายคนออกมาพูดทำนองนั้น เพื่อที่จะฮุบเอาความถูกต้องชอบธรรมเอาไว้กับฝ่ายตน และอยู่ในเส้นทางการต่อสู้ แม้ว่า แท้จริงแล้ว กระแสเริ่มอ่อนล้า และถดถอยอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของขบวนการ 3 นิ้วเอง

ปัญหาก็คือ หากยังปล่อยให้ขบวนการ 3 นิ้ว สร้างความชอบธรรมที่จะเคลื่อนไหวต่อไป แม้รู้ทั้งรู้ว่า บิดเบือนความจริง สร้างความแตกแยกในสังคม ปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นและรักษาไม่ได้ ก็จะกลายเป็นมะเร็งร้ายระยะรุนแรงต่อไป เชื่อว่า คนไทยคิดออกว่า ที่สุดจะเป็นอย่างไร? แต่ก็ยังไม่สายที่จะแก้ไขเรื่องนี้ ถ้าตั้งใจจริง หรือสายเสียแล้ว!?


กำลังโหลดความคิดเห็น