xs
xsm
sm
md
lg

“หมอหนู” เคลียร์ปมดรามา “ธนาธร” จบที่รักษาทุกที่ VIP ทุกคน ** “ยิ่งลักษณ์” ติดบ่วง ป.ป.ช.ฟ้องเองคดีโรดโชว์ 240 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“หมอหนู” เคลียร์ปมดรามา “ธนาธร” จบที่รักษาทุกที่ VIP ทุกคน

“หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาเคลื่อนไหว จากกรณี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาประกาศว่า จะฟ้องร้องเอาผิดหน่วยงานรัฐ หรือผู้ที่เปิดเผยข้อมูลการฉีดวัคซีนของตัวเองจนกลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบเอาไปวิพากวิจารณ์ทางการเมือง และความไม่เท่าเทียมของสังคม

งานนี้ “หมอหนู” นอกจากเคลียร์ปม ยืนยันว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่ฉีดวัคซีนไม่ได้รั่ว และจริงๆ ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ถือว่าเป็นความลับสุดยอดอะไร โหลดแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” และกรอกเลข 13 หลักเข้าไป ก็จะพบข้อมูลตรงนี้ และไม่ควรไปบอกว่า “ธนาธรเป็น VIP” หรือพิเศษกว่าคนอื่น ซึ่ง “ธนาธร” มารับวัคซีนเข็มแรกตามกำหนดตามปกติตั้งแต่เดือน ก.ค. 64 และคนทั่วไปมารับตั้งแต่ พ.ค.ด้วยซ้ำ หากจะพูดกันให้เกิดความยุติธรรม ขออย่านำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น...

อนุทิน ชาญวีรกูล
ส่วนเรื่องวัคซีน VIP ตามนโยบายของ สธ.ในยุคของเขา คือ “รักษาทุกที่ VIP ทุกคน” เท่ากับประชาชนทุกคนเป็น VIP และประเด็นที่กำลังเป็นเรื่องดรามา ขอชี้แจงว่า นักการเมืองคนนั้น ซึ่งก็คือ “ธนาธร” ก็มาตามกำหนด ไม่มีอะไรผิดปกติ ธนาธรไปรับเดือนกรกฎาคม แต่คนไทยก็ทยอยรับกันตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว อันที่จริง ยินดีมากที่ไปรับวัคซีน การฉีดให้กับใครก็ตาม เป็นเรื่องน่าดีใจ เพราะฉีดแล้วก็ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ ลดโอกาสป่วย เสียชีวิต ฉีดกันได้แล้ว ดีใจทุกคน ธนาธรก็เพิ่งติดโควิด-19 ไม่ทราบว่า ฉีดเข็มที่ 3 หรือยัง ถ้ายังก็ไปรับได้ เข็มที่ 3 เข็มที่ 4 กระทรวงพร้อมให้บริการ...

นี่แหละลีลา “อนุทิน” แปลงดรามา “ตั๋วทอน” ที่สะพัดตามโลกโซเชียลฯ มาหลายวันต่อเนื่องให้เป็นงานรณรงค์ฉีดวัคซีนไปซะเลย

ด้าน ลักขณา ปันวิชัย หรือ “แขก คำผกา” พิธีกรสถานีโทรทัศน์ช่องวอยซ์ ทีวี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ถึงเรื่องนี้ว่า สิ่งที่คนคาใจเรื่องวัคซีนธนาธร คือ ฉีดผ่านระบบไหน ถ้าตอบได้เคลียร์ก็น่าจะจบ และไม่เห็นด้วยที่ธนาธรจะฟ้องคนที่ “กล่าวหา” มันจะไปเหมือนเวลารัฐบาลโดนตรวจสอบแล้วรัฐบาลก็ขู่ฟ้องคนเปิดเผยข้อมูล “ธนาธร” แค่ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง แล้วก็ move on แค่นั้นเอง

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - ลักขณา ปันวิชัย
สรุปว่า ดรามาเรื่องนี้ “หมอหนู” งัดฟอร์มสยบจบลงที่ “รักษาทุกที่ VIP ทุกคน” ...แยกย้ายกันได้ ก็เหลือแต่ “ธนาธร” จะ Move on ตามที่ “คำผกา” ว่าได้มั้ย ก็ต้องติดตามกันต่อไป



** “ยิ่งลักษณ์” ติดบ่วง ป.ป.ช.ฟ้องเองคดีโรดโชว์ 240 ล้าน

คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพิ่งมีมติให้ฟ้องคดี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย “นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล” และ “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” บมจ. มติชน และ “ฐากูร บุนปาน” บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท และ “ระวิ โหลทอง” กระทำผิดกรณี ปี 2556 ได้อนุมัติงบฯ 240 ล้านบาท เพื่อดำเนิน “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020” โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังจากที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานต่างๆ ยังไม่ครบถ้วน

ที่มาที่ไปของคดีนี้ ต้องย้อนไปเมื่อปี 2554 ที่ “ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกรัฐมนตรี ได้นำ ครม.แถลงนโยบายต่อรัฐสภาถึงการพัฒนาระบบโครงสร้งพื้นฐานด้านการขนส่งทางราง ระบบรถไฟทางคู่เชื่อมชานเมือง และหัวเมือง ศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูง ... และก็เป็นที่มาของการออก “พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท” เพื่อใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ

ต้นปี 2556 แม้ยังไม่มีการกู้เงิน 2 ล้านล้านมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว แต่ ครม. ก็มีมติเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคม ดำเนินการจัดนิทรรศการเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ให้ชัดเจนครบถ้วน จึงเป็นที่มาของ “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020”

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ช่วงเดือน ส.ค.56 “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ขณะนั้น ก็ได้เรียกประชุม เพื่อเตรียมการจัด Roadshow โดยมี “ฐากูร บุนปาน” กก.ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และตัวแทนบริษัท สยามสปอร์ต ซินติเคท จำกัด (มหาชน) เข้าพบ “สุรนันทน์” ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรับทราบและตกลงเป็นผู้รับจัดงาน Roadshow ทั้งสิ้น 12 จังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละ 20 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 240 ล้านบาท โดยมี บริษัท มติชนฯ เป็นแม่งานหลักในการคิดรูปแบบการจัดงาน

ปมปัญหามันอยู่ที่ ยังไม่มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบ และเมื่อตรวจสอบงบประมาณปี 2556 ก็ไม่ได้ระบุแผนงาน โครงการดังกล่าวนี้ไว้ ประกอบกับงบประมาณประจำปี 2557 ประกาศใช้ไม่ทันวันที่ 1 ต.ค. 56 แต่ “ยิ่งลักษณ์” ได้อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นวงเงิน 40 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดโครงการ Roadshow โดยเห็นชอบให้จัดใน 2 จังหวัดก่อน คือ ที่ จ.หนองคาย และ จ.นครราชสีมา ทั้งที่สถานการณ์ในขณะนั้น มีหลายฝ่ายออกมาทักท้วงว่า “ร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาท” อาจขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหลายประการ และมีการเตรียมยื่นเรื่องให้ศาล รธน.วินิจฉัย

ต่อมา “สุรนันทน์” และ “นิวัฒน์ธำรง” ได้ร่วมกันอนุมัติหลักการ จัดโครงการ Roadshow อีก 10 จังหวัดที่เหลือ วงเงิน 200 ล้านบาท โดยให้นำราคากลางที่ได้กำหนดตรงกับข้อเสนอด้านราคาของบริษัท มติชนฯ ไว้แล้วมาเป็นราคากลางในครั้งนี้ แบ่งการจัดจ้างเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 5 จังหวัด ให้บริษัท มติชนฯ และบริษัท สยามสปอร์ตฯ แบ่งกันบริษัทละ 5 จังหวัด ...มีการตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจนถึงขั้นตอนการลงนามในหนังสือสั่งจ้าง ใช้เวลาดำเนินการแค่วันเดียวเท่านั้น และได้เบิกจ่ายจากงบฯ ปี 2557

ต่อมาได้มีการยื่นตีความร่าง พ.ร.บ. สองล้านล้านบาท ว่าตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่ง รธน. และมีข้อความขัดหรือแย้งต่อ รธน.หรือไม่... ปรากฏว่า ศาล รธน.มีคำวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.สองล้านล้านบาท ตราขึ้นโดยมิใช่กรณีจำเป็นเร่งด่วน ไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่ง รธน. และมีข้อความขัดหรือแย้งต่อ รธน. ทำให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวตกไป ... ส่งผลให้โครงการต่างๆ ตามที่ได้ออกไป Roadshow มิได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด การใช้งบฯ ในโครงการ Roadshow จำนวน 240 ล้านบาท จึงเกิดความสูญเปล่า เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย

สุรนันทน์ เวชชาชีวะ - นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
เมื่อเรื่องนี้ถึงมือ ป.ป.ช. คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนอยู่หลายปี แล้วมีมติชี้มูลไปเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 63 ว่า กระบวนการอนุมัติโครงการนี้ เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การใช้งบฯ 240 ล้านบาท เกิดความสูญเปล่า เป็นเหตุให้ราชการได้รับความเสียหาย มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 รวมทั้งกฎหมาย ป.ป.ช.อีกหลายมาตรา และยังมีความผิดตามกฎหมายฮั้วประมูลด้วย

หลัง ป.ป.ช.มีมติชี้มูล “ยิ่งลักษณ์” ซึ่งอยู่ที่ต่างประเทศ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ต่อว่า ป.ป.ช.ว่าช่างมีความขยัน ในการเร่งรัดคดีของตนเองเสียจริงๆ เพราะภายในเดือนเดียว ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ถึง 2 คดีติดๆกัน คือ เรื่องการใช้อำนาจโอน “ถวิล เปลี่ยนศรี” เลขาฯ สมช.ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ และก็ตามมาด้วยคดีโรดโชว์ 240 ล้าน...

“ยิ่งลักษณ์” ว่าเรื่องที่ต้องจัดโรดโชว์ ก็เพราะรัฐบาลได้เสนอนโยบายสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง และโครงสร้างพื้นฐานอีกหลายเรื่อง โดยการอออก ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ก็ต้องทำให้เกิดการรับรู้ และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ก็เป็นนโยบายที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ไม่มีเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบใดๆ ต่อมารัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็นำโครงการนี้มาดำเนินการต่อ ยังมีการออกนโยบาย ออกโครงการ 3 ล้านล้าน มากกว่ารัฐบาลตนเองด้วย ทำไมไม่เห็นป.ป.ช. มาตรวจสอบ... เลือกปฏิบัติ!!
เรื่องนี้เมื่อ ป.ป.ช.มีมติชี้มูล และส่งเรื่องให้อัยการดำเนินการสั่งฟ้อง แต่อัยการไม่ฟ้อง เพราะเห็นว่าพยานหลักฐานต่างๆยังไม่ครบถ้วน ... แต่ ป.ป.ช.มองว่าหลักฐานที่มีนั้นเพียงพอแล้ว จึงสั่งให้สำนักงานยกร่างคำฟ้อง และคาดว่า ภายใน 2 สัปดาห์ จะยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้

ก็เป็นอันว่า “ยิ่งลักษณ์” ที่แม้จะหลบลี้หนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่ก็เจอบวกไปอีกคดี ส่วนถึงที่สุดแล้วจะลงเอยอย่างไร ต้องติดตาม




กำลังโหลดความคิดเห็น