ต้องมีนัยสำคุญ? อ.ไชยันต์ เปิดภาพเจอ “ฟอร์ด” ล่าสุด หวังไม่ใช่ครั้งสุดท้าย “สามนิ้ว” คลั่ง เผาชุดครุย-พ่นสเปรย์ป้ายศาล “กลุ่มยุวชน” ฟาดปาก “ปิยบุตร” หลังไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลฯ “ทัวร์สามนิ้ว” รีบช่วยลูกพี่
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (24 ธ.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น เกิดอะไรขึ้น? อาจารย์ไชยันต์ เปิดภาพเจอ “ฟอร์ด” ล่าสุด หวังไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
โดยระบุว่า จากที่มีรายงานเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับกระแสข่าวลือในโซเชียลว่า ฟอร์ด หรือ นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี แกนนำเยาวชนปลดแอก ได้หลบหนีคดีไปต่างประเทศแล้ว เพราะไม่ได้เดินทางไปที่อัยการ หลังมีคำสั่งฟ้องคดีมาตรา 112 นั้น
ล่าสุด วันนี้ ดร.ไชยันต์ ไชยพร เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์รูปภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก บอกเล่าถึง ฟอร์ด ที่เคยเป็นลูกศิษย์ไว้ว่า
“ยังจำวันแรก ตอน ฟอร์ด ทัตเทพ อยู่ปี 2 เดินเข้าเรียนวิชา Gender and Politics ตอนเช้า ยังมีอาการง่วงนอนอยู่บ้าง
เมื่อเวลาผ่านไป ฟอร์ด จบ ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และได้ A ทุกวิชาที่ผมสอนเขา ทั้งวิชาบังคับคณะ ภาค และวิชาเลือก
และยังจำวันที่เจอกันล่าสุด (ขอให้ไม่ใช่สุดท้าย)
เชิญ ฟอร์ด มาช่วยเล่าเรื่องประสบการณ์เรื่องเกย์ และ การรณรงค์ทางการเมือง ในวิชา Gender and Politics
หลังจากสอนเสร็จ เราได้มีโอกาสคุยกันถึงเรื่องราวในอนาคต
ฟอร์ด….อาจารย์เป็นห่วงและคิดถึงนะ”
ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พนักงานอัยการคดีอาญา นัดฟังคำสั่งฟ้องแกนนำม็อทั้งหมด 14 คน ซึ่งมีชื่อของ นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ “ฟอร์ด ทัตเทพ” ด้วย
โดยพบว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่นายทัตเทพ ไม่มารายงานตัวต่อศาล ซึ่งก่อนหน้านี้ สน.บางโพ ได้ยื่นขออำนาจศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2564 หลังไม่รายงานตัวในคดี 112 ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า ฟอร์ด ทัตเทพ หนีไปต่างแดนแล้ว
ขณะที่ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ก็ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุถึงประเด็นของฟอร์ด ว่า
“ได้ข่าวว่า ฟอร์ด ทัตเทพ ใช้ชีวิตสุขสบายในแคนาดานะครับ มีคนส่งเงินให้ใช้ น่าจะจริงครับ เดี๋ยวจะส่งคนไปตรวจสอบ” โดยมีคอมเมนต์จากโซเชียลเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ ว่า น่าจะหนีไปนานแล้ว ไม่เช่นนั้น ก็ต้องออกมาร่วมม็อบ นี่เงียบไปนาน ผิดปกติ แล้วแบบนี้คนที่ยืนประกัน จะทำยังไงต่อ เก็บแค่เงินประกัน หรือมีมาตรการอื่น
อย่างไรก็ตาม พบว่า “ฟอร์ด ทัตเทพ” โพสต์ข้อความสุดท้ายเมื่อ 21 มี.ค. 2564 หลังม็อบรีเด็มผ่านไป แต่แชร์ข้อความของคนอื่นเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ก่อนหายไปเช่นกัน แต่เพจ “เยาวชนปลดแอก” ยังมีอยู่ เพราะทีมงานคอยเคลื่อนไหวอัปเดตข่าวสาร หนึ่งในนั้นคือ “ใบไหม เกศกนก” ล่ามของกลุ่ม และในวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา กลุ่มเยาวชนปลดแอกจัดม็อบ และถือเป็นวันครบรอบ 1 ปี ที่สร้างกลุ่มของเยาชนปลดแอก
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น สามนิ้วโชว์เถื่อน เผาชุดครุย-พ่นสเปรย์ป้ายศาล หลัง 4 แกนนำคุกข้ามปี!
เนื้อหาระบุว่า กรณีวันนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวคดีดำ อ. 286/64 และคดีดำ อ.287/64 ที่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยฐานดูหมิ่นสถาบันฯ นั้น
ต่อมาเวลา 14.20 น.เศษ ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายพริษฐ์, นายอานนท์, นายภาณุพงศ์, นายจตุภัทร์ โดยให้เหตุผลสรุปว่า เคยปล่อยชั่วคราวแต่ได้กระทำการฝ่าฝืนเงื่อนไข มีการปราศรัยให้เกิดความวุ่นวาย หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเกรงจะกระทำซ้ำ หรือก่อเหตุอีกตามที่ถูกฟ้องในชั้นนี้ จึงยังไม่มีเหตุเปลี่ยนเเปลงคำสั่งยกคำร้อง
ภายหลังศาลอาญา มีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวดังกล่าว ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมในนามกลุ่มทะลุฟ้า และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่งนัดร่วมกันใส่หน้ากากจัดกิจกรรม “เดิน หยุด ขัง” โดยเดินจากหน้ายูเนี่ยนมอลล์ ห้าแยกลาดพร้าว และมาปักหลักบริเวณหน้าศาลอาญา ไม่พอใจต่อคำสั่งศาล มีการเผาเสื้อครุย และตำรากฎหมาย พร้อมทั้งวางดอกกุหลาบเพื่อแสดงความไว้อาลัยถึงกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งเตรียมแถลงการณ์ยกระดับการชุมนุม ทั้งนี้ ได้มีการฉีดพ่นสีเสปรย์ บริเวณป้ายหน้าศาลอาญาด้วย
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์ประเด็น “กลุ่มยุวชน” ฟาดปาก “ปิยบุตร” หลังไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาล ขณะ “ทัวร์สามนิ้ว” รีบบุกเหยียดหยาม ช่วยลูกพี่
โดยระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 64 ถึงกรณีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เห็นว่า การปราศรัยของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต “เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง”
โดย นายปิยบุตร ค่อนข้างที่จะไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยดังกล่าว ซึ่งมองว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลบังคับผูกพันทุกองค์กรนั้น ต้องเป็นคำวินิจฉัยที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญด้วย หากไม่เป็นคำวินิจฉัยที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้วนั้นย่อมไม่มีผลเป็นเด็ดขาด
ล่าสุด นายกรพัชร์ สุนทรพิธ ซึ่งกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกยุวชนไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความโต้ตอบที่เรียกได้ว่าเจ็บแสบ โดยมีรายละเอียดว่า
#สร้างวาทกรรมตอกยํ้าวิชาการหลอกลวงเป็นผลพวงผูกมัดรัดสามนิ้วให้ติดคุก
ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลก็สิทธิของคุณ ทุกคนมีสิทธิคิดมีสิทธิวิจารณ์ แต่คุณไม่มีสิทธิที่จะละเมิดกฎหมายตามใจชอบ
เยาวชนติดคุกเพราะพวกนักวิชาการบ้าประชาธิปไตย บ้าแสง อย่าง ดร.บางคน
สังเกตดู ทุกวันนี้ มันเงียบจุกตูด เพราะมันกลัวติดคุกเลยหาวิธีปั่นกระแสจุดวาทกรรมเดิมๆ ซํ้าๆ มาหลอกเด็กให้ออกหน้าแทน
ตอนนี้มีไหม? เขาก็ตาสว่างกันไม่โง่โดน นกม.มาจิกหัวหลอกใช้ไปวันๆ ส่วนคนที่ยังเชื่อลมปาก หรือวาทกรรมพวกนี้อยู่
ก็คงต้องเจอชะตากรรมที่ไม่ต่างจากคนที่อยู่ในคุกตอนนี้
หลังจากที่ทางด้านของ นายกรพัชร์ โพสต์ข้อความตอกกลับดังกล่าว ก็มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น ในเชิงเห็นด้วยเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่สนับสนุนสามนิ้วเข้ามาแสดงความคิดเห็นเชิงเหยียดหยามด้วย เช่น “ให้น้องเรียนจบแล้วหางานทำเลี้ยงดูตัวเองให้ได้ก่อนนะครับ”, “ล้างจานให้แม่ยัง เดี๋ยวก็โดนไม้แขวนเสื้ออีก”, “น่าเอ็นดู เกิดมาในสังคมสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ไปเรียนต่อที่เกาหลีเหนือนะบอกพ่อแม่ด้วย…”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าคิด ก็คือ กรณีของ “ฟอร์ด” ที่เมื่อไม่นานมานี้ข่าวว่าชีวิตในต่างแดนไม่ได้สบายอย่างที่หลายคนคาดคิด แล้วสิ่งที่ อ.ไชยันต์ โพสต์ ก็เหมือนรู้อะไรดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
รวมทั้งการประท้วงด้วยความรุนแรง ของกลุ่มสามนิ้ว เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็ไม่สนใจ เหตุผล ผิด-ถูก อย่างที่แสดงออกหน้าศาลอาญา หลัง 4 แกนนำไม่ได้ประกัน ซึ่งศาลก็ให้เหตุผลชัดจน และพฤติกรรมที่ผ่านมา ก็เป็นไปตามที่ศาลเห็นมาตลอด อันเป็นการผิดเงื่อนไขประกันนั้นเอง
ประเด็นสุดท้าย กรณี ปิยบุตร ปรมาจารย์สามนิ้ว ที่ถูกกลุ่มยุวชนฯ ตอบโต้ หลังจากไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลฯ ทั้งยังมองว่า ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญอีกด้วย
สิ่งที่สะท้อนก็คือ นายปิยบุตร เรียกร้องการปกครองแบบนิติรัฐ มาตลอด แต่พอมีการบังคับใช้กฎหมาย และมีคำพิพากษา ถ้าไม่เป็นประโยชน์กับตัวเอง กลับไม่ยอมรับ ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตลอด จนประชาชนคนไทยเริ่มสับสนว่า ที่เรียกร้องการปกครอแบบ “นิติรัฐ” นั้น ต้องให้ถูกใจ “ปิยบุตร และพรรคพวกทกอย่างใช่หรือไม่
เพราะจนถึงวันนี้ ทั้งศาลอาญา ที่ไม่ให้ประกันสามนิ้ว และศาลรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยว่า สามนิ้วเคลื่อนไหวเรียกร้อง “ปฏิรูปสถาบัน” โดยมิชอบ เป็นการล้มล้างการปกครองฯ ถูก ปิยบุตร และ พวก ไม่ยอมรับมาหมดแล้ว หรือว่าไม่จริง?