xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอาญายกคำร้องไม่ให้ประกัน “เพนกวิน-อานนท์-ไมค์-ไผ่ ดาวดิน” ชี้เคยปล่อยตัวแล้วทำผิดเงื่อนไข เกรงไปกระทำผิดซ้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ศาลอาญายกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว “เพนกวิน-อานนท์- ไมค์-ไผ่ ดาวดิน” ชี้ จำเลยเคยได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้ว แต่ยังฝ่าฝืนเงื่อนไข เกรงไปกระทำผิดซ้ำ

ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (24 ธ.ค.) ศาลอาญาอ่านฟังคำสั่ง ที่ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน แกนนำคณะราษฎร ตกเป็นจำเลยร่วมกันชุมนุมโดยฝ่าฝืนกฎหมายและความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 

โดยศาลอ่านคำสั่งผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากศาลอาญาไปยังเรือนจำที่คุมขังจำเลยทั้งสี่ ทั้งนี้ คำร้องขอปล่อยชั่วคราวในส่วนของนายพริษฐ์ ที่ตกเป็นจำเลย คดีดำ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพริษฐ์ กับพวกรวม 22 คน (คดีปักหมุดคณะราษฎรที่สนามหลวง หมิ่นสถาบันเบื้องสูง) คดีหมายเลขดำ อ.2847/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 ยื่นฟ้อง นายพริษฐ์ กับพวกรวม 2 คน, คดีหมายเลขดำ อ.2948/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 5 ยื่นฟ้องนายอานนท์ นำภา และนายพริษฐ์ กับพวกรวม 6 คน, คดีหมายเลขดำ อ.1668/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 ยื่นฟ้องนายพริษฐ์ กับพวกรวม 12 คน, คดีหมายเลขดำ อ.286 /2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ยื่นฟ้องนายพริษฐ์ และคดีหมายเลขดำ อ.2932/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ยื่นฟ้องนายพริษฐ์ เป็นจำเลย 


ศาลเห็นว่า นายพริษฐ์ จำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในคดีนี้ และกระทำการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลเคยตักเตือนจำเลยและกำชับจำเลยผ่านผู้กำกับดูแลมาแล้ว จนเป็นเหตุให้ศาลเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว อีกทั้งจำเลยมีพฤติการณ์กระทำผิดซ้ำในทำนองเดียวกันกับการกระทำที่เป็นมูลเหตุที่ถูกกล่าวหา หรือฟ้องร้องหลายคดี เมื่อพิเคราะห์ถึงลักษณะและพฤติการณ์ของจำเลยในการแสดงออกหรือ ร่วมทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างมาก และมีความรุนแรงตลอดมา กรณีมีเหตุอันควรให้เชื่อว่า หากอนุญาตปล่อยชั่วคราว จำเลยจะไปกระทำการในทำนองเดียวกันกับที่ถูกฟ้องร้อง หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ชั้นนี้จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว จึงให้ยกคำร้อง

ในส่วนของนายจตุภัทร์ หรือ ไผ่ ดาวดิน จำเลย คดีหมายเลขดำ อ.287/2564 และคดีหมายเลขดำ อ.2608/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักคดีอาญา 4 ยื่นฟ้อง นายจตุภัทร์ กับพวกรวม 18 คน เป็นจำเลย


เห็นว่าเมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์ของจำเลยในการแสดงออก ปราศรัย หรือชักนำ ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองประกอบกับจำเลยต้องข้อหาในลักษณะเช่นนี้ ที่ศาลนี้และศาลอื่นหลายคดี กรณีมีเหตุอันควรให้เชื่อว่าหากอนุญาตปล่อยชั่วคราว จำเลยจะไปกระทำในทำนองเดียวกันกับที่ถูกฟ้องร้อง หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ในชั้นนี้จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว จึงให้ยกคำร้อง

ในส่วนของนายอานนท์ นำภา จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.2847/2564 ,คดีหมายเลขดำ อ.2948/2564, คดีหมายเลขดำ อ.2887/2564,คดีหมายเลขดำ อ.2888/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ยื่นฟ้องนายอานนท์ กับพวกรวม 7 คน, คดีหมายเลขดำ อ.1629/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ยื่นฟ้อง นาอานนท์, คดีหมายเลขดำ อ.2804/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 5 ยื่นฟ้องนายอานนท์, คดีหมายเลขดำ อ.2495/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 ยื่นฟ้อง นายอานนท์ เป็นจำเลย

ศาลเห็นว่า เมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์ของจำเลยในการแสดงออก ปราศรัย หรือชักนำในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ประกอบกับจำเลยต้องข้อหาในลักษณะเช่นนี้ที่ศาลนี้ และศาลอื่นหลายคดี กรณีมีเหตุอันการให้เชื่อว่า หากอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยจะไปกระทำการในทำนองเดียวกันกับที่ถูกฟ้องร้อง หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ในชั้นนี้จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว จึงให้ยกคำร้อง

ในส่วนของ นายภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ จาดนอก จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.2887/2564, คดีหมายเลขดำ อ.2384/2564, คดีหมายเลขดำ อ.2888/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 3 ยื่นฟ้อง นายภาณุพงศ์กับพวกรวม 3 คน


เห็นว่า เมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์ของจำเลยในการแสดงออก ปราศรัย หรือ ชักนำในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ประกอบกับจำเลยต้องข้อหาในลักษณะเช่นนี้ ที่ศาลนี้และศาลอื่นหลายคดี กรณีมีเหตุอันควรให้เชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จำเลยจะไปกระทำการในทำนองเดียวกันกับที่ถูกฟ้องร้อง หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ในชั้นนี้จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

ขณะที่ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าฟังคำสั่งว่า ส่วนตัวพูดตามตรง ยังไม่มีความมั่นใจ เพราะว่าหลายเรื่องมีมุมมองที่แตกต่างกันระหว่างตุลาการ อัยการ และทนายความ เพราะฉะนั้น ตนขอให้รอฟังคำสั่งดีกว่า เพราะเราผิดหวังมาหลายครั้งแล้ว


นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อว่า ตนเห็นข้อดีตรงที่ว่าผู้ต้องหาทางการเมืองในคดีมาตรา 112 หลาย 10 คน ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ส่วน นายอานนท์ กับ นายภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ ในคดีหลักก็ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้ว แต่มาติดในเงื่อนไขคดีอื่น หลังจากที่ได้ยื่นเรื่องคำร้องให้ศาลมาหลายครั้งแล้ว ศาลก็ยกคำร้องตลอด มีครั้งนี้ที่ศาลนำมาไต่สวน ตนคิดว่า ให้เป็นดุลพินิจของศาล ส่วนเราก็มีความเชื่อว่าการที่จะได้รับการปล่อยชั่วคราวเป็นสิทธิของผู้ต้องหาคดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคดีทางการเมืองหรือนักโทษหรือผู้ต้องหาในคดีอื่นๆ

นายกฤษฏางค์ กล่าวถึงคดี น.ส.เบนจา อะปัญ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีอ่านแถลงการณ์หมิ่นสถาบันฯ หน้าสถานทูตเยอรมนี ว่า คดีนี้มีผู้ต้องหา 10 กว่าคน แต่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ก็ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ในขณะที่จำเลยคนอื่นได้รับการประกันตัว ซึ่งศาลจะนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกปี 2566 ถ้า น.ส.เบนจา ไม่ได้รับการปล่อยตัวก็จะต้องถูกขังอยู่ในเรือนจำทัณฑสถานหญิง 2 ปี กว่าจะได้ขึ้นศาล

ส่วนประเด็นที่เรารับเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง และ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ ให้กักตัวในเคหสถานตลอด 24 ชั่วโมงนั้น การกักตัวอยู่ในบ้านกับการที่ขังในเรือนจำก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่าอยู่ที่บ้านจะมีความปลอดภัยเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ได้มีโอกาสที่จะศึกษาหาความรู้ โดยไม่เสียอนาคต เราก็คิดว่าบุคคลที่เหลือก็ควรจะได้รับสิทธิ์ปล่อยตัวเช่นกัน

ภายหลังทราบว่าจำเลยทั้ง 4 คน ไม่ได้ประกันตัว 

นายกฤษฎางค์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการไต่สวนขอประกันตัวที่จบไปเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. มีเรื่องใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา คือ ทั้งสี่คนยอมรับเงื่อนไขให้กักบริเวณอยู่ที่บ้าน 24 ชั่วโมง แต่แปลกใจว่าทำไมศาลไม่เอาเรื่องนี้ มาเป็นประเด็นพิจารณา

ส่วนจะมีการอุทธรณ์คำสั่ง หรือจะยื่นประกันตัวต่อไปหรือไม่


นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ให้ทั้งสี่คนไปตัดสินใจกันเอง แต่ตนได้ระบุกับทั้งสี่คนว่า คำสั่งศาลที่ออกมาในวันนี้ โอกาสที่ศาลจะปล่อยชั่วคราวอีกคงยาก และคงจะมีทิศทางเดิมคือหากประกันอีกก็จะไปกระทำความผิดซ้ำ ส่วนตนไม่มีสิทธิตัดสินใจ

สำหรับบรรยากาศที่หน้าศาลอาญา กลุ่มทะลุฟ้าและแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมจัดกิจกรรม ‘เดิน หยุด ขัง’ เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำม็อบ โดยเมื่อเวลา 11.00 น. กลุ่มทะลุฟ้าเริ่มนัดรวมพลที่ศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ และเริ่มเดินไปยังศาลอาญา เพื่อรอฟังคำสั่งไต่สวนประกันตัว 4 แกนนำ ได้แก่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง, และนายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน

ระหว่างเคลื่อนขบวนไปหน้าศาลอาญา มวลชนได้ตะโกนว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” “คืนสิทธิการประกันตัว” เป็นระยะ จากนั้นมวลชนได้จัดตั้งเวทีและให้ผู้เข้าร่วมผลัดกันปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล กระบวนการยุติธรรม และเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบัน มวลชนบางส่วนได้แสดงสัญลักษณ์ยืนชูสามนิ้วและถือป้ายที่มีข้อความว่า “112 ปล่อยเพื่อนเรา” และป้ายที่มีภาพของแกนนำที่ถูกคุมขัง เขียนว่า “FREE FRIEND”

ต่อมาเวลา 14.30 น. เมื่อมวลชนทราบผลคำส่งของศาลให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแกนนำทั้งสี่คน ต่างตะโกนโห่แสดงความไม่พอใจผลการตัดสิน และปราศรัยโจมตีการทำงานของศาลยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง จากนั้นมีการเผาชุดครุย ผู้ร่วมชุมนุมวางดอกกุหลาบ ประท้วงคำสั่ง ที่บริเวณหน้าประตูศาล พร้อมทั้งได้ขว้างปาสิ่งของ ถุงใส่สีแดง ขยะ ขวดน้ำ เข้ามาเข้ามาภายในรั้วศาลอาญาจนเลอะเปอะเปื้อนทั่วบริเวณพื้นบริเวณศาลอีกด้วย

จนกระทั่งเวลา 16.00 น. แกนนำประกาศยุติการชุมนุม




กำลังโหลดความคิดเห็น