“พล.อ.ประวิตร” นำทีม “ธรรมนัส-นฤมล” ลงเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านสุราษฎร์ธานี และ ชุมพร หลังได้รับผลกระทบน้ำท่วม สั่งเร่งเยียวยาดูแลฟื้นฟูให้ทั่วถึง พร้อมกำชับบริหารงบอย่างโปร่งใส
วันที่ 13 ธ.ค. 2564 เวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะทำงาน ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ จังหวัดชุมพร เพื่อตรวจราชการในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมรับฟังสถานการณ์การรับมือกับฤดูฝนในพื้นที่ภาคใต้และการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ร่วมลงพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้บรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย การบริหารจัดการน้ำและการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ณ ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ซึ่งภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัด 51 อำเภอ 158 ตำบล โดยมีอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวัง 10 แห่ง รวมทั้งยังมีความเสี่ยงฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ล่าสุด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 12 อำเภอ ยังคงประสบปัญหา 2 อำเภอ ซึ่งการให้การช่วยเหลือประชาชนได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งการแจ้งเตือน การอพยพออกจากพื้นที่ การจัดทำแนวกั้นน้ำ การเปิดทางระบายน้ำและการช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ประชาชน ต่อเนื่องไปถึงการสำรวจและฟื้นฟู
จากนั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมและมอบถุงยังชีพ ให้กำลังใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ณ ตลาดท่าชนะ ก่อนจะเดินทางไปยัง “ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดชุมพร (ส่วนหน้า)” อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เพื่อรับฟังสถานการณ์ในพื้นที่ จากผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมเยี่ยมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ณ ตำบลวังตะกอ
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณทุกส่วนราชการที่ช่วยกันสนับสนุนและดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ช่วงฤดูฝน จากอิทธิพลของมรสุมต่อเนื่องมา โดยเฉพาะฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องในพื้นที่ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยย้ำความห่วงใยจากรัฐบาลในการช่วยเหลือเร่งด่วน ด้วยการจัดตั้ง “ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า” เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาพรวมทันที
พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ ขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและให้ความสำคัญในการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เร่งรัดบูรณาการให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยของผู้ประสบภัย รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหาย ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบให้ทั่วถึงโดยเร็ว ขณะเดียวกัน ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและเตรียมแผนเผชิญเหตุ วางแผนระบายน้ำในพื้นที่ชุมชนควบคู่ไปกับการวางแผนเก็บน้ำสำรองไว้รองรับในช่วงฤดูแล้งด้วย พร้อมกันนี้ยังได้ย้ำ ขอให้เร่งรัดโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ต่างๆที่ได้รับงบประมาณปี 2565 ให้เสร็จตามแผนที่กำหนด เพื่อลดปัญหาและผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้งที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงกำชับทุกส่วนราชการให้บริหารจัดการงบประมาณด้วยความโปร่งใส