xs
xsm
sm
md
lg

“ชาวตลาดใหญ่ภูเก็ต” ปล่อยโฮกลางสภา ถูกเทศบาลขู่รื้อบ้าน บีบพ้นที่อยู่ เอาพื้นที่ไปปลูกผัก-ต้นไม้ แทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


น.ส.อรอุมา โชคเกื้อ ตัวแทนชาวบ้านชุมชนหลังเวทีสะพานหิน เครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ในพื้นที่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ยื่นหนังสือถึง นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กรณีได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับขอพิพาทที่อยู่อาศัยกับทางเทศบาลนครภูเก็ต จ.ภูเก็ต
“ชาวตลาดใหญ่ภูเก็ต” น้ำตานองกลางสภา! ร้อง “กมธ.การเมืองฯ” ช่วย ถูกเทศบาลขู่บีบพ้นที่อยู่อาศัย ด้าน “ก้าวไกล” โวยใช้พื้นที่ปลูกผัก-ต้นไม้ ไร้ความจำเป็น

วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่รัฐสภา น.ส.อรอุมา โชคเกื้อ ตัวแทนชาวบ้านชุมชนหลังเวทีสะพานหิน เครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ในพื้นที่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ยื่นหนังสือถึง นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กรณีได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับขอพิพาทที่อยู่อาศัยกับทางเทศบาลนครภูเก็ต จ.ภูเก็ต

โดย นายณัฐชา กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผู้ดูแลและเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่ได้รับมติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2563 ให้เปลี่ยนที่อยู่ของประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวกว่า 2 ไร่ เป็นพื้นที่ทำแปลงผัก ปลูกต้นไม้ ซึ่งไม่มีความจำเป็นใดๆ เมื่อแลกกลับชีวิตครอบครัวกว่า 18 หลังคาเรือนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นมายาวนานถึง 37 ปี อีกทั้งชาวบ้านก็ยังไม่มีที่อยู่อาศัยใหม่ เรื่องนี้ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือไปยังหน่วยงานราชการเพื่อขอผ่อนผันและฟ้องศาลแต่กลับถูกขู่ อย่างไรตาม ทาง กมธ.ไม่นิ่งนอนใจจะเร่งนำเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม จากนั้นจะส่งเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เจ้าของพื้นที่เข้าติดตาม

นางประนอม โชคเกื้อ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า อยู่พื้นที่ตรงนั้นมา 30 กว่าปีแล้ว จะให้ย้ายไปตรงไหน ขออยู่ที่เดิม ขอแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น ที่ไม่ใช่ของเทศบาล แต่เป็นของกรมทรัพยากรทางทะเลฯ ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลฯ ให้อยู่อาศัยได้ และได้ทำหนังสือไปถึงศาล และเทศบาลฯ แล้วแต่กลับไม่มีใครดูหนังสือเลย ขู่ว่าจะจับขังอย่างเดียว

นางเอมอร เอกวิริยะวิทย์ ตัวแทนชาวบ้านอีกราย กล่าวสะอื้นทั้งน้ำตา ว่า “ถูกข่มขู่จะรื้อบ้านอย่างเดียว กรมทรัพย์ทำให้อยู่แต่เทศบาลไม่ยอม แล้วจะให้ป้าไปอยู่ที่ตรงไหน ป้าไม่มีที่อยู่ แต่เทศบาลกลับพาคนนอกมาอยู่ ได้บ้านเลขที่ได้น้ำไฟเมื่อปี 2556 แต่ป้าอยู่มาก่อนปี 2528 แต่ทำไมไม่มีสิทธิ์อะไรเลย บ้านพุพัง สร้างแต่งเติมไม่ได้ ขอความเมตตาด้วย”


กำลังโหลดความคิดเห็น