xs
xsm
sm
md
lg

“สาธิต” ย้ำ! ไม่ประมาทผลีผลามปิดประเทศ เร่งฉีดวัคซีน 90% กันเจ็บ-ตาย ห่วงหลุดผ่านช่องทางธรรมชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ชี้แจงกระทู้ถามสด ถึงมาตรการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
“สาธิต” ย้ำ ยังไม่ผลีผลามปิดประเทศ แต่ก็ไม่ประมาท เพราะปิดกั้นเชื้อไม่ให้ระบาดได้ 100% โดยทางธรรมชาติน่ากลัวสุด แต่ก็พอใจในแผนรับมือที่วางไว้ โดยเฉพาะเรื่องยา เพราะภูมิคุ้มกันหมู่อาจไม่ช่วย ต้องเร่งฉีดวัคซีน 90% กันเจ็บ-ตาย

วันนี้ (2 ธ.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ชี้แจงกระทู้ถามสดถึงมาตรการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และความพร้อมด้านวัคซีนและดูแลประชาชน ของ นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ว่า โควิดสายพันธุ์ใหม่ควบคุมไม่ง่าย แต่สามารถรับมือได้ ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์โอมิครอนยังไม่ชัดเจน ทราบแค่ว่าอาการคล้ายกับสายพันธุ์เดลตา และวันนี้ (2 ธันวาคม) พบผู้ติดเชื้อ 1,000 ราย ดังนั้น ยังตอบไม่ได้ว่าต้องปิดประเทศหรือไม่ รวมถึงต้องไม่ผลีผลามตัดสินใจ แต่รัฐบาลไม่ประมาท เพราะยอมรับว่าไม่สามารถปิดกั้นโรคระบาดได้ 100% แต่มาตรการที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ อยู่ในระดับน่าพอใจ

นายสาธิต ชี้แจงว่า องค์การอนามัยโลก ให้คำแนะนำกับประเทศไทย ต่อการปฏิบัติตัวกับ 8-9 ประเทศ ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ว่า ในประเทศที่มีความเสี่ยงสูง คือ งดลงทะเบียนเข้าประเทศ ส่วนผู้ที่เข้าประเทศต้องกักตัว นอกจากนั้น กระทรวงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังทุกจังหวัด ให้สอบสวนและควบคุมโรคอย่างเข้มข้น รวมถึงตรวจสอบผู้ติดเชื้อทุกกรณีเพื่อป้องกันให้ดีที่สุด

“ช่องทางธรรมชาติน่ากลัวที่สุด แต่นายกฯ สั่งการไปยังฝ่ายความมั่นคง หากพบผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ปล่อยปละจะดำเนินการเด็ดขาดกับผู้ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ผมแปลกใจทุกครั้งที่จับคนลักลอบเข้าประเทศ จับได้แต่คนที่หนีเข้าประเทศ แต่จับคนนำพา หรือผู้ให้การพักพิงไม่ได้ โดยนายกฯ สั่งแล้วให้จัดการเด็ดขาด เพราะเป็นช่องทางที่เสี่ยงต่อการเล็ดลอดของไวรัสโอมิครอนมากกว่าทางอากาศ” นายสาธิต ชี้แจง

นายสาธิต ยังชี้แจงถึงเรื่องการเตรียมพร้อมวัคซีนป้องกันโควิดสายพันธุ์โอมิครอน และการปรับแผนฉีดวัคซีนเข็ม 3 ว่า หากสถานการณ์ของโอมิครอนแพร่ระบาดรุนแรง และมีแนวโน้มที่คุมไม่อยู่ การฉีดวัคซีนเข็มสาม อาจมีความจำเป็นที่ต้องลดเวลาฉีดวัคซีน จากที่กำหนดให้มีระยะห่าง 6 เดือน อย่างไรก็ดี ตอนนี้มีข้อมูลว่าในต่างประเทศที่มีอัตราติดเชื้อสูง คือ ในกลุ่มผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน และส่วนตัวเห็นว่าภูมิคุ้มกันหมู่อาจไม่ช่วย ดังนั้น ต้องฉีดวัคซีนเข็มหนึ่งและเข็มสองให้ได้ 90% จากปัจจุบันที่ฉีดแล้ว 70% เพื่อป้องกันการเจ็บหนักหรือตาย

“เมื่อวันอังคารที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา สมาคมผู้ประกอบการของสหรัฐอเมริกา รวมถึงบริษัท ไฟเซอร์ บริษัทผู้ผลิตยา เข้าพบนายกฯ ร่วมพูดคุยถึงการขึ้นทะเบียนรับรองยาจากไฟเซอร์ อย่างไรก็ดี มียาของไฟเซอร์ที่รอการรับรองจากสหรัฐอเมริกา ผมสั่งการให้ อย. ว่า หากมีข้อมูลจากสหรัฐอเมริกาที่มากพอและเป็นข้อมูลฉบับเดียวกันต้องเร่งอนุมัติเพื่อขอมติ ครม. เพื่อสั่งซื้อ โดยรัฐบาลได้เตรียมเงินกู้ งบกลางไว้พร้อมแล้ว” นายสาธิต ชี้แจง

ทั้งนี้ รมช.สาธารณสุข ยังชี้แจงกระทู้ถามสดของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.กทม.​พรรคก้าวไกล ต่อการเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ ว่า การเข้าร่วมดังกล่าวต้องพิจารณาถึงผลด้านบวก และด้านลบ ทราบว่า ประเทศที่เข้าร่วมโครงการยังมีปัญหาจัดส่งวัคซีน ส่วนที่กังวลว่าไทยจะเสียสิทธิในนวัตกรรมใหม่ๆ นั้น ประเทศไทยยังมีสิทธิ และมีความร่วมมือทุกทางที่ทำให้เกิดประโยชน์กับคนไทย รวมถึงมีนวัตกรรมที่คิดและทำเอง ​โดยได้ประสานงานกับองค์กรนานาชาติ รวมถึงองค์การอนามัยโลก ทั้งนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าที่ทำให้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย


กำลังโหลดความคิดเห็น