นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจภาพรวมการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
สำหรับยอดรวมการให้บริการวัคซีนสะสมอยู่ที่ 93,929,601 โดส เข็มที่ 1 สะสม 48,594,537 โดส เข็มที่ 2 สะสม 41,827,020 โดส เข็มที่ 3 สะสม 3,490,779 โดส และเข็มที่ 4 สะสม 17,265 โดส โดยเป็นการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 1 ธันวาคม 2564 ซึ่งเข้าใกล้เป้าหมายของรัฐบาลที่วางไว้ให้มีการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส ภายในปี 2564
ขณะที่ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา ที่มีอายุ 12-18 ปี ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2564 ฉีดแล้ว 5,836,791 โดส มากกว่าจำนวนที่เคยแจ้งความสมัครใจไว้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรียังได้เตรียมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมสำหรับปี 2565 โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขติดตามการพัฒนาวัคซีนเพื่อเจรจาเพิ่มเติมกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เพื่อให้ไทยสามารถเปลี่ยนสูตรวัคซีนและนำเข้าเป็นวัคซีน Gen ใหม่ได้ ควบคู่ไปกับการพันาและผลิตวัคซีนเองภายในประเทศ อาทิ วัคซีน ChulaCov19 และวัคซีนใบยา (Baiya) เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีการกลายพันธุ์ได้ รวมทั้งโอมิครอน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า แม้แนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยมีทิศทางดีขึ้น ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตน้อยลงต่อเนื่อง แต่นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ยังกำชับหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังไม่ให้มีปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ทั้งสกัดการลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย พร้อมให้เร่งติดตามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงที่เคยเดินทางเข้ามาก่อนจะมีประกาศห้ามเข้าประเทศไทย รวมทั้งเคสชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากแอฟริกาจำนวน 783 ราย ให้เร่งติดตามตัวกลับมาทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งด้วยวิธี RT-PCR เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมเชิงรุกด้วย