“เทพเทือก” ยันไม่ได้เป็นที่ปรึกษาพรรคใหม่ ของ 3 ป. ย้ำ รปช.ไม่ย้ายซบพรรคใหญ่ หลัง กม.เลือกตั้ง 2 ใบ มีผล บอกขออยู่พรรคเล็กที่มีคุณภาพ แนะ รบ.ควรอยู่ให้ครบเทอม ไม่รู้ “บิ๊กตู่” ลงต่อหรือไม่ ถ้าไม่มีใครเหมาะก็หนุน แต่ห่วงประเทศมากกว่า
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสนามหลวง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษา และ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ว่า ท่าทีของพวกตนนั้นไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งแบบใช้บัตร 2 ใบ ตั้งแต่ต้น เพราะในอดีตเคยใช้มาแล้ว แล้วก็เป็นปัญหา กลายเป็นเผด็จการรัฐสภา แต่เมื่อพรรคการเมืองใหญ่ๆ เขาเห็นว่า การบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เขาจะได้ประโยชน์ เขาก็ร่วมมือกัน แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้ และไปแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งต่อไป แต่คิดว่าเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนที่จะต้องติดตามในเรื่องข้อดีข้อเสีย และถึงตอนนั้นประชาชนจะได้มีความชัดเจนขึ้นว่าสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานั้นเป็นอย่างไร การตัดสินใจต่อการเลือกตั้งเขาจะทำอย่างไรต้องดูตอนนั้น
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรค รปช.ที่เป็นพรรคเล็กจะได้เปรียบเสียเปรียบตรงนี้อย่างไร มีจะการย้ายพรรคหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อก่อนที่มีการใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวมันดีเพราะว่า หลักการคือคะแนนเสียงทุกคะแนนไม่ถูกละเลย ได้เอามาคำนวณกัน เช่น ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง คนที่ชนะการเลือกตั้งได้ 5 หมื่นคน ที่ได้คะแนนรองลงมาก็สามารถเอาคะนนมาเป็นตัวคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ มันก็เชื่อมโยงกันดี แต่วันนี้แบ่งกันชัดเจนเลยว่าถ้าเลือก ส.ส.เขตสมมติว่ามีพรรคหนึ่งไม่ได้ ส.ส.เขตเลยแต่ได้คะแนนมาที่ 2 หรือที่ 3 และหากพรรคการเมืองใหญ่โฆษณาประชาสัมพันธ์เยอะก็ได้เปรียบ
เมื่อถามว่า ตรงนี้มีแนวโน้มที่ย้ายไปอยู่พรรคใหญ่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ ตนกับพี่น้องร่วมอุดมการณ์ตั้งใจที่จะสร้างพรรคการเมืองที่แท้จริงของประชาชนขึ้นมาให้ได้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นพรรคใหญ่พรรคกลางพรรคเล็กก็เป็นได้เพราะเราดูเรื่องคุณภาพจะเป็นว่าพรรค รปช.มี ส.ส.5 คน แต่ว่ารัฐมนตรีอเนก ที่ไปบริหารกระทรวง อว.ทำงานได้ช่วยประเทศและประชาชนได้มาก ถึงได้บอกว่าอยู่ที่คุณภาพต่อไปนี้ต้องคิดถึงเรื่องนี้ได้
เมื่อถามว่า มีการประเมินว่าอาจจะเหลือเพียง 2 พรรคใหญ่ที่จะแข่งขันกัน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่แน่ เพราะเวลานี้ประชาชนเองก็ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง และการเมือง คิดว่าการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือกตั้งของประชาชนแต่ละครั้ง ในการเลือกตั้งทั่วไปมีแรงจูงใจที่เปลี่ยนแปลงไป
เมื่อถามว่า ในครั้งหน้า พรรค รปช.ยังจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ อีกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เขาจะลงหรือเปล่า ไม่รู้ว่าพรรคไหนจะเสนอชื่อหรือเปล่า เรายังไม่รู้ วันนี้มีหน้าที่อย่างเดียวทำงานให้บ้านเมือง ให้ประชาชนถึงเวลานั้นค่อยว่ากัน
เมื่อถามว่า มีข่าวว่า นายสุเทพ อาจจะเป็นฯที่ปรึกษาให้กับพรรคการเมืองใหม่ที่ตั้งขึ้นมาโดยกลุ่ม 3 ป.นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีเลย ปล่อยข่าวลือ ยังยืนยันว่า จะอยู่กับพรรคการเมืองที่เป็นพรรคของประชาชนและในขณะนี้ก็เห็นมีพรรคเดียวคือ พรรครปช.
เมื่อถามว่า อาจจะต้องมีแรงสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาอีกครั้งในครั้งหน้า นายสุเทพ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าเรายังไม่รู้เลยว่าเขาละเลือกตั้งกันเมื่อไร สมมติว่า อยู่กันจนครับเทอม และอาจจะมีการเลือกตั้งในเดือน มี.ค./เม.ย. 2566 กว่าจะถึงวันนั้นอะไร ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่คิดว่ารัฐบาล และเชื่อว่า ควรจะอยู่ครบเทอม แต่อาจจะเหมือนรถที่ไม่เต็มสูบเท่าไร แต่ก็วิ่งไปได้ วันนี้การแก้ไขปัญหาของประเทศในด้านต่างๆ มันเป็นเรื่องที่รัฐบาลได้ทำมาระยะหนึ่งแล้วและควรทำต่อให้จบ สันนิษฐานว่าต้องอยู่จนครบสมัย
เมื่อถามต่อว่า ที่บอกว่า ไม่แน่ว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกนั้น เพราะเห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพรรคพปชร.หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่พวกเราก็เห็นๆกันอยู่ แต่เป็นเรื่องภายในพรรคอื่นที่ตนไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์
เมื่อถามว่า และด้วยเหตุผลนี้หรือไม่ที่อาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องวางตัวคนสำรองไว้สำหรับการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร 1. คือ ไม่รู้จะตัดสินใจลงแข่งขันเป็นนายกฯ รมต.ต่อหรือไม่ 2. ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรว่า ในสถานการณ์ขณะนี้และอีก 1 ปีต่อจากนี้ ตัวเองจะอยู่ในสภาพอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องตัดสินใจ โจทย์ของ รปช.ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่บริหารราชการบ้านเมืองจนครบสมัย ส่วนการเลือกตั้งทั่วไปต้องดูอีกทีว่ามีใครบ้างที่อยู่ในสภาพที่มีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำรัฐบาลได้ เราก็ต้องไปพิจารณากัน
เมื่อถามว่า ถ้ามองคร่าวๆ ตอนนี้มีใครที่พอจะสูสีกับ พล.อ.ประยุทธ์ ได้บ้างหรือยังนายสุเทพ กล่าวตนมองไม่เห็นเลยส่วนในการเลือกตั้งสมัยหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังจะเป็นเต็งหนึ่งไม่นั้นหากพิจารณาในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ดูโดดเด่นกว่าคนอื่นทั้งในเรื่องความตั้งใจผลงานที่ทำมาแต่เวลาที่เหลือปีกว่าพูดไปก่อนดูจะเร็วไป
เมื่อถามว่า รปช.ยังจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต่อใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา จนขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานดี และถ้าตั้งใจจะลงเป็นผู้แข่งขันที่จะเป็นนายกฯและไม่มีตัวบุคคลที่เหมาะสมกว่านี้ ก็ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังเหมาะสมกว่าคนอื่น เวลานี้ ตนห่วงประเทศไทยมากกว่าที่จะไปห่วงตัว พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พรรค พปชร.เราเป็นคนไทยเวลานี้เราต้องคิด ว่าเราจะทำอย่างไรให้ประเทศอยู่รอดปลอดภัยพรรค พปชร.จะแตกหรือไม่นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นอนิจจัง มีความเปลี่ยนแปลงได้