รอง หน.พปชร. ซัด ฝ่ายค้านเล่นการเมืองนับองค์ประชุม แต่ไม่ยอมแสดงตน ยกข้อบังคับชี้ ส.ส.ทุกคนต้องทำหน้าที่ประชุมสภาฯ ไม่มียกเว้นให้ฝ่ายค้าน เตือนอย่าโยนหน้าที่รักษาองค์ประชุมเป็นของรัฐบาลเท่านั้น
วันนี้ (24 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.40 น. ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีการนับองค์ประชุมในการประชุมสภาฯเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจ กรณีที่ฝ่านค้านใช้คำว่า ฝ่ายรัฐบาลมีการเสียบบัตรแทนกัน ทั้งที่ความจริงแล้วการตรวจองค์ประชุมต้องตรวจทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ติดในใจตนมาโดยตลอด เพราะการเป็น ส.ส.นั้น เราอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ เรามีประมวลจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งข้อที่ 14 ระบุว่า สมาชิกต้องอุทิศเวลาให้กับการประชุม โดยต้องคำนึงถึงความตรงต่อเวลา และไม่ขาดการประชุมโดยไม่จำเป็น เว้นกรณีเจ็บป่วยหรือมีเหตุสุดวิสัย แต่การที่ฝ่ายค้านใช้วิธีการไม่มีอะไรก็จะนับองค์ประชุม เสร็จแล้วก็ไม่ออก แม้จะอยู่ในที่ประชุมก็ไม่แสดงตน เพื่อจะป่วน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ตนเห็นว่า เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ เมื่ออยู่สภาฯก็ต้องทำหน้าที่ ไม่เห็นด้วยกับกฏหมายใดก็ว่ากัน ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาลก็อภิปรายไม่ไว้วางใจไป หากใช้วิธีนีันับองค์ประชุมแบบนี้ก็ควรตระหนักด้วยว่า ฝ่ายค้านต่างหากที่มาประชุมน้อย พอมีการนับองค์ประชุมจริงผลก็ออกมาแล้วว่า มาร่วมประชุมและขานชื่อมากกว่า
“ส.ส.ทุกคนมีหน้าที่ต้องมาประชุม ไม่มีเขียนอยู่ในรัฐธรรมนูญหรือในกฎหมาย หรือตรงไหนเลย ที่เว้นให้ฝ่ายค้านไม่ต้องประชุมก็ได้ นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ท่านกำชับ ส.ส.พรรค มาประชุมเพื่อเป็นองค์ประชุมให้ครบ ดังนั้น เราไม่ได้ห่วง เพียงแต่เราไม่สบายใจที่ฝ่ายค้านใช้วาทกรรมเสมอว่าตัวเองไม่ต้องเป็นองค์ประชุมก็ได้ ตัวเองเป็นตัวแทนประชาชนต้องทำหน้าที่ ไม่ไช่ทำตัวแบบนี้” นายไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะร้องฝ่ายค้านเอาผิดเรื่องนี้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า คงไม่ ตนคงไม่ทำอะไรในลักษณะแบบนั้น เพียงแต่เป็นห่วงเรื่องของการใช้วิธีการนับองค์ประชุมแบบนี้ เพราะมันไม่สง่างาม และดูน่าเกลียด แล้วก็มาต่อว่าฝ่ายรัฐบาล ตรงนี้ตนขอความเป็นธรรม ในเมื่อองค์ประชุมเป็นเรื่องของสมาชิกทุกคน ที่ต้องมาประชุม แต่ไม่เป็นไร ฝ่ายรัฐบาลจะรักษาองค์ประชุมไป แต่ฝ่ายค้านอย่าพูดอะไรในลักษณะที่โยนการทำหน้าที่เป็นของ ส.ส.รัฐบาลฝ่ายเดียว เพราะไม่เป็นธรรม และไม่ชอบด้วยข้อกฎหมายและประมวลจริยธรรม