สภาหวิดล่ม เจอฝ่ายค้านให้นับองค์ประชุมแบบเรียงตัว แต่ไก่โห่ เหตุ “ไพบูลย์” พลั้งปากท้าเปิดชื่อฝ่ายค้านไม่เข้าประชุม
วันนี้ (24 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มีเหตุการณ์ให้วิปรัฐบาลต้องลุ้นกันอีกครั้ง เมื่อ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้เลื่อนระเบียบวาระการประชุมในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) โดยให้นำญัตติเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ขึ้นมาพิจารณาเป็นวาระแรก แต่ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายคัดค้าน โดยเห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระเดิม
ทำให้ นายชวน ได้ให้สมาชิกลงมติชี้ขาด ผลปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่คะแนน 234 เสียง ต่อ 80 เสียง เห็นชอบให้เลื่อนญัตติดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาก่อน ทำให้ นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จะมาใช้วิธีเสนอญัตติเร่งด่วนเข้ามาแทนวาระปกติบ่อยๆ ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญและเร่งด่วนจริงๆ
ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นตอบโต้ทันที ว่า อยากให้เปิดเผยรายชื่อคนไม่ยอมเข้าประชุม เพราะทราบว่าส่วนใหญ่เป็นของฝ่ายค้าน ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านไม่พอใจ ประท้วงถกเถียงในห้องประชุมตามมา
ด้าน นายชวน ได้พยายามไกล่เกลี่ยเพื่อให้การประชุมเดินหน้าต่อได้ โดยขอให้นายไพบูลย์ถอนคำพูดที่กล่าวหาฝ่ายค้าน แม้นายไพบูลย์ ถอนคำพูด แต่ฝ่ายค้านยังคงประท้วงต่อไป โดย นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ว่า ฝ่ายค้านอยู่ในห้องประชุมตลอดเวลา ตั้งแต่เช้ายันเย็น เมื่อมากล่าวหากันเช่นนี้ ขอเสนอญัตติให้นับองค์ประชุมโดยการขานชื่อ
แม้ นายชวน พยายามขอให้ถอนญัตติดังกล่าว โดยบอกว่า ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่นายไพบูลย์พูด แต่นายไพบูลย์ยอมถอนคำพูดแล้ว เรื่องควรจะจบ เดินหน้าประชุมต่อไป เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม แต่นายจุลพันธุ์ยืนยันไม่ถอนญัตติ ขณะที่ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า สิ่งที่นายไพบูลย์พูด ทำให้ฝ่ายค้านถูกประชาชนมองในทางที่ผิด พฤติกรรมนายไพบูลย์พูดจาหมิ่นฝ่ายค้านบ่อยครั้ง แค่ถอนคำพูดไม่พอ ต้องไปนั่งหน้าบัลลังก์เอาดอกไม้มากราบขอโทษ แล้วจะไปบอกนายจุลพันธุ์ถอนญัตติให้
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เสนอญัตติให้นับองค์ประชุมด้วยวิธีเสียบบัตร แต่ นายจุลพันธ์ ท้วงว่า ไม่เคยมีธรรมเนียมที่เมื่อมีการเสนอให้ขานชื่อนับองค์ประชุมแล้ว จะมีการเสนอญัตติซ้อนให้นับองค์ประชุมโดยวิธีเสียบบัตรแทรกเข้ามา
หลังจากถกเถียงกันเป็นเวลานานกว่า 20 นาที นายนิโรธ เสนอขอพักประชุม 10 นาที ให้วิปทั้งสองฝ่าย ไปตกลงเคลียร์ข้อขัดแย้งกัน ซึ่ง นายชวน อนุญาตให้พักประชุม 15นาที
ต่อมาเมื่อกลับมาประชุมอีกครั้ง นายจุลพันธุ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันระหว่างวิปสองฝ่ายแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณประธานวิปรัฐบาล ที่รับปากว่าจะไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกันอีก และยินดีถอนการนับองค์ประชุมด้วยการเสียบบัตร แต่ฝ่ายค้านจำเป็นต้องให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อต่อไป ขณะที่นายนิโรธกล่าวถึงเหตุผลการถอนการนับองค์ประชุมแบบเสียบบัตร ว่า แม้เรื่องประเพณีก็เป็นเรื่องประเพณี เรื่องข้อบังคับก็เป็นเรื่องของข้อบังคับ แต่เพื่อให้การดำเนินการไปได้ก็ขอถอน
จากนั้นเวลา 11.48 น. ที่ประชุมจึงเริ่มนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ ซึ่ง ส.ส.ฝ่ายค้าน นั่งอยู่ในห้องประชุม เมื่อถึงคิวกลับไม่ยอมขานชื่อ มีเพียง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล เท่านั้นที่ขาน กระทั่ง 12.50 น. นายชวน ประกาศผลการขานชื่อว่า ส.ส.อยู่ 264 คน ไม่อยู่ 211 คน เท่ากับองค์ประชุมครบ จากนั้น ที่ประชุมก็ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. .. ต่อไป