“สุดารัตน์” ประธานพรรคไทยสร้างไทย เยี่ยมผู้ประกอบการบริเวณคลองโอ่งอ่าง ยกเป็นโครงการที่ดี เล็งดันโครงการ Bangkok Creative City ของ “ไทยสร้างไทย” เสริมโอกาส-ศักยภาพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนดั้งเดิม ด้านผู้ประกอบการร้องสินค้าแพงขึ้นทุกตัว ทำต้นทุนกระฉูด แต่ขึ้นราคาขายไม่ได้ เหตุเห็นใจลูกค้ากำลังซื้อหด
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 64 คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย น.ส.สุวดี พันธุ์พานิช รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 กทม. (ป้อมปราบศัตรูพ่าย, พระนคร, สัมพันธวงศ์ และดุสิต), นายศรัณยู คงสวัสดิ์เกียรติ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตสัมพันธวงศ์ พรรคไทยสร้างไทย และ นายเจตบัญชา อำรุงจิตชัย รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่เยี่ยมพี่น้องชาวชุมชนริมคลองโอ่งอ่าง เขตสัมพันธวงศ์ และเขตพระนคร
โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวชุมชนริมคลองโอ่งอ่าง และประชาชนผู้มาท่องเที่ยว ที่เข้ามาทักทายและขอถ่ายภาพเป็นที่เป็นระยะๆ และมี น.ส.รัฐวรรณ ฉลาดชื่นชม ประธานชุมชนริมคลองโอ่งอ่าง และ นายสุชัย ฉลาดชื่นชม ที่ปรึกษา ประธานชุมชนริมคลองโอ่งอ่าง รวมถึงประธานชุมชนเขตสัมพันธวงศ์ พระนคร และป้อมปราบศัตรูพ่าย ร่วมลงพื้นที่ พูดคุยและเสนอปัญหาต่างๆ ด้วย
คุณหญิง สุดารัตน์ กล่าวระหว่างลงพื้นที่ตอนหนึ่ง ว่า มีความคุ้นเคยและผูกพันกับชุมชนโดยรอบ เพราะได้ร่วมทำงานในการพัฒนาชุมชนร่วมกับประชาชนในพื้นที่มาช้านาน จึงมีความเข้าใจวิถีชีวิต และวัฒนธรรมในพื้นที่เป็นอย่างดี อีกทั้งสามีก็มีพื้นเพจากย่านตลาดน้อย ที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งนี้ มองว่า โครงการปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบคลองโอ่งอ่างเป็นโครงการที่ดี และมีประโยชน์กับชุมชนโดยรอบ และเล็งเห็นว่า ควรจะนำโครงการ Bangkok Creative City ที่พรรคไทยสร้างไทยทำร่วมกับหลายชุมชนอยู่ เข้ามาช่วยพัฒนาในพื้นที่ถนนสายรอง ที่เป็นที่อยู่ของผู้คนดั้งเดิมในชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องในชุมชนจากวิถีชีวิตดั้งเดิม รวมทั้งเป็นช่องทางที่จะทำให้คนรุ่นใหม่กลับมาพัฒนาชุมชน กลับมาสร้างโอกาสในการทำมาหากิน จากวัฒนธรรม จากวิถีชุมชน และจากอัตลักษณ์ของบ้านเรือน ต่อยอดเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน
พร้อมกันนี้ คุณหญิง สุดารัตน์ ยังถือโอกาสรับฟังเสียงสะท้อนและความต้องการของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชน เขตสัมพันธวงศ์ และเขตพระนคร ซึ่งหลายคนบอกในทิศทางเดียวกันว่า แม้จะมีการเปิดประเทศ แต่การประกอบอาชีพ การทำมาค้าขายยังไม่กลับมาปกติ กำลังซื้อส่วนใหญ่เป็นพี่น้องคนไทย ที่ถูกสภาพบังคับจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ให้ลดการจับจ่ายใช้สอยลง และที่สำคัญที่สุดคือ สินค้าทุกชนิดราคาแพงขึ้น ทั้งน้ำมัน พืชผักผลไม้ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่ไม่สามารถขึ้นราคากับลูกค้าได้
ด้านผู้ประกอบการที่เป็นชาวชุมชนดั้งเดิมจริงๆ ที่อยู่อาศัยในถนนสายรองนั้น ยังขาดการสนับสนุนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นรูปธรรม จึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องเข้ามาปรับปรุง ยกระดับให้เกิดการพัฒนาในมิติของการท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน อย่างจริงจัง ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสให้คนในชุมชน สามารถทำมาค้าขายได้ทุกวัน
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้เข้านมัสการพระธรรมปริยัติ โมลี เจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุข เพื่อเข้าร่วมบูรณะอาคารรับเสด็จ ร.5 ซึ่งเป็นอาคารทางประวัติศาสตร์ พร้อมมอบหมายให้ น.ส.สุวดี และ นายศรัณยู เข้าไปดูแลพี่น้องประชาชน สำรวจและประสานงานติดตั้งไฟส่องสว่างภายในชุมชนอย่างทั่วถึงด้วย