“แรมโบ้” จวก “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” ยุยงคนไทยละเมิดอำนาจศาล จงใจเคลื่อนไหวทำลายประเทศไทย ขอคนไทยช่วยขับไล่พ้นประเทศ
วันนี้ (13 พ.ย.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี เอ็มเมอร์ลีน จิล รองผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคฝ่ายวิจัย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ออกมาพูดถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า การเรียกร้องของนักกิจกรรม 3 คน อันประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา น.ส.ปณัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และ นายภานุพงศ์ จาดนอก ที่เป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวให้มีการปฏิรูปสถาบันระหว่างการชุมนุมเมื่อปี 2563 เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยทางด้าน เอ็มเมอร์ลีน จิล บอกว่า นี่เป็นสัญญาณอันตรายสำหรับประชาชนชาวไทยหลายหมื่นคน ที่แสดงความเห็น หรือวิจารณ์อย่างชอบธรรมต่อบุคคลสาธารณะหรือสถาบัน ถ้าคำวินิจฉัยนี้มีเจตนาเพื่อทำให้ประชาชนหวาดกลัว และขัดขวางพวกเขาจากการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ ผลที่ออกมาจะตรงกันข้าม ดังที่เห็นจากการติดแฮชแท็กอย่างกว้างขวาง การส่งทวีต และข้อความทางโซเชียลมีเดียมากมายทันทีหลังศาลมีคำวินิจฉัย ประชาชนชาวไทยกว่า 200,000 คน ได้ลงนามในจดหมายเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ ในประมวลกฎหมายอาญาของไทย นายเสกสกล ระบุว่า การที่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกมาให้ข้อมูลแบบนี้กำลังเข้าข่ายละเมิดศาลหรือไม่ และกำลังเข้าข่ายในการปลุกระดม ให้คนเกิดการต่อต้านอำนาจศาลหรือไม่ องค์กรแห่งนี้อุปโลกน์ตัวเองว่าเป็นองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน แต่การกระทำนั้นเข้าข่ายสนับสนุนให้กลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งละเมิดอำนาจศาล ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ และละเมิดสิทธิประชาชนส่วนใหญ่ ที่สำคัญ องค์กรแห่งนี้เป็นองค์กรต่างชาติ ไม่ควรยุ่งเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองของไทยอย่างยิ่ง
นายเสกสกล กล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังสมควรให้องค์กรแห่งนี้อยู่ในประเทศไทยอีกหรือ เพราะที่ผ่านมา แสดงให้เห็นชัดเจนว่าองค์กรแห่งนี้เคลื่อนไหว เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ มาโดยตลอด คอยให้การสนับสนุนกลุ่มบุคคลที่สร้างความรุนแรง ออกแถลงการณ์แต่ละครั้งก็ค้านสายตาคนทั้งประเทศ ขนาดกลุ่มม็อบใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่แอมเนสตี้ยังออกมาเรียกร้องให้ตำรวจยุติการใช้ความรุนแรง ซี่งสวนทางกับความจริงมาโดยตลอด ดังนั้น ถึงเวลาหรือยังที่ประเทศไทย คนไทย ควรพิจารณาขับไล่องค์กรแห่งนี้พ้นผืนแผ่นดินไทย เหมือนหลายๆ ประเทศ ไม่ว่ากัมพูชา อินเดีย ฟิลิปปินส์ หรือแม้แต่ฮ่องกงก็ไม่ยอมให้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เคลื่อนไหวในประเทศอีกต่อไป เพราะการเคลื่อนไหวนั้นเป็นการทำลายประเทศอย่างต่อเนื่อง และคนที่ออกมาพูดก็ไม่ใช่คนไทย ดังนั้น ไม่เข้าใจวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย อ้างแต่เรื่องสิทธิมนุษยชน แต่ทำไมยอมให้คนกลุ่มหนึ่ง ก้าวล่วง และละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ ซึ่งนั่นก็เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรงยิ่งกว่า แต่องค์กรแห่งนี้กลับทำไม่รู้ไม่เห็น ดังนั้น การเคลื่อนไหวของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เชื่อได้ว่า มีวัตถุประสงค์ และเงื่อนไขในการทำลายประเทศไทยโดยแท้จริง
นายเสกสกล ย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่คนไทย ควรจะได้ช่วยกันขับไล่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล พ้นประเทศไทยเสียที อยู่ไปก็สร้างความเดือดร้อนให้ประเทศไทย สร้างความแตกแยกให้ประเทศไทย ไม่รู้จักจบสิ้น