xs
xsm
sm
md
lg

ศบค.เตรียมแผนเผชิญเหตุหากโควิดระบาด ลดกิจกรรม นนท.- งดรับ นนท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พญ.สุมณี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. และผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค แถลงศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.
ศบค.เตรียมแผนเผชิญเหตุ หากพบเปิดประเทศโควิดระบาด วาง 3 หลักเกณฑ์ลดกิจกรรมนักท่องเที่ยว-งดรับนักท่องเที่ยว

วันนี้ (5 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมณี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. และผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค แถลงศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ว่า สำหรับ 10 ประเทศนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1-4 พ.ย. อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา อันดับ 2 เยอรมนี อันดับ 3 สหราชอาณาจักร อันดับ 4 ญี่ปุ่น อันดับ 5 สวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 6 สวีเดน อันดับ 7 เกาหลีใต้ อันดับ 8 เนเธอร์แลนด์ อันดับ 9 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ อันดับ 10 จีน ทั้งนี้ ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่และสายการบินต่างๆ ตรวจเอกสารหลักฐานของนักท่องเที่ยวและผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างละเอียดให้ครบถ้วน ตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้ามาถึงประเทศ และเมื่อเดินทางถึงประเทศแล้ว ขอให้ขั้นตอนที่สำคัญ คือ การตรวจคัดกรองเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ที่โรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวจะต้องมีระบบในการดำเนินการที่จับคู่กับโรงพยาบาลที่ปฏิบัติการคู่สัญญา เพื่อตรวจและออกผลให้ได้ภายใน 6 ชั่วโมง ก่อนที่จะเข้าสู่ระบบต่อไป ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (กกท.) มีการกำกับติดตามสถานประกอบการโรงแรมให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

พญ.สุมณี กล่าวต่อว่า ที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุขและที่ประชุม ศปก.ศบค.มีความเป็นห่วงเรื่องการดำเนินงานในกิจกรรมที่มีความเสี่ยงในช่วงที่มีการผ่อนคลาย โดยมีการประชุมกับหลายภาคส่วน ทั้งกรุงเทพฯ ภาคเอกชน เช่น สมาคมภัตตาคารไทย และสมาคมผู้ค้าปลีก เป็นต้น โดยมีประเด็นหลักในการประชุม 2 เรื่อง คือ 1. ขอเร่งรัดให้ร้านค้าสถานประกอบการร้านอาหารทำความเข้าใจและสร้างความร่วมมือให้ดำเนินการภายใต้มาตรการสาธารณสุข และฉีดวัคซีนให้กับพนักงาน เพื่อยกระดับสถานประกอบการโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อให้มีความพร้อมในการรองรับมาตรการผ่อนคลายอื่นๆ ที่จะตามมา และ 2. การอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหาร ขอให้เจ้าของกิจการและสถานประกอบการทั้งหมดช่วยดำเนินการภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดตามเวลาที่กำหนดไว้ โดยที่ประชุมศปก.ศบค.จะมีการประเมินสถานการณ์ทุก 2 สัปดาห์

เมื่อถามถึงกรณีการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข มีแผนรองรับอย่างไรบ้าง หากมีการระบาดเกิดขึ้น พญ.สุมณี กล่าวว่า มีการเตรียมพื้นที่สำหรับแผนเผชิญเหตุ เมื่อมีสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ ซึ่งในการทำแผนเผชิญเหตุดังกล่าวมีการจัดทำภายใต้หลักการตามคำสั่ง ศบค.ฉบับที่ 11 ซึ่งมีเกณฑ์ในการพิจารณา 3 ข้อ คือ 1. ความพร้อมในการรองรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่เป็นนักท่องเที่ยว 2. ความพร้อมในการรองรับผู้ติดเชื้อที่เป็นประชาชนในพื้นที่ และ 3. ลักษณะการระบาดวิทยาของ โควิด-19 ในพื้นที่ และการจัดระดับพื้นที่สถานการณ์ และทรัพยากรในการสอบสวนควบคุมโรค เมื่อมีการพิจารณาแล้วจะต้องมีการปรับว่าจะต้องมีการทำมาตรการอย่างไรเริ่มตั้งแต่ลดกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว จนถึงยุติการรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องเป็นมติจากที่ประชุมคณะกรรมการจังหวัดนั้นๆในการดำเนินการซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์


กำลังโหลดความคิดเห็น