xs
xsm
sm
md
lg

เลิกกราบ? “โลโก้-แถลงการณ์” ยืนยัน เพจดังแซว “อุ๊งอิ๊ง” ขวางใคร? รีบส่งไปหาพ่อ รุมจวก “พท.” ผสมโรงสามกีบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ เพจดังฟันฉับ! พท.แก้ “ม.112” ผิด 2 ข้อหา? แซว “อุ๊งอิ๊ง” ขวางใคร? ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ปิดเกม “สู้ไปกราบไป” เพจดังฟันฉับ! พท.แก้ “ม.112” ผิด 2 ข้อหา? แซว “อุ๊งอิ๊ง” ขวางใคร? รีบส่งไปอยู่กับพ่อ “หมอวรงค์” ฉะเดือด ผสมโรงก๊วน 3 นิ้ว โจมตีสถาบันโซเชียล ซ้ำ อย่าไปเลือก “ปชป.” ซัด กม.ไม่มีปัญหา อยู่ที่คนคิดร้าย

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (1 พ.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น เพจดังฟันฉับ พท.แก้ ม.112 ผิด 2 ข้อหา? แฉอุ๊งอิ๊ง ขวางคือใคร รีบส่งไปอยู่กับพ่อ

โดยระบุว่า จากที่มีแถลงการณ์ พรรคเพื่อไทย เผยแพร่กันอยู่ในโลกโซเชียล เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก เพราะมีเนื้อหาที่หลายคนวิตกกังวลว่าจะผิดกฎหมายหรือไม่ ภายหลังจาก ลูกสาวทักษิณ เพิ่งเปิดตัวเข้ารับตำแหน่งใหญ่ในพรรค
สำหรับแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ลงนามโดย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย มีเนื้อหาว่า ปัญหาการใช้กฎหมายอาญาดำเนินคดีเพื่อจำกัดความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างอย่างล้นเกิน

ไม่ว่าจะเป็นประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาตรา 116 พระราชบัญญัติการกระทำอันเป็นความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ หรือความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน สร้างผลกระทบให้ประชาชนเสียหายจากกระบวนการยุติธรรมที่ประชาชนสงสัยว่า ไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวโดยมิชอบด้วยหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ซึ่งทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในหลักกฎหมายและหลักความยุติธรรมของประเทศ

ตามที่ภาคประชาชนได้เรียกร้องและเสนอร่างแก้ไขข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคที่มีเสียงสมาชิกมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมนำข้อเสนอดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา เพื่อตรวจสอบระบบการทำงานของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ ศาล และราชทัณฑ์

ว่าได้ปฏิบัติหน้าที่หรือใช้ดุลพินิจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่ และตรวจสอบการสั่งการโดยรัฐบาล รวมถึงการแก้ไขกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เพื่อให้นักโทษทางความคิดได้รับการปล่อยตัว และไม่ให้เกิดนักโทษทางความคิดเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมของประเทศไทย

ล่าสุด วันนี้ เฟซบุ๊ก ปราชญ์ สามสี ได้โพสต์ข้อความถึงแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย โดยเชื่อมโยงไปยังบุตรสาวอดีตนายกฯว่า

ภาพ นายชัยเกษม นิติสิริ ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
“แถลงการณ์ ฉบับนี้ อุ๊งอิ๊ง ทราบแล้วยังครับว่า ทางพรรคออกมาแถลงเช่นนี้ ล่าสุด มีแถลงการณ์ว่อนอยู่ทั่วอินเทอร์เน็ต จากพรรคเพื่อไทย พยายามโจมตีไปที่กฎหมาย..มาตรา 112 และ 116 โดยวิจารณ์การใช้ดุลพินิจของศาลยุติธรรม หากแถลงการณ์ฉบับนี้เป็นของจริง

นี่คือ การหมิ่นประมาทศาลยุติธรรมนะครับ…อีกทั้งหากพยายามเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายขึ้นจริง เช่น การพยายามเปลี่ยนแปลงกฎหมายหมวดความมั่นคง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง

หากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย 112 และ 116 อันเป็นหมวดความมั่นคงแห่งรัฐ นี่คือ การกระทำอันผิดกฎหมาย ตาม มาตรา 255 ซึ่งระบุว่า

“การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ จะกระทํามิได้”

มีคำถามว่า ไม้ตายของเพื่อไทย คือ การส่งอุ๊งอิ๊งไปหาทักษิณหรือครับ รีบจังเลย …อุ๊งอิ๊งขวางคอใครในพรรครึครับ?

ปล. ชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคด้านการตรวจสอบกระบวนการยุติธรรมและอำนาจรัฐ พรรคเพื่อไทย เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตที่ปรึกษาศูนย์รักษาความสงบ ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นอดีตอัยการสูงสุด ก็น่าจะรู้นะครับ ว่าทำแบบนี้ ใครเสียหายที่สุด”

ภาพ “หมอวรงค์” ฉะเดือด พท.ผสมโรงก๊วน 3 นิ้วโจมตีสถาบัน โซเชียล ซ้ำ ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น “หมอวรงค์” ฉะเดือด “เพื่อไทย” ผสมโรงก๊วน 3 นิ้ว โจมตีสถาบัน โซเชียลจี้ซ้ำ พรรคใดเสนอแก้ ม.112 อย่าไปเลือก

เนื้อหาระบุว่า จากแถลงการณ์ดังกล่าวข้างต้น ...นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงประเด็นนี้ด้วยว่า #หยุดรังแกสถาบัน ผมเห็นแล้วไม่สบายใจ ต่อการกระทำของกลุ่มจ้องทำลายสถาบัน ที่จัดม็อบล่าชื่อยกเลิกมาตรา 112 ประกอบกับพรรคการเมืองที่มีประวัติโกงทั้งตระกูล ออกมาขานรับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

โดยอ้างว่า เป็นการเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษทางความคิด เพื่อฟื้นฟูหลักนิติรัฐและนิติธรรมของประเทศ ทั้งๆ ที่การกระทำที่เห็น คือ คนเหล่านี้พยายามจาบจ้วงมาตลอด จึงถูกดำเนินคดี แทนที่พรรคการเมือง จะช่วยกันดึงประเทศมาสู่จุดที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามหลักกฎหมาย เพื่อไปสู่ความสงบสุข กลับพยายามร่วมผสมโรง จึงขอเตือนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า หยุดได้แล้ว ปัญหาประเทศอยู่ที่คนโกง แต่มาโทษสถาบัน ทั้งๆ ที่สถาบันท่านทำอะไรไม่ได้ แต่ก็ยังถูกรุมรังแกแบบมัดมือชก ขอบอกตรงๆ ว่า ประชาชนเขาอึดอัดมาก

ภาพ โพสต์ นายนันทิวัฒน์ สามารถ ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ขณะที่ นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart สั้นๆ ระบุว่า “จำชื่อไว้นักการเมืองพรรคใดเสนอแก้ไข ม.112 อย่าไปเลือกมัน”

ทำให้มีกระแสในโซเชียลเห็นด้วยอย่างมาก ว่า จะไม่เลือกคนที่โจมตีสถาบัน รวมทั้งรับไม่ได้ที่นักการเมือง ร่วมมือกับกลุ่ม 3 นิ้ว ที่ออกมาเคลื่อนไหวในเวลาใกล้ๆ กัน เพื่อเรียกร้องยกเลิก 112

อย่างไรก็ตาม พบว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน เพจคณะก้าวหน้า - Progressive Movement ได้โพสต์ประเด็น ม.112 ภายใต้หัวข้อ “หมดเวลา 112 ถึงเวลาคืนอนาคตสังคมไทย” และจะเตรียมล่ารายชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ แบบที่เคยทำมาอีกครั้ง รวมทั้งเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564 มีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ กลุ่มไอลอว์ ก็ได้ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อให้แก้มาตรา 112 ด้วย

ภาพ นายราเมศ รัตนะเชวง - ปชป. แสดงจุดยืน ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองบางพรรค ได้กล่าวถึง มาตรา 112 แต่สำหรับ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีนโยบายที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 เนื่องจากมองว่า เนื้อหาสาระสำคัญของมาตราดังกล่าวนั้น ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร

ต้องมองที่การกระทำของบุคคลมากกว่าตัวบทกฎหมาย ซึ่งผู้ที่กระทำผิดนั้น ก็เป็นความผิดส่วนตัว ไม่ใช่กฎหมายมีปัญหา เมื่อก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ผิดถูกก็ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

นอกจากนี้ นายราเมศ ยังกล่าวอีกว่า มาตรา 112 ไม่ได้ขัดหรือแย้งต่อหลักนิติธรรมหรือรัฐธรรมนูญ แต่อาจจะขัดใจผู้คิดไม่ดีต่อบ้านเมือง หากมีการยื่นร่างแก้ไขมาตรา 112 ต่อรัฐสภา พรรคพร้อมค้านเต็มที่ พรรคการเมืองไหนใครอยากทำก็ไม่มีใครห้ามได้ ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เรามีหลักการชัด คือ ยึดมั่นในระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่มีแนวคิดในการยกเลิก

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ หากแถลงการณ์ฉบับนี้ เป็นของพรรคเพื่อไทยจริง ก็เท่ากับยืนยัน สิ่งที่มีการแฉกันก่อนหน้านี้ว่า การที่พรรคเพื่อไทย เปลี่ยน “โลโก้” พรรค มี “นัยยะแฝง” จริง

โดยเมื่อ 22 ต.ค. 64 นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มคนเสื้อแดง ภายหลังมีม็อบที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร” เปิดบัญชีรับบริจาคเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมชุมนุม ล่าสุด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงพรรคเพื่อไทย หลังจากปรับเปลี่ยนโลโก้โฉมใหม่เป็นสีแดงโดยตัดสีน้ำเงินออกว่า

“เห็นโลโก้ขาวแดงอันใหม่ของเพื่อไทย หน้า “คุณพรี่” มาเฟียออนไลน์ทั่นนึงลอยมาทันที

เมื่อปลายปีที่แล้ว มีเด็กม็อบคนนึงโดน 112 แล้วโดนตำรวจบุกจับตอนจะเที่ยงคืน เราก็รีบติดต่อ ส.ส.ในพื้นที่ของเด็กคนนั้น เพื่อจะขอให้รีบเข้าไปช่วยดูแลเด็กก่อนในเบื้องต้น คำตอบที่ได้มาคือ...ไม่ยุ่ง ดูแลกันเอง ผมรักและเทิดทูน แล้วก็มีอีก 2-3 ประโยค แต่เอามาพูดตรงนี้ไม่ได้ (หลังจากนั้นไม่นาน พรี่เค้าออกมาประกาศจุดยืนผ่านเฟซบุ๊กด้วยแล้วโดนทัวร์ลง แล้วพรี่แกก็ลบโพสต์ทิ้ง)

นายปกรณ์ ระบุอีกว่า ตนได้นำเรื่องนี้ไปพูดกับนักการเมืองรุ่นใหญ่คนหนึ่งว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น คำตอบคือ...รออีกสักพักนะครับ พรรคจะมีการปรับอะไรบางอย่าง แล้วเราก็คุยกันอีกหลายเรื่อง มาวันนี้เพื่อไทยเปลี่ยนโลโก้พรรค ซึ่งมี “นัยยะแฝง”

กูรอพรี่มาเฟียออนไลน์ทั่นนั้นมาหลายวันล่ะว่าจะแสดงจุดยืนอะไรมั้ย แต่ก็ไม่เห็นจะพูดอะไร ก็เงียบ อยากเข้าไปถามจริงๆ ว่าคิดยังไงกับโลโก้ใหม่ของพรรค คิดยังไงกับนัยยะแฝง พรรคไปไหนทิศทางนี้ คุณพรี่จะเอาไงต่อ? แต่คือโดนแม่งบล็อกไง”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ นายปกรณ์ พรชีวางกูร เปิดศึกวิวาทะทางโซเชียลกับ ส.ส.เพื่อไทย รายหนึ่งที่มีชื่อเสียงในย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วยกับม็อบโจมตีสถาบัน จนกระทั่งมีการโต้ตอบกันไปมา

จากนั้น นายปกรณ์ ได้โพสต์ถึงพรรคเพื่อไทย ว่า อย่าทำการเมืองแบบกล้าๆ กลัวๆ ไม่ต้องกลัวว่ามาแตะม็อบแล้วจะโดนยุบพรรค โดนยุบเพราะต่อสู้ ยังไงพวกเราก็เลือกแน่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งเด็กที่อยู่เบื้องหลังม็อบหลายคน ก็เด็กในโครงการ The Change Maker ทั้งนั้น แล้วปล่อยให้พรรคอื่นขย่มแบบนี้มาเป็นปีๆ ทำไม...

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้อ่านคงวิเคราะห์เองได้แล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร!?


กำลังโหลดความคิดเห็น