“ประยุทธ์” ประเดิมปฏิบัติภารกิจต่างประเทศครั้งแรก หลังมีโควิด ขนกระเป๋า 2 ใบใหญ่ บินสกอตแลนด์ ร่วมประชุม COP26 ถกสิ่งแวดล้อมโลก บ่นเสียดายไม่ได้อยู่ร่วมเปิดประเทศ เตือนอย่าสนุกจนเลยเถิดกัน
วันนี้ (31 ต.ค.)เมื่อเวลา 17.37 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พร้อมด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ รวม 30 คน เดินทางด้วยเครื่องบินแอร์บัส 340 ไปยังท่าอากาศยาน Glasgow Prestwick เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร เพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.- 3 พ.ย. 2564 โดยจะมีการแวะเติมน้ำมันตามจุดต่างๆ จึงต้องออกเดินทางจากประเทศไทยเร็วกว่ากำหนดเดิมที่วางไว้ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 18 ชั่วโมง
ทั้งนี้ นายกฯได้นำกระเป๋าเดินทางไปด้วย 2 ใบขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ถือเป็นการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศเป็นครั้งแรก ภายหลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลก
จากนั้นเวลา 17.38 น. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทาง ว่า นายกฯมีความจำเป็นต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ ที่มีความสำคัญเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม โดยมี รมว.ต่างประเทศ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมเดินทางไปด้วย เป็นการไปแสดงวิศัยทัศน์ และแถลงการณ์ที่จะกล่าวในที่ประชุมหลายสิบประเทศด้วยกัน เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมในความร่วมมือลดภาวะโลกร้อนและก๊าซเรือนกระจก โดยเรามีแผนอย่างต่อเนื่องสามารถชี้แจงได้ คิดว่า เป็นประเด็นสำคัญของโลกที่จำเป็นต้องไปและประเทศไทยก็ถือเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว กรณีโลกร้อนเกิน 2 องศาขึ้นไป หลายประเทศก็เดือดร้อน เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย น้ำทะเลก็จะสูงขึ้น ประเทศของเราก็มีความเสี่ยง เพราะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.และหลายจังหวัด จะทำหน้าที่ของพวกเราให้ดีที่สุด เพื่อชื่อเสียงของคนไทย ชื่อเสียงของประเทศไทย เราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้เราต้องยอมรับซึ่งกันและกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เสียดายที่ในวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเปิดประเทศ ตนไม่ได้อยู่ แต่ตนได้สั่งการกำชับกับทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความร่วมมือของคนไทยทุกคนต้องมีส่วนร่วม เพราะมีการเคลื่อนไหวไปมา มีการประพฤติปฏิบัติตนตามวิถีของตน จึงต้องเตือนกันว่า เวลานี้ไม่ใช่วาระปกติ จะสนุกสนานกันเลยเถิดไม่ได้ ฉะนั้น ต้องมีกติกากันอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ได้อยากไปห้ามอะไรต่างๆ เพียงแต่ถ้าไม่ทำก็จะเดือดร้อนกันอีก และจะไปห้ามกันอย่างไร เศรษฐกิจก็จะเดินไม่ได้ การท่องเที่ยวก็จะไม่ฟื้นตัว เชื่อว่า ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตนก็จะติดตามดู ขอให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองต่อไปด้วยน้ำมือของคนไทยทุกคน เราต้องช่วยกัน